ปี 2023 กันแล้วอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่เร็วกว่าจนตามไม่ทัน ก็คือการอัปเดตเทรนด์ใหม่ และแนวโน้มต่อไปในปี 2023 เสียมากกว่า เพราะทุก ๆ แพลตฟอร์มก็จะมีเป้าหมาย และสิ่งดึงดูดเหล่าครีเอเตอร์ และแบรนด์แตกต่างกันไป รวมถึง TikTok ก็มีแนวทางใหม่ ๆ ที่กำลังจะมาถึงเช่นกัน แต่ใครกลัวตามไม่ทันไม่ต้องห่วง มาดูกันได้เลยว่าปี 2023 สำหรับ Tiktok มีแนวโน้มอะไรบ้าง
9 แนวโน้มสำคัญใน Tiktok ในปี 2023
1.TikTok กลายเป็นแพลตฟอร์มหลักของคนยุคนี้
หากเป็นยุคก่อนเวลาที่ผู้คนตื่นมาคงจะเช็กอีเมล มาจนถึง Facebook และ LINE เป็นปกติ แต่พฤติกรรมของผู้ใช้ได้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะทุกครั้งที่ว่าง เป็นต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถฟีด TikTok หรือแม้กระทั่งตื่นหรือก่อนนอน TikTok ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว
คนจะใช้เวลากับ TikTok เพิ่มขึ้น
เพราะคนใช้เวลากับ TiKTok มากขึ้น ระยะเวลาการไถฟีดก็จะมีไปเรื่อย ๆ แอป TiKTok จึงเปรียบเสมือนกับมหาสมุทรคอนเทนต์ หรือ Oceans of Contents ไปแล้ว
ฉะนั้นไม่ว่าใครที่พึ่งกระโดดเข้ามาในแพลตฟอร์มนี้ หรือเป็นคนที่อยู่ในสนามการแข่งขันคอนเทนต์นี้อยู่แล้ว คงต้องเตรียมแรงผลิตคอนเทนต์เอาไว้ให้เยอะ ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กับการไถฟีด และการมองเห็นของผู้ใช้ให้มากที่สุดไปด้วย
แบรนด์จะมาหารายได้จากโฆษณามากขึ้น
พฤติกรรมของคนเสพ TikTok เพิ่มมากขึ้น และยิ่งคนเยอะ แบรนด์ก็ยิ่งเยอะเช่นกัน เกิดเป็นการแข่งขันทั้งครีเอเตอร์ และแบรนด์ด้วยในการแข่งกันโฆษณาทำให้กลุ่มเป้าหมายของตัวเองมองเห็นบนแพลตฟอร์มนี้
2.อัปเกรดให้ครีเอเตอร์ และแบรนด์ทำธุรกิจง่ายขึ้น
ในช่วงนี้ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง Facebook, Instagram, YouTube หรือแพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนต์อย่าง TikTok ต่างก็พากันมีนโยบาย และเครื่องมืออัปเดตใหม่เพื่อสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ของครีเอเตอร์ให้ง่ายขึ้น
รวมถึงในด้านแบรนด์ และเอเจนซี TikTok ก็มีการส่งเสริมด้วยรูปแบบการโฆษณาไปพร้อม ๆ กับครีเอเตอร์ให้คอยอัปเดตเทรนด์ และพฤติกรรมผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์ทั่วโลกเลยทีเดียว
พัฒนา Creative Center คอยอัปเดตเทรนด์ทั่วโลก
Creative Center คือเครื่องมือที่ครีเอเตอร์ แบรนด์ และเอเจนซีสามารถมาอัปเดตกระแสความนิยมของแฮชแท็ก, เพลงที่กำลังมาแรง, ครีเอเตอร์ตัวท็อป และคลิปวิดีโอ TiKTok ที่ปัง ๆ ได้ในครั้งเดียว
โดยสามารถเลือกส่องความนิยม และเทรนด์บน TikTok ได้ทั่วโลก ซึ่งเลือกประเทศที่จะดูเทรนด์ทั้งหมดนี้ได้ตั้งแต่อันดับ 1-100 หรือจะเลือกเป็นช่วงอย่างเมื่อวาน, 30 วันที่แล้ว หรือแม้แต่ 120 วันที่แล้วก็มีข้อมูลให้เปรีบเทียบ และดูแนวดน้มได้เช่นกัน
ต่อยอด WooCommerce เสิร์ฟด้าน TikTok Commerce
WooCommerce คือเครื่องมือ.Open Source ปลั๊กอินที่ช่วยให้แบรนด์สามารถใช้เทคโนโลยี AI ประกอบกับอัลกอริทึมต่าง ๆ ให้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นไวรัลได้ โดยการซิงก์ร้านค้า หรือแคตตาล็อกก่อนที่จะเชื่อมต่อกันบน TikTok ได้
