seoรูปภาพ

การทำ seoรูปภาพ 8 ความลับที่คุณไม่รู้

 
 

วิธีการทำSeoรูปภาพ สำหรับการปรับแก้ภาพ หรือใส่แคปชั่นในรูปภาพอย่างไรให้เหมาะสมกับการทำSeo 

 

1.ขนาดของรูปภาพต้องชัดเจนและคุณภาพดี

 

บางคนอาจมีความคิดว่าแค่ถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือมาก็เอามาใช้ในเว็บได้แล้ว แต่ว่าจริงๆแล้ว resolution ที่ต้องมีในขนาดรูปภาพบนเว็บ ควรจะอยู่ระหว่าง 1280 x 800 พิกเซล หากเป็นขนาดของแบนเนอร์ ควรจะอยู่ที่ 1920 x … หรือ 1600 x …. พิกเซล

 ภาพโลโก้ ภาพไอคอน แต่ว่านี่ก็เป็นตัวเลขคาดการณ์นะครับ จะต้องมองว่ารูปภาพที่ใช้จะอยู่ส่วนไหนของเว็บ จะเป็นแบนเนอร์ บทความ ลิสท์ผลิตภัณฑ์ หรือภาพโปรไฟล์ 

จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้นะครับ ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดไฟล์ใหญ่ไปเว็บของคุณจะโหลดหนักรวมทั้งภาพมาช้ากว่าก็นำมาซึ่งการทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิดแล้วก็ปิดไปได้

 

2.ขนาดภาพที่ SEO ชอบ

 

การโหลดได้เร็วเป็นจุดที่ google ให้ความเอาใจใส่ครับ เป็นเว็บมารูปภาพก็จำเป็นต้องมา ยิ่ง UX แล้วก็SEOเร็วเท่าไร ก็ยิ่งเป็นช่องทางที่ลูกค้าหรือผู้เข้าชมจะพึงพอใจแล้วก็ใช้บริการคุณมากขึ้นเรื่อยๆเพียงแค่นั้น

 ดังเช่นว่า ใช้รูปภาพขนาดใหญ่ (2500 x 1500) ในกรอบแสดงผลลัพธ์ขนาดเล็ก (250 x 150) เพียงนี้ก็เข้าใจแล้วว่า การแสดงผลจะคืออะไร โดยเหตุนั้น 

ควรจะปรับส่วนนี้ให้สมควรรวมทั้งภาพจำต้องชัดเจนด้วยนะครับ

 

3.ตั้งชื่อรูปภาพให้สอดคล้องกับเนื้อหา

 

บางเวลาพวกเราชอบคิดว่า ก็แค่รูปภาพจะเขียนเป็นคำว่าอะไรก็ได้ จะเป็นรหัสตัวเลขก็ได้ หรือจะเป็นชื่อผู้ถ่ายภาพก็ได้ ตามใจฉัน แต่ว่ารู้ไหมครับว่าคุณกำลังพลาดโอกาสที่คุณจะค้นหาเว็บหรือบริการของคุณพบ

 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรจะตั้งชื่อภาพให้สอดคล้องกับแคปชั่นที่ต้องการสื่อด้วยครับ

 

4.เตรียมภาพประกอบในใจระหว่างเขียนเนื้อหา

 

สุดแต่วิธีของแต่ละคนเลยครับ บางคนเขียนไปหารูปภาพไป บางคนเขียนเสร็จค่อยหารูป บางคนหารูปก่อนค่อยเขียน ก็อยู่ที่ขั้นตอนการเขียนงานในใจของผู้เขียนว่าจะใช้แบบไหน บางทีวาดภาพในหัวว่าจะเขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

 ก็คิดในหัวว่าจะอยากได้ภาพแบบไหน หรือบางคนก็ติดสปีดเขียนให้หลังจากที่เสร็จแล้วก็จึงค่อยมาจับใจความระหว่างเรื่องที่เขียนว่าจะใช้ภาพ ราวๆไหนดี

 

5.หารูปภาพจากแหล่งฟรีก็ได้

 

ากเราไม่สะดวกจะถ่ายภาพ หรือกังวลว่าความสามารถในการถ่ายภาพให้สวยและคุณภาพดีอาจจะไม่ใช่ทางของคุณ ไม่เป็นไรครับ ลองเลือกใช้ภาพจากเว็บไซต์ที่เปิดให้ใช้งานได้ จะมาจากเว็บไซต์แจกภาพฟรี หรือเสียเงิน

