เคล็ดลับ การทำSeo หากเราไม่รู้หลักการที่ถูกต้องเราจะไม่มีทางที่จะทำให้เว็บไซต์หรือบทความของเรานั้น ถูกgoogle จัดอันดับได้เลย ดังนั้นเราจึงต้องมีหลักการและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำให้เว็บไซต์ของเรานั้น ถูกจัดลำดับได้อย่างถูกต้อง วันนี้ทาง Fast tacks เลยจะมาแนะนำเคล็ดลับ ให้เพื่อนๆได้เอาไปใช้ประโยชน์กันนะครับ
SEO คืออะไร?
SEO คือ Search Engine Optimization เป็นกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และหน้าเว็บของเรา เพื่อรับการเข้าชมจากเครื่องมือค้นหาอย่าง Google การใช้เว็บไซต์ ค้นหาร้านจักรยานมือสอง ในพื้นที่ใกล้เคียง
ตัวอย่าง หากเรากำลังมองหาจักรยานมือสองคุณภาพดีและราคาไม่แพง และเรากำลังต้องการค้นหาจากการสำรวจข้อมูลอันกว้างใหญ่ของ Google เราก็จะพิมพ์ลงในแถบค้นหาว่า ‘จักรยานมือสองคุณภาพดี ราคาถูก’ ในช่องค้นหา หากร้านจักรยานในระแวกพื้นที่ หรือในพื้นที่ใกล้เคียงนั้น ให้
ความสำคัญกับการออกแบบเว็บไซต์และเนื้อหาที่สอดคล้องกับกฎ SEO เว็บไซต์นั้นก็จะปรากฏบนหน้าผลการค้นหาสูง หากเราอยากรู้ว่าทำอย่างไรให้ เว็บของเรานั้นมีโอกาสติดอันดับ สามารถอ่านได้ที่>>ทำ SEO ปี 2022 ที่จะช่วยให้เว็บคุณติดอันดับ
ทำไมการทำSEO จึงมีความสำคัญ?
ผู้คนบนโลกออนไลน์นั้นย่อมค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงมีค่ามากสำหรับคนทำเว็บไซต์ที่จะต้องให้มีการเข้าชมสูงๆ สำหรับเว็บไซต์ใด ๆ ที่มีบทความมากมายจากคนที่ทำcontent ที่แตกต่างกัน และเนื้อหาที่ปรากฏในผลการค้นหาสูง แสดงว่าเนื้อหาของเว็บไซต์
นั้นจะถูกอ่านมากยิ่งขึ้น มีการแชร์มากขึ้น และในทางกลับกัน มีความหน้าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราด้วย . สิ่งเหล่านี้จะเป็นกุญแจที่นำลูกค้าของเราให้ติดต่อเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา หรือเว็บของนั้นมีบทความ ที่เค้ากำลังอยากรู้ และแก้ปัญหา ให้เค้าได้
และเว็บของเราจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับ คนที่เข้ามาในเว็บของเรา
8 เคล็ดลับการทำSEO ในการเขียนบทความ
เคล็ดลับ การทำSEO นั้นไม่ได้จำกัดหรือเป็นแค่การสร้างคอนทนต์เท่านั้น แต่แนวทางการทำSeo ที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจการวางตำแหน่งของเว็บไซต์และเนื้อหาภายใน ให้อยู่ในอันดับที่มีลำดับสูงขึ้นในเครื่องมือการค้นหาต่างๆของGoogle ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด
1.ใส่ใจกับคำหลัก
สิ่งแรกคือเราต้องเตรียม คือ คำหลัก หรือ Keyword ที่นิยมและผู้คนกำลังค้นหาจำนวนมากๆ เราต้องเข้าใจผู้อ่านเป้าหมายและคำค้นหาก่อนว่าพวกเขากำลังค้นหาอะไร หากต้องการทราบสิ่งนี้ เราสามารถถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ได้เหมือนกันเช่น:
- ความสนใจของเขาคืออะไร?
- เราจะแก้ปัญหาของพวกเขาได้อย่างไร
- คู่แข่งของคุณคือใคร? (เว็บไซต์ที่คล้ายกัน วิธีการทำcontent ที่คล้ายกัน ฯลฯ)
ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถหาไอเดีย ในโลกออนไลน์มากมายที่จะช่วยให้เราตรวจสอบKeywordเช่น: UberSuggest , WordStream , Google Trends และSEM Rush
2.อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดไว้ในบทความ
อย่าลืมใส่คำหลักหรือKeyword ที่สำคัญไว้ในชื่อหัวข้อหรือบน title tag ส่วนหัว H1 หรือ H2 เสิร์ชเอ็นจิ้นจะเรียนรู้หัวข้อของบทความและหน้าpageโดยค้นหาKeyword ที่เกิดขึ้นในบทความนั้น ดังนั้นจำนวนของkeyword ที่จะช่วยในเรื่อง SEO ซึ่งหมายความว่าเราควรใส่ข้อความสำคัญลงในเนื้อหาของเราอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ควรใส่Keyword ซ้ำๆกันจำนวนมากในบทความ
แนะนำอยู่ระหว่าง 0.5% – 3% ภายในบทความถือว่าเพียงพอแล้ว
เพราะสิ่งต่าง ๆในเนื้อหาที่เราทำนั้น ควรมีความสมดุล แนะนำเคล็ดลับง่ายๆ คือ ใส่keywordสำคัญไว้ในปริมาณที่เหมาะสมลงไปในบทความของเรา แต่หากใส่น้อยเกินไปก็ทำร้ายอันดับ มีมากเกินไปปรากฏเป็นสแปมและอาจถูกลงโทษโดยเครื่องมือค้นหาของ Google ฉะนั้นควรต้องรู้ด้วยว่าต้องใส่เท่าไหร่
3.ต้องเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพสูง
เนื้อหาหรือสิ่งที่เรากำลังจะเขียน ให้ถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ว่า: เราสามารถเสนออะไรให้คนที่กำลังค้นหาอยากรู้ได้บ้าง? เราสามารถให้บริการอะไรได้บ้าง? เราสามารถแบ่งปันความรู้อะไรได้บ้าง?