พร้อมมีเครื่องมือการสร้าง in-feed ads หรือโฆษณาที่แฝงไปกับคอนเทนต์หน้าฟีด และ lead gen ads ที่เสิร์ฟโฆษณาให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นด้วย ซึ่ง TikTok จะนำมาต่อยอด และพัฒนาอีกจนสร้างคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และครีเอเตอร์ได้
3.เน้นการเสิร์ชเพื่อ Gen Z โดยเฉพาะ
Gen Z เป็นคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลากับแอป TiKTok มากที่สุด และมีบทบาทในการสร้างความเปลี่ยนแปลงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลก ฉะนั้นการที่ TikTok เริ่มที่จะมาโฟกัสการเป็น Search Engine พ่วงตำแหน่งคู่แข่งของ Google ไปด้วย นับเป็นอีกการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้
เสิร์ชจากคอมเมนต์ง่ายกว่าเสิร์ชจากแฮชแท็ก
ในตอนนี้เวลาที่ผู้คนจะเสิร์ชหาอะไร การมีแค่ข้อมูลเสิร์ฟให้นั้นไม่เพียงพอ แต่ผู้คนต้องการความมีวิชวลเข้ามาด้วย และ TikTok กับ Instagram ก็นับว่าตอบโจทย์ในการเป็น Search Engine ยุคนี้เป็นอย่างมาก
แต่ TikTok จะเพิ่มการเสิร์ชจากคอมเมนต์ด้วย ซึ่งตอนนี้เริ่มทำการทดสอบกับผู้ใช้บางกลุ่มแล้ว โดยเพิ่มความสามารถในการเสิร์ช คลิกไปยังคำบนคอมเมนต์ที่ต้องการค้นหาได้ด้วย ‘Searchable Buttons’ เพื่อค้นหาไปยังคำตอบอื่น ๆ จากคลิป หรือครีเอเตอร์คนอื่นที่มีคีย์เวิร์ดเดียวกัน โดย TikToker น่าจะเสิร์ชได้เหมือนกันในอนาคตอันใกล้นี้
ใช้การเสิร์ชเป็น SEO ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
TikTok มีสิ่งที่เหนือกว่าทุกแพลตฟอร์มนั่นก็คือ การเป็นตัวนำเทรนด์โดยที่ไม่ต้องเสิร์ชหาเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะอัลกอริทึมของ TikTok จะเสิร์ฟคอนเทนต์ตามความสนใจของผู้ใช้แต่ละคนเอง และบางครั้งเราก็เจอสิ่งที่ตามหาอัตโนมัติ หรือบางครั้งก็ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ โดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน ดังนั้นการไถฟีด TikTok ที่มีแต่ความชอบของเราจึงกลายเป็นเรื่องสนุกที่หยุดไม่ได้
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: วิธีทำ Tiktok seo ได้ที่นี่
4.คอนเทนต์ Local จะเพิ่มมากขึ้น
เมื่อ TikTok เริ่มก้าวเข้าไปในสนาม Search Engine ความเป็นท้องถิ่น หรือคอนเทนต์ ‘near by’ ก็เริ่มถูกฉายสปอตไลท์ไปบ้างแล้วเช่นกัน เพราะเราจะได้เห็นคอนเทนต์จากสถานที่ หรือแถบที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น
เริ่มมีแนะนำคอนเทนต์ ‘nearby’
นอกจากฟีด TikTok จะมีแต่คอนเทนต์คลิปวิดีโอที่ตรงตามความชอบ และพฤติกรรมการไถฟีดของผู้ใช้แล้ว ต่อจากนี้ก็จะไปโฟกัสกับคอนเทนต์ท้องถิ่น หรือใกล้เคียงมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งเราเรียกว่า near by นั่นเอง
อาจจมีแท็บ ‘nearby’ ในอนาคต
แท็บ nearyby ที่ว่าในอนาคต อาจจะเรียกว่าแท็บ ‘Near You’ ที่ไว้ส่องคอนเทนต์จากละแวกใกล้เคียงโดยเฉพาะ และเราก็จะสามารถหาสถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านอาหารใกล้เคียงตามสถานที่ ๆ ไปง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเสิร์ชเลยนั่นเอง
และความเป็น TikTok ทุกคนก็จะสามารถส่องคอนเทนต์ที่มีทั้งการรีวิวจากครีเอเตอร์ที่มีความเป็นกันเองอยู่ด้วย ทำให้ประกอบการตัดสินใจไม่ยากว่าควรไปหรือไม่
5.เตรียมขยาย Creator Licensing ในการโฆษณา
