อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ หมายถึง ผู้ที่ประกอบอาชีพโดยไม่มีนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชา รายได้ที่ได้รับมาจากการให้บริการหรือขายสินค้าให้กับบุคคลหรือองค์กรต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะไม่ได้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายจากลูกค้าหรือผู้จ้างงาน จึงทำให้ต้องมีหน้าที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยตัวเอง
ฟรีแลนซ์ยื่นภาษี 2567 ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ค่าจ้างที่ฟรีแลนซ์ได้รับจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากลูกค้าหรือผู้จ้างงาน เพื่อนำส่งกรมสรรพากรตามที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ที่เป็นฟรีแลนซ์ หรืออยู่ในประเภทรับเหมาหรือบริการ รายได้ที่ได้รับจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% จากนั้นผู้จ้างงานจะออกหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือที่เรียกว่า ใบ 50 ทวิ ให้กับฟรีแลนซ์เก็บเอาไว้ เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีเงินได้ประจำปี
เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นภาษี สำหรับอาชีพฟรีแลนนซ์
เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ได้แก่
- ใบแนบแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) ในกรณีที่มีรายได้ที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย
- เอกสารประกอบค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ เช่น ใบเสร็จค่าเดินทาง ค่ากินอยู่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันสุขภาพ ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น
และถ้าหาก ฟรีแลนซ์ไม่มีใบหักภาษี ณ ที่จ่าย จะเป็นอะไรหรือไม่?
หากมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากผู้จ้างงาน ใบหักภาษี ณ ที่จ่ายหรือเอกสาร 50 ทวิ อาชีพอิสระและฟรีแลนซ์ทุกคนควรต้องมี เพื่อป้องกันการยื่นภาษีผิดพลาด ตัวเลขไม่ตรงกับกรมสรรพากร ซึ่งหากเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรขอตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้นั่นเองครับ
ฟรีแลนซ์ยื่นภาษี ภ.ง.ด. อะไร?
ค่าจ้างที่ฟรีแลนซ์ได้รับจัดเป็น “เงินได้ประเภทที่ 2” หรือเงินได้ตามมาตรา 40(2) คือ เงินค่าจ้างทั่วไป ค่าคอมมิชชั่น หรือค่าตอบแทนที่คุณไม่ได้อยู่ในฐานะเจ้านายลูกน้อง หรือรายได้ในรูปแบบของการรับจ้างทั่วไป รับทำงานให้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ซึ่งผู้ที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(1) ถึง (8) เป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90 และให้ ยื่นภาษีในช่วงระหว่างเดือนมกราคม – มีนาคมของทุกปี
ขั้นตอนในการยื่นภาษี
สามารถยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ 2 ช่องทาง ดังนี้
- ยื่นภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต โดยใช้ระบบ e-filing ของกรมสรรพากร โดยสามารถยื่นได้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคมของทุกปี
- ยื่นภาษีด้วยตนเอง ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา โดยสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป
วิธีการคำนวณภาษี คิดอย่างไร?
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ จะคำนวณจากรายได้สุทธิ ซึ่งได้แก่ รายได้รวม – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน
อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเป็นไปตามขั้นบันได โดยแบ่งออกเป็น 15 ขั้น ดังนี้
- รายได้สุทธิไม่เกิน 150,000 บาท เสียภาษี 0%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 150,001-300,000 บาท เสียภาษี 5%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 300,001-500,000 บาท เสียภาษี 10%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 500,001-750,000 บาท เสียภาษี 15%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาท เสียภาษี 20%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 1,000,001-1,500,000 บาท เสียภาษี 25%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 1,500,001-2,000,000 บาท เสียภาษี 30%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 2,000,001-3,000,000 บาท เสียภาษี 35%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 3,000,001-4,000,000 บาท เสียภาษี 40%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 4,000,001-5,000,000 บาท เสียภาษี 45%
- รายได้สุทธิตั้งแต่ 5,000,001 บาทขึ้นไป เสียภาษี 50%
ฟรีแลนซ์เอาอะไรไปลดหย่อนภาษีได้บ้าง
ค่าจ้างที่ฟรีแลนซ์ได้รับจัดเป็น “เงินได้ประเภทที่ 2” หรือเงินได้ตามมาตรา 40(2) ซึ่งสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของเงินได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท และหักค่าลดหย่อนส่วนตัวได้อีก 60,000 บาท แต่หากคุณเป็นทั้งพนักงานประจำผู้มีเงินได้ตามมาตรา 40(1) และเป็นฟรีแลนซ์ผู้มีเงินได้ตามมาตรา 40(2) ด้วยนั้น สามารถหักค่าใช้จ่ายรวมกันต้องไม่เกินจำนวนดังกล่าวเท่านั้น
ค่าลดหย่อนภาษี
อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ มีสิทธิได้รับค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ ดังนี้
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าจ้างแรงงานต่างด้าว 20,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพ 25,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันชีวิต 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าเบี้ยการศึกษาบุตร 15,000 บาท/บุตร/ปี
- ค่าลดหย่อนค่าอุปการะคนพิการ 100,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) 30% ของเงินลงทุนสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
- ค่าลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 30% ของเงินลงทุนสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท
วิธีคำนวณอัตราภาษีเงินได้
วิธีการคำนวณภาษีเงินได้สำหรับฟรีแลนซ์แบบง่าย ๆ คือ นำเงินได้ทั้งปี หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามมาตรา 40(2) จะออกมาเป็นเงินได้สุทธิ จากนั้นดูว่าเราต้องจ่ายอัตราภาษีที่ขั้นไหน แล้วจึงหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ที่เราเคยโดนหักไปแล้วจากผู้จ้างงาน ก็จะทำให้ได้จำนวนเงินที่จะต้องเสียภาษีจริง ๆ เช่น
เงินได้ทั้งปี 500,000 – 100,000 – 60,000 = เงินได้สุทธิ 340,000 บาท
ต้องเสียภาษี 340,000 x 10% = 34,000 บาท
หักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ที่จ่ายไปแล้ว จะได้จำนวนเงินที่จะต้องเสียภาษีจริง ๆ
สรุป
อาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์มีหน้าที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นเดียวกับ บุคคลธรรมดาทั่วไป เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นภาษี ได้แก่ ใบแนบแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ) และเอกสารประกอบค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเป็นไปตามขั้นบันได โดยแบ่งออกเป็น 15 ขั้น และอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์