แนะนำประเภทของเนื้อหาที่สามารถแชร์ได้:
- สิ่งที่แก้ปัญหาผู้อ่านได้
- ค้นหาว่าอะไรกำลังเป็นที่นิยมและใหม่ในสายงานของเรา และเราสามารถเพิ่มข้อมูลเชิงลึกลงไปในบทความและสร้างความคิดเห็นเพิ่มเติมได้
- ทำให้เนื้อหาของเรานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและสามารถแบ่งปันเนื้อหา ให้กับผู้ชมอื่นได้อย่างมีประโยชน์
4.ทำเนื้อหาให้มีความยาวพอกับการรองรับการทำSeo
เครื่องมือค้นหาของGoogle นั้นถือว่าต้องการเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง และต้องการบทความที่มีความยาวโดยทั่วไปแล้ว600 คำนี้ก็ถือว่าไม่เลว หากบทความของคุณนั้นถือว่ามีเนื้อหาที่มีประโยชน์กับผู้อ่าน แต่ถ้าเราสามารถทำให้บทความนั้นมีความยาวได้ถึง 1,000 คำ
หรือมากกว่านั้นได้ก็จะยิ่งดีมากๆ ด้วยเนื้อหาที่ยาวขึ้น เราจะให้คุณค่ากับผู้อ่านได้มากขึ้น และทำให้พวกผู้ที่เข้ามาอ่านนั้นอยู่บนเว็บไซต์ได้นานขึ้น
5.การตั้งชื่อรูปภาพและขนาดที่เหมาะสมที่สุด
เครื่องมือค้นหาของGoogle นั้นจำเป็นต้อง ‘อ่าน’ รูปภาพผ่านชื่อ ที่เราตั้ง และจัดอันดับตามนั้น ดังนั้นอย่าลืมใส่ข้อความสำคัญในการตั้งชื่อรูปภาพของเราด้วยนะครับ และยังสามารถช่วยเพิ่มอันดับของรูปภาพเมื่อผู้ใช้ค้นหารูปภาพโดยใช้คำสำคัญหรือkeywordที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่างง่ายๆครับ
• ผู้คนมักตั้งชื่อรูปภาพอย่างไร?: “รูปที่ 1”, “ดอกไม้ 1” เป็นต้น
• ชื่อรูปภาพของเรานั้นควรจะตั้งชื่ออย่างไร: “5เคล็ดลับสำหรับเครื่องมือค้นหา” หรือ “แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO-in-2020”
ขนาดภาพที่มีความเหมาะคือต่ำกว่า 70kb หากรูปภาพของคุณใหญ่กว่า ลองใช้การบีบอัดรูปภาพ ได้ที่ เช่นTinyPNG , TinyJPG , WeCompress เพื่อทำให้ไฟล์รูปภาพนั้นมีขนาดเล็กลง รูปภาพขนาดเล็กจะใช้เวลาโหลดน้อยลง และช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเข้าชมของผู้ใช้ได้อีกด้วย
6.มีbacklinkคุณภาพสูง
ปริมาณและคุณภาพของลิงก์ (ที่เราลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ) บนหน้าเว็บของเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณอัลกอริทึมของGoogle ด้วย เพราะเสิร์ชเอ็นจิ้นชอบเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากกว่า เช่น sanook.com มากกว่าลิงก์จากบล็อกหรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก และบทความที่ข้อมูลที่เชื่อถือได้จะถือว่ามีคุณภาพดีกว่ามาก
7.ปรับแต่งเนื้อหาและคอนเทนต์ของเราอยู่ตลอด
พยายามเรียบรู้บทความที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงและพยายามนำมาปรับวิธีการเขียนที่น่าสนใจ ให้เป็นในรูปแบบของเรา หรืออาจจะลองใช้ย่อหน้าและประโยคที่สั้นและกระชับ อีกวิธีก็คือเราหาคนเก่งๆในการเขียนบทความเพื่อปรับเนื้อหาให้น่าสนใจและแก้ไขบทความของเราอยู่ตลอด
8.โปรโมทบทความของเรา
การทำคอนเทนต์และจบไปนั้น ไม่ควรเป็นจุดสิ้นสุด ของคนที่ต้องการทำให้บทความนั้นมีเนื้อหาที่ต้องการการมีส่วนร่วม ดังนั้นครับ อย่าลืมแชร์บทความของเรากับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานต่างๆ และทุกคนที่เราคิดว่าจะสนใจ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเรา เช่น Facebook,ig,หรือที่ต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ และพยายามทำให้บทความนั้นมีส่วนร่วมกับผู้ชมของเรา
สรุป
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด จำไว้เลยครับ เคล็ดลับ การทำseo ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนครับที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำบทความ น้อยกว่าในด้านการทำseoเลย แต่เราสามารถกลับมาดูเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ได้ตลอดเวลาครับ ในขณะที่เรากำลังเตรียมบทความแต่ละบทความของเรา เพียงเราอดทนและลงมือทำสนุกกับการเขียนออกไป! ครับ และวันหนึ่งผลลัพธ์ที่คุณทำจะแสดงผลออกมาให้เห็นครับ
สำหรับใคร ที่กำลังสนใจการทำ SEO เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณอยู่ล่ะก็ ทาง Fast tacks ยินดีให้คำปรึกษา และแนะนำให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางครับผม
เรื่องที่คุณอาจสนใจ