ในเมื่อคนหันมาเป็นครีเอเตอร์ หรือเสพคอนเทนต์วิดีโอสั้นบน TikTok เยอะขึ้น สิ่งที่ตามมาอย่างแน่นอนก็คือโฆษณา แต่ TikTok จะไม่ทำให้โฆษณากลายเป็นเรื่องน่ารำคาญสำหรับผู้ใช้ ทำให้แบรนด์เลือกที่จะใช้ฟังก์ชัน In-Feed Ads มากขึ้นเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย
กระตุ้นการดูโฆษณาจากแอคเคานท์ครีเอเตอร์
หลายคนตามเหล่าครีเอเตอร์บน TikTok เพราะชอบความคิดสร้างสรรค์ ความครีเอทีฟในคอนเทนต์ และ TikTok ก็จะนำสิ่งนี้มาใช้กับโฆษณาด้วย โดยการมี Creator Licensing ให้ครีเอเตอร์เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นการดูโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ มากขึ้น
ลดการกดข้ามโฆษณาขณะไถจอ
และหากโฆษณามีความน่าสนใจ และดึงดูดความน่าสนใจให้ดูจนจบเพียงพอ แบรนด์ก็แทบไม่ต้องลงแรงอะไร นอกจากเลือกครีเอเตอร์ให้เหมาะกับแบรนด์ และพร้อมที่จะสร้างคอนเทนต์ให้ผู้ชมดูโดยที่ไม่ต้องกดข้ามโฆษณาเลยนั่นเอง
6.หลายอุตสาหกรรมจะเริ่มโตบน TikTok
ช่วงโควิดระบาด นอกจาก TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนความสนุก และความคิดสร้างสรรค์ของคนทั่วโลกแล้ว หลาย ๆ อุตสาหกรรมก็ยังเติบโตมากขึ้น หลังมีการสร้างแคมเปญ หรือสร้างชาเลนจ์ให้คนเล่นตามบน TIkTok อีกด้วย
Beauty – ความงาม และเครื่องสำอาง
เครื่องสำอาง บิวตี้บล็อกเกอร์ นับเป็นเทรนด์แรกที่ใครหลาย ๆ คนชอบดูบน TikTok และมันก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
RecipeTok – การทำอาหารตามสูตร
หากพูดถึง TikTok จะขาดเรื่องของการทำอาหารไปไม่ได้ เพราะผู้คนชอบที่จะได้รู้สูตรการทำต่าง ๆ ที่เข้าถึงง่าย รวมึงทำตามได้เองที่บ้านด้วย
ThriftTok – Gen Z สร้างคอมมูนิตี้ของตัวเองบน TikTok
หลายคอมมูนิตี้เริ่มมีการจับกลุ่มใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะกับ Gen Z ที่มีความสนใจเฉพาะกลุ่มอย่างหลากหลาย และแม้แต่การทำ ASMR ก็เติบโตเป็นคอมมูนิตี้หนึ่งได้
BookTok – คอมมูนิตี้คนรักหนังสือใหญ่ขึ้น
ในประเทศไทยอาจจะยังไม่ค่อยเห็นคอมมูนิตี้หนังสือเติบโตมากนัก แต่ในต่างประเทศมีทั้งชาเลนจ์ และแคมเปญมากมายที่สนับสนุนคอมมูนิตี้นี้อยู่ เพราะแม้แต่การถ่ายรีวิวหนังสือ หรือถ่ายคลิปรีวิวร้านหนังสือ หรือห้องสมุดก็แมสได้นะ
7.ค่าโฆษณาจาก TikTok Ad จะสูงขึ้นอีก
ในตอนนี้การทำโฆษณาบน TikTok อาจจะยังไม่สูงนัก และทั้งครีเอเตอร์ หรือแบรนด์ก็สามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ในการโฆษณาเพิ่มการมองเห็นได้ แต่ในอนาคตมันอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป
แบรนด์ควรรีบใช้โอกาสที่ราคาต่ำอยู่ให้คุ้ม
โอาสที่มีอยู่ตอนนี้คือการใช้ฟังก์ชันการโฆษณาต่าง ๆ ของ TikTok ให้คุ้มค่า โดยเฉพาะกับฟังก์ชัน In-Feed Ads เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าถึงคนดูง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกดข้าม
เนื่องจากบางครั้งขณะไถฟีดเราก็ไม่รู้ตัวว่ากำลังดูโฆษณา จนกระทั่งขึ้นแถบสปอนเซอร์ในช่วงกลางหรือท้ายคลิป หรือแม้ผู้ใช้บางกลุ่มจะคุ้นชินกับแพทเทิร์นนี้แล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะรับชมต่อเพราะมีครีเอเตอร์ที่ชอบ และการรีวิวที่เข้าถึงง่ายให้รับชมนั่นเอง
8.ชาว TikToker จะได้ยอด Reach เป็นล้านยาก
ตอนนี้ใครยังไม่ลงสนาม TikTok ทางเราก็แนะนำว่าควรก้าวขา และมาเรียนรู้ ทำความเข้าใจก่อนก็ยังดี เพราะนับเป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่กำหนดทิศทางการตลาด และเทรนด์ของโลกไว้
คนจะมาลงสนามคอนเทนต์บน TikTok เยอะขึ้น
ใครที่หวังจะทำยอดเอ็นเกจเมนต์ รวมถึงยอด Reach ก็ควรลงคลิป และเริ่งทำในช่วงนี้ให้มากที่สุด เพราะในปี 2023 การแข่งขันนี้จะดุเดือดไม่น้อย และการได้ Reach หรือเพิ่มยอดผู้ติดตามอาจจไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
TikTok จะให้รางวัลครีเอเตอร์ที่แอ็กทีฟเป็นสิ่งล่อใจ
การมีครีเอเตอร์คอยสร้างสรรค์คอนเทนต์ครีเอทีฟให้บนแพลตฟอร์มนับล้านคนเป็นเรื่องดี และ TikTok ก็จะยังคงรักษามาตรฐานนั้นไว้ ด้วยการให้รางวัล หรือเพิ่มเครื่องมือใหม่ ๆ มาสนับสนุนวงการครีเอเตอร์อย่างแน่นอนเช่น การส่งเสริมด้วยอัลกอริทึม, การเพิ่มการมองเห็นผ่านการโปรโมตคลิปวิดีโอบน Foy Your Page หรือหน้าฟีดมากขึ้น
9.ปี 2023 คือยุคทองของ Micro Influencer
ปี 2022 นับเป็นยุคทองของอาชีฟอินฟลูเอนเซอร์แล้ว แต่ปี 2023 จะเป็นปีทองของเหล่า Micro Influencer มากขึ้นไปอีก!
ครีเอเตอร์เติบโตด้วยคอมมูนิตี้ของตัวเอง
ครีเอเตอร์ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการมีฐานแฟนที่แน่น เช่นเหล่าคนดังหรือเซเลบริตี้เหมือนแต่ก่อน แต่ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็สามารถเป็นครีเอเตอร์ได้ เพียงแค่มีคอนเทนต์ที่แปลก แหวกแนวตลาด ก็สามารถกลายมาเป็นไวรัล หรือผู้นำเทรนด์บางอย่างได้เช่นกัน
และหลังจากการสร้างไวรัล หรือฐานผู้ชมได้บางส่วนแล้ว
การลงคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอก็ยิ่งช่วยให้มีฐานผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเองเรื่อย ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งครีเอเตอร์จะต้องรู้จักสร้างคอนเทนต์ และสร้างคอมมูนิตี้ของตัวเองให้เติบโตไปพร้อม ๆ กันได้ ยิ่ง Niche ยิ่งดีต่อคอมมูนิตี้ และแบรนด์
คำว่า ‘Mass’ ในตอนนี้มักจะเริ่มมาจากความเป็น ‘Niche’ มาก่อน และไม่ว่าคุณจะเป็นครีเอเตอร์ หรือแบรนด์สายไหนก็สามารถเปลี่ยนจาก Niche กลายมาเป็น Mass ได้ เพียงแค่รู้จักสร้างความเชื่อใจ และจริงใจให้กับผู้ติดตาม
หรือต่อให้ช่องของเราไม่ได้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ Mass นัก ความ Niche ก็มีความเหนียวแน่นมากพอที่จะทำให้ช่องนั้น ๆ ไปต่อได้
เป็นอีกข้อดีที่ทำให้แบรนด์เริ่มมี Segment ใหม่ ๆ ในการกระจายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ส่วนครีเอเตอร์ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ที่อยู่ในหมวด Niche มาก ๆ ได้ตามความชอบ โดยไม่ต้องคำนึงว่าจะมีใครดูไหมเหมือนแต่ก่อนด้วย
สรุป
TikTok Trends 2023 ในปีหน้านับว่าจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น และน่าตื่นเต้นมากขึ้นแน่นอน เพราะทุกวันนี้มีครีเอเตอร์หน้าใหม่ แบรนด์ใหม่ และเทรนด์ใหม่เกิดขึ้นไม่ซ้ำกันอยู่ตลอด
สิ่งที่น่ากลัวอาจไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ แต่เป็นการที่คุณยังไม่เชื่อในตัวเองจนไม่ได้ลงมือทำมากกว่า ฉะนั้นอย่ารอช้า เมื่อรู้ก่อน ทำก่อน และเตรียมตัวก่อนได้ แล้วสักวันหนึ่งโลกจะได้รู้จักคุณ
สนใจใช้บริการการตลาดออนไลน์ ติดต่อได้ที่ FAST TACKS บริการรับทำการตลาดออนไลน์