ความรู้โฆษณาออนไลน์

หลักสูตร “Global Citizen” ออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและพัฒนาทักษะของผู้เรียนให้เป็นพลเมืองโลกที่มีความรู้และความสามารถในการปรับตัวและทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

รวมถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ผ่านการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัล การวิเคราะห์ข้อมูล ความเข้าใจในปัญหาโลก และการพัฒนาทัศนคติที่เน้นการเป็นผู้ประกอบการและการมีส่วนร่วมทางสังคมหลักสูตรนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนโลกที่มีความเข้าใจและความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ภาพรวมหลักสูตร

• พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับการเป็นพลเมืองโลกในศตวรรษที่ 21
• เรียนรู้เกี่ยวกับประเด็นท้าทายระดับโลก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยากจน และความขัดแย้ง
• ศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ผ่านมุมมองของพลเมืองโลก
• พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน
• เตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ท้าทายและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

เนื้อหามีอะไรบ้าง?

• บทที่ 1 การเปลี่ยนแปลงของโลกและ Global Citizen
• บทที่ 2 แนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัล
• บทที่ 3 Generative AI
• บทที่ 4 ChatGPT
• บทที่ 5 ทักษะแห่งอนาคต
• บทที่ 6 ทักษะแห่งดิจิทัล
• บทที่ 7 องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

ต้องเป็นสมาชิกก่อนเข้าเรียนนะ

สมัครสมาชิกได้ที่ลิงก์นี้ได้เลย

เรียนจบ มีใบเซอร์ให้ (ผู้เรียนต้องเข้าเรียนให้ครบและทำคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 80%)
คอร์สออนไลน์ สอนฟรีโดย ม. ศิลปากร เข้าเรียนได้ตามวันและเวลาที่สะดวก

Google เปิดตัวโมเดล AI ใหม่ “Imagen 3” และ “VEO” ซึ่งสามารถพิมพ์คำสั่งเพื่อสร้างรูปภาพและวิดีโอคุณภาพสูงได้ Imagen 3 คือโมเดล AI ตัวใหม่ล่าสุดที่ขึ้นชื่อว่าสามารถสร้างรูปภาพได้ดีที่สุดในปัจจุบัน, VEO สามารถสร้างสร้างคลิปออกมาให้มีความละเอียดสูงถึง 1080P นาน 60 วินาที และยังเข้าใจศัพท์ทางภาพยนตร์ด้วย

Google ภายในงาน I/O 2024 ยังได้มีการเปิดตัว Music AI Sandbox ที่จะเข้ามาพลิกวงการเพลง เพราะสามารถช่วยงานโปรดิวเซอร์และนักแต่งเพลงในอนาคตได้ ซึ่งจะทำให้การทำเพลงกลายเป็นเรื่องง่าย

Google ภายในงาน I/O 2024 ได้เปิด 2 โมเดล AI ใหม่ ได้แก่ Imagen 3 และ VEO ซึ่งสามารถสร้างได้ทั้งรูปภาพและวิดีโอ โดยกูเกิลได้เพิ่มความสมจริงและเข้าใจคำสั่งได้ดียิ่งขึ้น ส่วน VEO ก็สามารถสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้นานถึง 60 วินาที

Google ถือเป็นแรงขับเคลื่อนของการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งภายในงาน Google I/O 2024 ได้มีการเปิดตัวโมเดลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Imagen 3 ที่สามารถช่วยสร้างรูปภาพตามคำสั่งได้ , VEO สามารถช่วยสร้างวิดีโอคุณภาพสูงได้ยาวถึง 60 วินาที ซึ่งเราจะพามาดูกันว่าโมเดล AI ตัวใหม่ของกูเกิลจะน่าสนใจมากแค่ไหน

VEO คืออะไร?

VEO คือโมเดลสร้างวิดีโอตัวใหม่ของ Google ที่ใช้งานบน VideoFX ผู้ใช้งานสามารถป้อนข้อมูลทั้ง ข้อความ, ภาพ, หรือวิดีโอที่มีอยู่ลงไป จากนั้น AI จะสร้างวิดีโอออกมาให้สมบูรณ์ และยังสามารถยืดวิดีโอออกมาให้ยาวขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากใครมีคลิปสั้นๆและต้องการต่อให้ยาว AI ก็จะสร้างฉากที่เหลือออกมาให้ตามความเหมาะสม

VEO สามารถสร้างคลิปออกมาให้มีความละเอียดสูงถึง 1080P นาน 60 วินาที ซึ่งสามารถทำได้ทั้งภาพเสมือนจริง, ภาพเหนือความจริง, Animation และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งโมเดลนี้สามารถปรับแต่งและควบคุมผลงานได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เข้าใจศัพท์ทางภาพยนตร์และสร้างฟุตเทจที่มีความสอดคล้องกับคำสั่งได้ ทำให้ภาพมีความสมจริงในทุกช็อต และในอนาคตจะมีการนำ VEO มาใช้บนช่องทางอื่น ๆ อย่างพวก YouTube Shorts ด้วย

Imagen 3 คืออะไร?

Imagen 3 โมเดลสำหรับสร้างภาพที่ใช้งานบน ImageFX ที่ทาง Google ได้เคลมว่าเป็นโมเดลสำหรับสร้างภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะว่า สามารถเข้าใจคำค้นหาของมนุษย์มากขึ้น และสร้างภาพที่ค่อนข้างสมจริง ทั้งแสง สี และรายละเอียดของภาพ ช่วยค้นหาได้ตั้งแต่ภาพสเก็ตช์ ไปจนถึงภาพที่มีความละเอียดสูงและรบกวนสายตาน้อยที่สุดแบบภาพด้านล่างนี้

Google VEO มีข้อดีอะไรบ้าง?

• ป้อนข้อความที่ต้องการสร้างให้เป็นวิดีโอ โดยที่ไม่ต้องมีความรู้ด้านการตัดต่อวิดีโอ หรือเขียนสคริปต์เลย
• รองรับทั้งภาพเสมือนจริง (Virtual Reality), ภาพเหนือความจริง (Augmented Reality), แอนิเมชั่น และอื่นๆ
• ปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ของวิดีโอได้ตามใจ เช่น ฉาก แสง สี ตัวละคร บทพูด เพลงประกอบ ฯลฯ
• วิดีโอที่สร้างจะมีความละเอียดสูงถึง 1080p
• สามารถใช้วิดีโอที่สร้างในเชิงพาณิชย์ได้ เช่น สื่อการสอน โฆษณา คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย

สรุป

ในงาน Google I/O 2024 ประกาศว่า Google Veo จะเปิดให้ทดลองเวอร์ชันเบต้า เฉพาะกับกลุ่มครีเอเตอร์และศิลปิน นอกจากนี้ในตัวอย่างที่แสดงของ Google Veo ยังมีจุดอ่อน เช่น พื้นหลังเปลี่ยนกะทันหัน รายละเอียดภาพไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นตัว Google Veo จึงต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมผ่านการใช้งานจริง ในช่วงนี้ Google Veo จึงเปิดหาผู้สมัครใช้งานเวอร์ชันเบต้า

สามารถเข้าไปสมัครที่เว็บ http://labs.google/trustedtester เพื่อใช้งานเวอร์ชันเบต้าได้เลย แต่ต้องเป็นครีเอเตอร์หรือศิลปินถึงจะใช้งานเวอร์ชันทดสอบนี้ได้ แต่น่าเสียดายที่ในประเทศไทยยังไม่เปิดให้ทดลองใช้งาน Google Veo เวอร์ชันเบต้าในขณะนี้

ที่มา:https://9to5google.com/2024/05/14/only-creators-can-try-google-veo/

วันนี้ทาง fast tacks จะมาแนะนำคอร์สการเรียนเขียนโปรแกรมจาก ม.จุฬา คอร์ส Learn Python Language Basics and Fundamental Data Processing รุ่นที่ 3 นี้ เป็นคอร์สออนไลน์บนแพลตฟอร์ม CU-MOOC มุ่งสอนพื้นฐานภาษา Python เนื้อหาครอบคลุมทั้งไวยากรณ์ภาษา Python โครงสร้างโปรแกรม

ประเภทข้อมูล การควบคุมการไหลของโปรแกรม ฟังก์ชัน และการประมวลผลข้อมูลพื้นฐาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการเรียนรู้ภาษา Python ภาษาโปรแกรมยอดนิยมที่ใช้งานได้หลากหลาย สอนตั้งแต่การติดตั้ง การเขียนโปรแกรม การจัดการข้อมูล ไปจนถึงการประมวลผลข้อมูลเบื้องต้น

สรุปรีวิวคอร์ส ภาษา Python สั้นๆ

• เนื้อหาครบถ้วน: คอร์สนี้สอนเนื้อหาพื้นฐานภาษา Python ครอบคลุมทุกหัวข้อที่จำเป็นสำหรับผู้เริ่มต้น
• เข้าใจง่าย: อาจารย์อธิบายเนื้อหาอย่างชัดเจน มีตัวอย่างประกอบ และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย
• ฝึกปฏิบัติ: คอร์สนี้เน้นการฝึกปฏิบัติ มีแบบฝึกหัดให้ลองทำในแต่ละหัวข้อ ช่วยให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง
• ฟรี: คอร์สนี้เปิดสอนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
• เข้าถึงได้ง่าย: คอร์สนี้เป็นคอร์สออนไลน์ สามารถเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา

เนื้อหาในคอร์สเรียนภาษา Python มีอะไรบ้าง ?

• บทที่ 1: ทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือ
• บทที่ 2: เริ่มเขียนโปรแกรม Python ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
• บทที่ 3: เขียนโปรแกรม Python เพื่อสร้างโปรแกรมประยุกต์เบื้องต้น
• บทที่ 4: รู้จักและใช้งานโครงสร้างการเก็บชุดข้อมูล
• บทที่ 5: เขียนโปรแกรม Python ให้มีลักษณะ Modular

แบ่งออกเป็น 5 โมดูล ดังนี้

• โมดูลที่ 1: บทนำสู่ Python: แนะนำภาษา Python ประเภทของโปรแกรม เครื่องมือสำหรับเขียนโปรแกรม Python และวิธีติดตั้ง Python
• โมดูลที่ 2: พื้นฐานไวยากรณ์ภาษา Python: สอนไวยากรณ์พื้นฐานของภาษา Python เช่น ตัวแปร ประเภทข้อมูล ผู้ดำเนินการ คำสั่งควบคุมการไหลของโปรแกรม ฟังก์ชัน โมดูล และแพ็กเกจ
• โมดูลที่ 3: การประมวลผลข้อมูลพื้นฐาน: สอนวิธีการทำงานกับข้อมูลประเภทต่างๆ เช่น ตัวเลข ข้อความ รายการ และพจนานุกรม
• โมดูลที่ 4: การเขียนโปรแกรม Python เบื้องต้น: สอนเทคนิคการเขียนโปรแกรม Python เช่น การจัดการไฟล์ การทำงานกับอินพุตและเอาต์พุต และการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ
• โมดูลที่ 5: แหล่งข้อมูลและเครื่องมือ: แนะนำแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ภาษา Python เพิ่มเติม

ประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนคอร์ส Python

• เรียนรู้พื้นฐานภาษา Python
• เข้าใจไวยากรณ์และโครงสร้างโปรแกรม Python
• เขียนโปรแกรม Python เบื้องต้นได้
• ประมวลผลข้อมูลพื้นฐานด้วย Python
• รู้จักแหล่งข้อมูลและเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ภาษา Python เพิ่มเติม

คอร์สการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python เหมาะกับใครบ้าง?

• ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมมาก่อน
• ผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษา Python สำหรับการเริ่มต้น
• นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการเรียนรู้ภาษา Python เพิ่มเติม
• บุคคลทั่วไปที่สนใจเรียนรู้ภาษา Python

สรุป

คอร์ส Learn Python Language Basics and Fundamental Data Processing รุ่นที่ 3 นี้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ภาษา Python เนื้อหาครบถ้วน เข้าใจง่าย เน้นการฝึกปฏิบัติ และสามารถเรียนฟรี หากคุณกำลังมองหาคอร์สเรียนภาษา Python คอร์สนี้เป็นตัวเลือกที่ดี สามารถลงทะเบียนเรียนได้เลยก่อนทางจุฬา จะปิดให้ลงทะเบียนนะครับ ไม่อยากพลาดคอร์สดีๆ แบบนี้ ลุย

Google Cloud Next กำลังเปิดตัว Google Vids ซึ่งเป็นแอปสร้างวิดีโอใหม่ล่าสุดที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการทำงาน Aparna Pappu รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของ Google Workspace บอกเลยว่า google ปีนี้อัปเดทฟีเจอร์ ใหม่ๆออกมาให้เราใช้งานอย่างเยอะมากๆ

Google Vids คืออะไร ?

Google Vids คือ AI ตัวใหม่จาก Google ที่จะเข้ามาช่วยให้การทำวิดีโอสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในงาน Google Cloud Next ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เป็น AI-powered video creation app for work หรือแอปพลิเคชันสำหรับสร้างวิดีโอเพื่อการทำงานที่ขับเคลื่อนโดย AI

Google มองหาวิธีใช้ AI เพื่อช่วยลูกค้าพัฒนาเนื้อหาที่สร้างสรรค์ และเมื่อวันอังคารที่การประชุมลูกค้า Google Cloud Next ในลาสเวกัส Google ได้เปิดตัวเครื่องมือสร้างวิดีโอที่ใช้ AI ใหม่ที่เรียกว่า Google Vids เครื่องมือนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพ Google Workspace เมื่อเปิดตัว

แนวคิดคือการจัดเตรียมเครื่องมือสร้างวิดีโอควบคู่ไปกับเครื่องมือ Workspace อื่นๆเช่น เอกสารและชีต ที่มีความสามารถคล้ายกันในการสร้างและทำงานร่วมกันในเบราว์เซอร์ ยกเว้นในกรณีนี้คือในวิดีโอ “นี่คือผู้ช่วยตัดต่อ การเขียน และการผลิตวิดีโอของคุณ ทั้งหมดในที่เดียว” Pappu กล่าว “เราช่วยแปลงสินทรัพย์ที่คุณมีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสำเนาทางการตลาด รูปภาพ หรือสิ่งอื่นใดในไดรฟ์ของคุณ ให้กลายเป็นวิดีโอที่น่าสนใจ”

เช่นเดียวกับเครื่องมืออื่นๆ ของ Google Workspace เราสามารถทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานแบบเรียลไทม์ในเบราว์เซอร์ได้ “ไม่จำเป็นต้องส่งอีเมลไฟล์กลับไปกลับมา คุณและทีมของคุณสามารถทำงานกับเรื่องราวได้ในเวลาเดียวกันด้วยการควบคุมการเข้าถึงและการรักษาความปลอดภัยแบบเดียวกับที่เรามอบให้กับ Workspace ทั้งหมด” เธอกล่าว

ตัวอย่าง วิดีโอประเภทต่างๆ ที่ผู้คนสร้างด้วย Google Vids ได้แก่ การเสนอขายผลิตภัณฑ์ เนื้อหาการฝึกอบรม หรือวิดีโอของทีมเฉลิมฉลอง เช่นเดียวกับเครื่องมือ AI ทั่วไป Google Vids เริ่มต้นด้วยข้อความแจ้ง คุณป้อนคำอธิบายว่าคุณต้องการให้วิดีโอมีลักษณะอย่างไร จากนั้นคุณจึงสามารถเข้าถึงไฟล์ใน Google Drive ของคุณ หรือใช้เนื้อหาในคลังที่ Google ให้มา และ AI จะทำงาน โดยสร้างสตอรี่บอร์ดของวิดีโอตามแนวคิดของคุณ

จากนั้นคุณสามารถเรียงลำดับส่วนต่างๆ ของวิดีโอใหม่ เพิ่มทรานซิชั่น เลือกเทมเพลตและแทรกแทร็กเสียงที่คุณบันทึกเสียงหรือเพิ่มสคริปต์ จากนั้นเสียงที่ตั้งไว้ล่วงหน้าจะอ่านได้ เมื่อคุณพอใจแล้ว คุณสามารถสร้างวิดีโอได้ ตลอดวิธีที่เพื่อนร่วมงานแสดงความคิดเห็นหรือเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเดียวกับเครื่องมือ Google Workspace

ขณะนี้ Google Vids อยู่ในการทดสอบแบบจำกัด ในเดือนมิถุนายน จะมีการเปิดตัวสำหรับผู้ทดสอบเพิ่มเติมใน Google Labs และจะพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าที่สมัครสมาชิก Gemini for Workspace ได้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ

ที่มา: Google’s new AI-powered

วันนี้ทาง fasttacks จะมาแนะนำ เครื่องมือที่กำลังฮิตกันอีก 1 ตัว จาก Haiper AI เครื่องมือที่จะช่วยสร้าง video ด้วย ai จาก คำสั่งที่เราพิมพ์เข้าไปนั่นเองครับ Haiper AI นั่นเป็นเจนเนอเรทีฟ AI สำหรับการสร้างวิดีโอ มันได้รับการพัฒนาและเปิดตัวโดยศิษย์เก่าของ Google DeepMind, TikTok และทีมที่มีชื่อเสียงอื่นๆอีกมากมาย

ข้อดี

• ใช้งานได้ฟรีในช่วงเบต้า
• คุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การแปลงข้อความเป็นวิดีโอและรูปภาพเป็นวิดีโอ
• ความสามารถในการปรับเปลี่ยนสี พื้นผิว และองค์ประกอบของวิดีโอด้วยฟีเจอร์การเปลี่ยนแปลงสีใหม่

ข้อเสีย

• จำกัดการสร้างคลิปสั้น (2-4 วินาที)
• ยังขาดความลึกของเครื่องมือแปลงข้อความเป็นวิดีโออื่นๆ
• วิดีโอที่ดาวน์โหลดมาติดลายน้ำจาก Haiper AI

Haiper AI คืออะไร?

Haiper AI คือ เครื่องมือที่เน้นไปที่การผลิตวิดีโอด้วย generative AI เครื่องมือนี้ สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ (2-4 วินาที) โดยใช้ข้อความและรูปภาพและยังสามารถ อัปโหลดและเปลี่ยนสีวิดีโอใหม่ ไปยัง ปรับเปลี่ยนสี พื้นผิว และองค์ประกอบอื่นๆได้อีกด้วย

Haiper AI ฟีเจอร์มีอะไรบ้าง?

สร้างวิดีโอด้วยคำสั่ง แค่พิมพ์ข้อความ

หากคุณต้องการทำให้จินตนาการของคุณเป็นจริง คุณสามารถพิมพ์ข้อความแจ้งในเครื่องมือ Haiper AI ได้เลย เปลี่ยนคำที่คุณเขียนให้เป็นวิดีโอ AI ทำงานได้ดี

สำหรับการทดสอบนี้ผมจะพิมพ์ข้อความที่ต้องการว่า

“แมวมองกาแล็กซีทางช้างเผือก”

นี่คือผลลัพธ์ที่ได้จาก Haiper AI

อีก ตัวอย่างเช่น พิมพ์ข้อความว่า “Avengers vs Kang the Conqueror”

ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างคลุมเครือ คังดูเหมือนธานอสมากกว่า ตัวร้ายของมาร์เวลอีกคน นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานระหว่างตัวละครอื่นๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถ สร้างวิดีโอความยาว 2-4 วินาทีเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นเครื่องมือสร้างข้อความเป็น GIF มากกว่าและ นอกจากนี้ คลิปที่ดาวน์โหลดมาจะมีโลโก้ Haiper AI อีกด้วย

สร้างวิดีโอจาก รูปภาพด้วย Haiper AI

ฟีเจอร์นี้เราสามารถเปลี่ยนภาพถ่ายของเราให้เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจได้ ใช้งานง่ายและช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวให้กับรูปภาพได้ดี แต่เช่นเดียวกับเครื่องมือ AI อื่นๆ มันไม่สมบูรณ์แบบและสามารถทำได้ บางครั้งเลือกช่วงการเปลี่ยนภาพหรือเอฟเฟ็กต์แปลกๆ นั่นไม่ตรงกับบรรยากาศที่เราต้องการเลย

ภาพสต็อกฟรีของบุคคลบนดวงจันทร์

ขอให้ Haiper AI แปลงเป็นวิดีโอของบุคคลที่กำลังเดินมายังโลก

นี่คือผลลัพธ์ที่ได้

ต่อผลลัพธ์ถัดมา ลองอัพโหลดรูปภาพ รถไฟ และขอให้มันเคลื่อนไหว ผลลัพธ์ที่ได้ออกมานั้นคือว่าโอเคเลยทีเดียว

วิธีการใช้งาน Haiper AI

การใช้ Haiper AI พร้อมแล้วมาทำไปพร้อมกันได้เลย

1.ไปที่ หน้าแรกของไฮเปอร์ AI และคลิกที่ ลองฟรี ปุ่ม

2.จากนั้นเข้าสู่ระบบด้วย Google ID หรือ Discord

3.หลังจากเข้าสู่ระบบสำเร็จ ให้เลือกเทมเพลตที่คุณต้องการเริ่มต้นด้วย ข้อความเป็นวิดีโอ รูปภาพเป็นวิดีโอ

4.พิมพ์ข้อความ อัปโหลดรูปภาพ หรือวิดีโอที่เราต้องการเปลี่ยนเพื่อใช้ในการวาดภาพ ขึ้นอยู่กับเทมเพลตของเรา

5.หลังจากพิมพ์ข้อความแจ้งแล้ว คุณอาจต้องรอให้ระบบสร้างขึ้น

6.ทันทีที่วิดีโอถูกสร้างขึ้น คุณสามารถคลิก ดาวน์โหลดไอคอน เพื่อบันทึกไว้ดูแบบออฟไลน์

7.หากคุณไม่พอใจกับผลลัพธ์ คุณสามารถสร้างใหม่ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถ แก้ไขพรอมต์และสร้างวิดีโอใหม่ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการเปลี่ยนสีใหม่อีกด้วย

8.ต่อไปคุณสามารถ ลบคลิปที่สร้างขึ้นหรือทำให้เป็นสาธารณะ/ส่วนตัว โดยคลิกไอคอนสามจุดถัดจากตัวเลือกการแก้ไข

Haiper AI ราคาเท่าไร?

ปัจจุบัน Haiper AI อยู่ใน เฟสเบต้าและใช้งานได้ฟรี เพียงแค่เราต้องมีบัญชีใน Google หรือ Discord

สรุป

Haiper AI ถือเป็นแอปที่น่าจับตามองสำหรับการสร้างวิดีโอโดยใช้ข้อความและรูปภาพ อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังเป็นช่วงเบต้า อาจจะต้องรอดูจากการพัฒนา และอัปเดทฟีเจอร์อื่นๆในอนาคตว่าจะทำออกมาได้ดีแค่ไหน ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานอย่างเรามากน้อยเท่าไร ครับ และหากปัจจุบันเรากำลังมองหาเครื่องมือ AI ในการสร้างและตัดต่อวิดีโอที่ครบครัน เมื่อพิจารณาถึงศักยภาพของมันแล้ว ตอนนี้ยังอาจจะต้องรอดูค่ายอื่นๆในอนาคตกันต่อไปด้วย

หลายคนอาจประสบปัญหากับการใช้เวลาเกะเทปเสียง หรือวิดีโอจากคลาสเรียน เสียงสัมภาษณ์ เสียงการประชุม งานสัมมนา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษที่อาจต้องใช้เวลายาวเช่นไฟล์เสียงความยาว 30 นาที อาจต้องใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง หรือหากเป็นภาษาอังกฤษก็ต้องใช้เวลานานกว่านั้นไปอีก Transkriptor เป็นแอปที่มีความสามารถในการถอดเสียงการประชุม เสียงสัมภาษณ์ เสียงในห้องเรียน รองรับไฟล์ทุกรูปแบบทั้งไฟล์วิดีโอ และไฟล์เสียง รวมถึงสามารถถอดเทปจากแหล่งอื่นๆเช่นจากลิงก์ YouTube จาก Google Drive หรือ One Drive ก็ได้

วิธีใช้งาน Transkriptor

เราสามารถใช้งานแอป Transkriptor ได้ทั้งผ่านเว็บไซต์ https://app.transkriptor.com/uploader หรือผ่านแอปพลิเคชั่นที่รองรับทั้ง iOS และ Android รวมไปถึงติดตั้งเป็น Extention ใน Google Chome ก็ได้

วิธีใช้เริ่มต้นง่ายๆด้วยการอัพโหลดไฟล์เสียงลงไปในโปรแกรมด้วยวิธีลากวาง หรือถ้าเป็นแหล่งที่มาจากลิงก์หรือในคลาวด์อื่นๆสามารถวางลิงก์ปลายทางลงไปได้ จากนั้นเลือกภาษาและเลือกบริการว่าจะแกะเป็นข้อความปกติ หรือจะนำไปใช้ต่อไปคำบรรยายคลิป ก็สามารถทำได้

Transkriptor คืออะไร?

Transkriptor คือ ตัวช่วยแปลงเสียงเป็นข้อความที่ประมวลผลผ่านการทำงานของ AI จากสตาร์ตอัพในสหรัฐ รองรับมากกว่า 100 ภาษา รวมถึงภาษาถิ่นของบางประเทศด้วย สามารถแปลงเสียงได้จากไฟล์ที่มีอยู่แล้ว หรืออัดเสียงด้วย Transkiptor และให้ AI ประมวลผลหลังจากอัดเสร็จได้เช่นกัน โดยระยะเวลาที่ใช้ในการแปลงเสียงเป็นข้อความขึ้นอยู่กับความยาวของไฟล์เสียงหรือวิดีโอต้นทาง

นอกจากนี้ Transkriptor ยังมีฟีเจอร์ส่งบอท (bot-robot) เข้าร่วมการประชุมแบบออนไลน์ เพื่อเป็นผู้ช่วยในการถอดเทปแบบเรียลไทม์และนำเนื้อหาการประชุมมาสรุปในภายหลัง รวมถึงมีฟีเจอร์ AI Chatbot ที่ช่วยสรุปเนื้อหาหรือหาข้อมูลจากไฟล์เสียงในเบื้องต้นเมื่อผู้ใช้ป้อนคำสั่งที่ต้องการเข้าไป

โดยผู้ใช้สามารถใช้งาน Transkriptor ได้บนเว็บไซต์ app.transkriptor.com (ใช้งานบน Chrome เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด), ติดตั้งเป็น Chrome Extension หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบน App Store และ Google Play Store ก็ได้เช่นกัน

ความน่าสนใจของ Transkriptor AI

หลังจากได้ทดลองใช้ Transkriptor มาสักระยะหนึ่ง จึงสรุปความน่าสนใจของแอปดังกล่าวมาเป็น 3 ข้อ ดังนี้

1. User Interface (UI) ใช้งานง่าย

User Interface ของ Transkriptor ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย มีลักษณะเป็นแดชบอร์ดแบ่งสัดส่วนของฟีเจอร์ต่าง ๆ อย่างชัดเจน โดยผู้ใช้สามารถเรียนรู้เครื่องมือต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียด หากเป็นการใช้งานฟีเจอร์ที่ซับซ้อนกว่าปกติ เช่น การส่งบอทเข้าไปเป็นผู้ช่วยถอดเสียงในการประชุมแบบออนไลน์ เป็นต้น

2. ทำงานกับไฟล์เสียงได้หลากหลายรูปแบบ

Transkriptor ถูกออกแบบระบบให้รองรับการแปลงไฟล์เสียงหลายรูปแบบ เช่น ไฟล์ที่อัดจากอุปกรณ์อื่น, ไฟล์ที่อัดบน Transkriptor แบบเรียลไทม์ และไฟล์วิดีโอบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่สามารถแปลงเสียงเป็นข้อความได้โดยใช้ลิงก์หรือ URL ของวิดีโอนั้น ๆ

3. นำข้อความไปใช้งานต่อได้ง่าย

ข้อความที่ได้หลังแปลงเสียงจะมีการแบ่งสัดส่วนของผู้พูดแต่ละคนในกรณีที่เป็นการถอดเทปบทสัมภาษณ์หรืองานสัมมนาที่มีการสื่อสารเกิดขึ้นตลอดเวลา อีกทั้งยังสามารถแก้ไขข้อความที่ผ่านการประมวลผลได้ทันที หรือจะดาวน์โหลดเป็นไฟล์ .doc มาใช้งานต่อบนโปรแกรม Microsoft Word หรือเป็นไฟล์ .srt เพื่อนำไปทำ subtitle ในวิดีโอต่อก็ได้เช่นกัน

transkriptor ราคาเท่าไร?

Lite: ราคา 350 บาทต่อเดือน สามารถใช้งานถอดเสียงเป็นข้อความได้ 300 นาที สามารถใช้งานอื่นๆอย่าง Speaktor แปลงข้อความเป็นเสียง 300 นาที และ Eskritor ผู้ช่วยสร้างเนื้อหาโดย AI 300 ชิ้นงาน

Premium: ราคา 24.99 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 876 บาทสามารถใช้งานถอดเสียงเป็นข้อความได้ 2,400 นาที สามารถใช้งานอื่นๆอย่าง Speaktor แปลงข้อความเป็นเสียง 2,400 นาที และ Eskritor ผู้ช่วยสร้างเนื้อหาโดย AI 2,400 ชิ้นงาน

สรุป

นี่คืออีกเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงานได้เป็นอย่างดีโดยนอกเหนือจากบริการถอดไฟล์เสียงเป็นข้อความด้วย AI แล้วยังมีบริการอย่าง Speaktor ไฟล์แปลงข้อความเป็นไฟล์เสียง รวมไปถึง Eskritor ผู้ช่วยเขียนอัจฉริยะที่จะมาช่วยทำงานไม่ว่าจะเป็นเขียนอีเมล์ เขียนบทความ เขียน Ad copy รวมถึง Product Description และอื่นๆได้อีกมากมาย

สำหรับใครหลายๆคนที่สนใจอยากอัปสกิลสาย Data ที่กำลังมาแรงมากๆ ในยุคนี้ แนะนำเลยว่าคอร์สนี้เก็บแชร์เก็บไว้เรียนกันได้เลย คอร์สเรียนฟรีจาก Microsoft ที่ได้เปิดหลักสูตร “Microsoft Power BI Data Analyst” ให้ทุกคนเข้าไปอัปสกิลแบบฟรีๆ กันเลย

คอร์สนี้เรียนกันยาวถึง 17 บทเรียน ที่จะพาทุกๆคนไปเริ่มต้นการใช้งานโปรแกรม Power BI เพื่อใช้ในการทำงานและจัดการข้อมูลได้อย่างมือโปรมากขึ้น ยิ่งใครสนใจงานสาย Data Analyst หรือ สายวิเคราะห์ข้อมูล บอกเลยว่าห้ามพลาด

คอร์สฟรี Microsoft Power BI Data Analyst

หลักสูตรนี้ครอบคลุมวิธีการต่างๆ ที่สำคัญทางธุรกิจและทางเทคนิคสําหรับการสร้างแบบจําลอง การแสดงภาพ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย Power BI คอร์สนี้จะแสดงวิธีการเข้าถึงและประมวลผลข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึงแหล่งข้อมูลทั้งเชิงสัมพันธ์และไม่ใช่เชิงสัมพันธ์ สุดท้ายคอร์สนี้จะกล่าวถึงวิธีจัดการและปรับใช้รายงานและแดชบอร์ดสําหรับการนำเสนออีกด้วย

เนื้อหามีอะไรบ้าง?

MODULE 1: Discover data analysis

ตัวอย่างหัวข้อ: ภาพรวมการวิเคราะห์ข้อมูล, หน้าที่ของข้อมูล, การทำงานของนักวิเคราะห์ข้อมูล

MODULE 2: Get started building with Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: สรุปพื้นฐานการใช้งาน Power BI

MODULE 3: Get data in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์, การรับข้อมูลออนไลน์, ปัญหาในการนำเข้าข้อมูล

MODULE 4: Clean, transform, and load data in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การนำเข้าข้อมูล, การแปลงข้อมูลคอลัมน์

MODULE 5: Design a semantic model in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การกำหนดรายละเอียดข้อมูล, การสร้างโมเดลข้อมูลด้วย Power BI

MODULE 6: Add measures to Power BI Desktop models

ตัวอย่างหัวข้อ: การคำนวณด้วย DAX, การสร้างตารางและคอลัมน์

MODULE 7: Add calculated tables and columns to Power BI Desktop models

ตัวอย่างหัวข้อ: การสร้างตารางการคำนวณ, เทคนิคการใช้คอลัมน์, รู้จักการใช้ Power Query

MODULE 8: Use DAX time intelligence functions in Power BI Desktop models

ตัวอย่างหัวข้อ: ฟังก์ชันการทำงานของ Data Analysis Expressions (DAX)

MODULE 9: Optimize a model for performance in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การใช้ตัวแปร, โมเดล DirectQuery, ตัวแปรสำหรับการแก้ไขปัญหา

MODULE 10: Design Power BI reports

ตัวอย่างหัวข้อ: การสรุปข้อมูลและออกแบบการรายงานด้วย Power BI

MODULE 11: Configure Power BI report filters

ตัวอย่างหัวข้อ: การจัดรูปแบบตัวกรองในรายงาน, เทคนิคการออกแบบขั้นสูง, กรณีศึกษา

MODULE 12: Enhance Power BI report designs for the user experience

ตัวอย่างหัวข้อ: การปรับปรุงรายงาน, การออกแบบรายงานเพื่อแสดงรายละเอียด, วิธีนำเสนอค่าสำคัญต่างๆ

MODULE 13: Perform analytics in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การวิเคราะห์ข้อมูล, วิธีจัดกลุ่มข้อมูล, การตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก, การวิเคราะห์ขั้นสูงด้วย AI Visuals

MODULE 14: Create and manage workspaces in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การสร้างและจัดการพื้นที่ทำงานใน Power BI, แนะนำกลยุทธ์การพัฒนา

MODULE 15: Manage semantic models in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: การใช้เกตเวย์ Power BI, การกำหนดค่าการรีเฟรช, การแก้ปัญหาการเชื่อมต่อ

MODULE 16: Create dashboards in Power BI

ตัวอย่างหัวข้อ: ความรู้เบื้องต้นในการสร้างแดชบอร์ด, กำหนดการแจ้งเตือนข้อมูล, การตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก

MODULE 17: Implement row-level security

ตัวอย่างหัวข้อ: การใช้งานและป้องกันข้อมูลด้วย Row Level Security (RLS)

วันนี้ทาง fast tacks ได้นำ 2 คอร์สเรียน สำหรับผู้ที่สนใจ เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python และ หารวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม excel คอร์สเรียนนี้ เรียนฟรี แถมยังมีใบเซอร์ให้อีกด้วย สำหรับใครสนใจมาดูรายละเอียด และสามารถลงทะเบียนเข้าเรียนกันได้เลย

ไพธอนพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้น | Python for beginners

คอร์สเรียนนี้ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ หลักการและวิธีการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอนเพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างชุดคำสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามต้องการในเบื้องต้นและต่อยอดไปพัฒนาเป็นชุดคำสั่งที่ซับซ้อนขึ้นได้ในอนาคต คอร์สนี้จะปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับผู้เริ่มต้นเรียนรู้ ตั้งแต่การแนะนำและติดตั้งซอฟต์แวร์ที่จำเป็น ประเภทของข้อมูลในภาษาไพธอน

ตัวดำเนินการและฟังก์ชันพื้นฐานต่าง ๆ การสร้างฟังก์ชันเฉพาะที่ระบุโดยผู้ใช้ การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุอย่างง่าย ไปจนถึงการเรียกใช้คลังของชุดคำสั่งที่สำคัญ ๆ เช่น NumPy, Pandas, Seaborn และ Matplotlib เพื่อให้ผู้เรียนสามารถดำเนินการทางคณิตศาสตร์ จัดการชุดข้อมูลจำนวนมาก พลอตกราฟอย่างง่ายและใช้แผนภูมิประเภทต่าง ๆ เพื่อนำเสนอข้อมูลได้

จำนวนชั่วโมงเรียนรู้

จำนวนชั่วโมงเรียนรู้ทั้งหมด 15 ชั่วโมงเรียนรู้ (จำนวนชั่วโมงสื่อวีดิทัศน์ 10 ชั่วโมง 21 นาที)

วัตถุประสงค์การเรียนรู้

1 ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้หลักการและวิธีการเขียนโปรแกรมในภาษาไพธอนเพื่อพัฒนาชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ได้

2 ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้คลังของชุดคำสั่ง NumPy เพื่อจัดการกับข้อมูลจำนวนมากที่เรียงลำดับกันหรือตัวแปรประเภท array ได้

3 ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้คลังของชุดคำสั่ง Pandas ในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากที่อยู่ในลักษณะของตารางข้อมูลได้

4 ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้คลังของชุดคำสั่ง Matplotlib และ Seaborn เพื่อสร้างกราฟและแผนภูมิเพื่อแสดงข้อมูลแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม

คุณสมบัติผู้เรียน

นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ที่สนใจสามารถเรียนได้

เกณฑ์การวัดผล

แบบทดสอบก่อนเรียน 0% แบบทดสอบระหว่างเรียนทุกบท 60% กิจกรรม Discussion (ไม่เก็บคะแนน) แบบทดสอบหลังเรียน (Final Exam) 40%

ผู้เรียนมีคะแนนรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70% ถือว่าผ่านเกณฑ์เพื่อรับประกาศนียบัตรในระบบได้

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ด้วย โปรแกรม MS Excel | Introduction to data analytics using MS Excel

ผู้เรียนจะได้เรียนรู้วิธีการใช้งานสูตรคำนวณและฟังก์ชันในโปรแกรม MS Excel เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและแปลผลสำหรับสถิติเชิงพรรณนา การสร้างชุดข้อมูลจากแบบสอบถามสำหรับการวิจัยเชิงสำรวจ การเลือกและสร้างตาราง แผนภาพ/แผนภูมิที่

สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ การประยุกต์การใช้งานคำสั่งจากเมนูใน Data Analysis (Excel Add-ins) สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การตรวจสอบการแจกแจงปกติของข้อมูลอย่างง่ายโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและกราฟ

จำนวนชั่วโมงเรียนรู้

จำนวนชั่วโมงเรียนรู้ทั้งหมด 11 ชั่วโมงเรียนรู้ (จำนวนชั่วโมงสื่อวีดิทัศน์ 7 ชั่วโมง 43 นาที)

วัตถุประสงค์การเรียนรู้

1: ผู้เรียนสามารถสร้างชุดข้อมูลจากแบบสอบถามได้

2: ผู้เรียนสามารถเลือกและสร้างตาราง แผนภาพ/แผนภูมิที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ ด้วยโปรแกรม Excel พร้อมทั้งอธิบายความหมายของกราฟดังกล่าวได้

3: ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นโดยใช้สูตรคำนวณ ฟังก์ชันทางสถิติ และคำสั่งจากเมนูใน Data Analysis (Excel Add-ins) ได้

4: ผู้เรียนสามารถตรวจสอบการแจกแจงปกติของข้อมูลอย่างง่ายได้

คุณสมบัติผู้เรียน

นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ที่สนใจสามารถเรียนได้

เกณฑ์การวัดผล

แบบทดสอบก่อนเรียน 0% แบบทดสอบระหว่างเรียนทุกบท 60% แบบทดสอบหลังเรียน (Final Exam) 40%

ผู้เรียนมีคะแนนรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70% ถือว่าผ่านเกณฑ์เพื่อรับประกาศนียบัตรในระบบได้

วันนี้ทาง fasttacks มี คอร์สเรียนสำหรับผู้ที่สนใจ หรือ นักวิเคราะห์ข้อมูล ที่ต้องเจอกับการทำงานด้านข้อมูลอยู่บ่อยๆ ด้วยโปรแกรม excel วันนี้เราเลย จะมาแนะนำ คอร์สเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น คอร์สเรียน Data Analytics ฟรี ด้วย โปรแกรม MS Excel สอนตั้งแต่ปูพื้นฐาน และที่สำคัญยังไม่พอ คือเรียนจบ มีใบเซอร์ให้กันด้วย สามารถเก็บไว้สร้างโปร์ไฟล์ การทำงาน หรือสมัครงานกันได้เลย

เนื้อหาในคอร์สเรียน Data Analytics ฟรี ด้วยโปรแกรม Excel

การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น ด้วย โปรแกรม MS Excel | Introduction to data analytics using MS Excel
คอร์สนี้จะได้เรียนรู้วิธีการใช้งานสูตรคำนวณและฟังก์ชันในโปรแกรม MS Excel เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและแปลผลสำหรับสถิติเชิงพรรณนา การสร้างชุดข้อมูลจากแบบสอบถามสำหรับการวิจัยเชิงสำรวจ การเลือกและสร้างตาราง แผนภาพ/แผนภูมิที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ การประยุกต์การใช้งานคำสั่งจากเมนูใน Data Analysis (Excel Add-ins) สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น การตรวจสอบการแจกแจงปกติของข้อมูลอย่างง่ายโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและกราฟ และยังสามารถนำไปต่อยอดกับการทำงาน ในอนาคตกันได้อีกด้วย

ระยะเวลาเรียน คอร์สเรียนฟรี Data Analytics ด้วยโปรแกรม excel

ระยะเวลาเรียน 11 ชั่วโมงเรียนรู้ (จำนวนชั่วโมงสื่อวีดิทัศน์ 7 ชั่วโมง 43 นาที)

จุดประสงค์สำหรับคอร์สเรียนฟรี Data Analytics ด้วยโปรแกรม excel

• สามารถสร้างชุดข้อมูลจากแบบสอบถามได้
• สามารถเลือกและสร้างตาราง แผนภาพ/แผนภูมิที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการนำเสนอ ด้วยโปรแกรม Excel พร้อมทั้งอธิบายความหมายของกราฟดังกล่าวได้
• สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นโดยใช้สูตรคำนวณ ฟังก์ชันทางสถิติ และคำสั่งจากเมนูใน Data Analysis (Excel Add-ins) ได้
• สามารถตรวจสอบการแจกแจงปกติของข้อมูลอย่างง่ายได้

คอร์สเรียนฟรี Data Analytics ด้วยโปรแกรม excel เหมาะกับใครบ้าง

• นักเรียน
• นักศึกษา
• และประชาชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ที่สนใจสามารถเรียนได้

เกณฑ์การวัดผล

แบบทดสอบก่อนเรียน 0% แบบทดสอบระหว่างเรียนทุกบท 60% แบบทดสอบหลังเรียน (Final Exam) 40%

เงื่อนไขการรับใบเซอร์

ผู้เรียนมีคะแนนรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 70% ถือว่าผ่านเกณฑ์เพื่อรับประกาศนียบัตรในระบบได้

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ถ้าใครพร้อมแล้ว กดเข้าเรียนได้ที่ด้านล่างนี้กันได้เลย ลุย