และมีทางเลือกหลากหลายกว่าก็ได้นะครับ
เว็บไซต์ที่มีทั้งให้ใช้งานฟรีและเสียเงิน จะมีเงื่อนไขคือใช้สำหรับประกอบเนื้อหาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในเชิงพานิชย์ หรือภาพที่เอ็กซ์คลูซีฟมากๆ ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ส่วนเว็บไซต์แจกภาพฟรี


ก็เช่น unsplash, pixabay, pinterest, pexels, grappik เป็นต้น


ส่วนเว็บไซต์ภาพสวยแต่ต้องจ่ายเงินก็เช่น shutterstock, eyeem, shopify เป็นต้น


สามารถเข้าไปดูรูปภาพสวยๆได้เลยนะครับ

 

6.รูปภาพต้องเหมาะสมกับเรื่องราว

 

หากในเนื้อหาของเราเขียนว่า “ยินดีต้อนรับสู่บริษัทของเรา” แต่กลับเป็นภาพที่ไม่สื่อหรือใช้ภาพ stock ก็อาจจะดูไม่โปร ดังนั้น ลองใช้ภาพที่เราถ่ายเองมาประกอบจะช่วยให้ภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ

และSEO ก็จะตรวจจับเจอแบรนด์ของคุณเร็วขึ้นและจะจัดอันดับเว็บของคุณให้ดีขึ้นครับ

 

7.ควรจะต้องมีภาพประกอบเสมอในเนื้อหา

 

แน่นอนครับว่ายุคนี้ รูปภาพสวยๆจะช่วยกระตุ้นให้คนอยากเข้ามาดูแบรนด์หรือเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ซึ่งภาพใน google มีจำนวนมากกว่าล้านภาพแล้วจะทำอย่างไร?

ให้ผู้คนที่ค้นหา จะสามารถมองเห็นภาพประกอบหรือภาพจากเนื้อหาของเรากันบ้าง หรือดึงดูดให้คนอยากคลิกติดตามเพจของเราต่อไป


คำแนะนำที่ง่ายที่สุดคือ ต้องมีภาพประกอบที่สอดคล้องกับเรื่องราวที่คุณเขียนทุกครั้ง เพราะการค้นหาของผู้คนนั้น นอกจากอ่านข้อความ ภาพประกอบก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้พวกเขาอยากคลิกเข้าไปดู 

แม้คุณจะมีภาพที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวเลยแต่ใส่SEOเพื่ออธิบายให้ระบบ AI รับรู้ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของผู้ที่ค้นหาเช่นกัน

 

8.คำอธิบายช่วยในการทำ seo ได้

 

คำอธิบายภาพเปรียบเสมือนอีกหนึ่งประตูที่ช่วยให้ระบบของ google เข้าใจความหมายของภาพได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับเวลาที่คุณทำคำคมใส่แคปชั่นเท่ๆ นั่นละครับ หากใต้ภาพมีการบรรยายเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็แล้วแต่ จะช่วยให้ระบบSEOสแกนภาพออกมาได้ดีขึ้น

 เพราะองค์ประกอบของภาพที่ช่วยเรื่องการสแกน จะประกอบด้วย หัวเรื่อง, ตัวพิมพ์ใหญ่, ข้อความตัวหนา, ข้อความที่เน้น, รายการหัวข้อย่อย, กราฟิก, คำบรรยายใต้ภาพ, ประโยคหัวข้อ และสารบัญ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ขาดไม่ได้เลยนะครับ 


ในส่วนนี้หรือสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคนิคการทำSEOยังไงให้ติดอันดับ ที่นี้ 

อีกหนึ่งข้อสงสัยที่น่าสนใจคือ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีคำอธิบายในทุกภาพ (ในบทความเดียวกัน) คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ เรามีคำอธิบายภาพเพียงจุดสำคัญที่คาดว่าจะดึงดูดใจผู้อ่านก็พอ (ประมาณว่าจุดไฮไลต์ของบทความนี้เท่านั้นครับ)เช่นเดียวกัน การทำภาพปกวีดีโอ หรือภาพประกอบในคลิป 

นอกจากรายละเอียดที่ใส่ในคลิปจะดึงดูดใจให้คนอยากคลิกดูแล้วการใส่ description ก็ช่วยให้คลิปหรือภาพประกอบนั้น แสดงผลบนSEOได้ดีเช่นเดียวกัน


ฉะนั้น อย่าลืมนำรายละเอียดเหล่านี้ไปปรับใช้ในการทำSEOของภาพกันนะครับ

 

Scroll to Top

Fasttacks ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่าประเภทคุ้กกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก