กราฟิกดีไซน์

ข่าวดีสำหรับคนที่ใช้ Canva เป็นประจำเพื่อสร้างการนำเสนองานประเภทเสียงหรือวิดีโอ วันนี้เราสามารถใช้ Botnoi Voice เพื่อสร้างเสียงพูดภาษาไทยได้จากข้อความแล้ว

Botnoi Voice คืออะไร?

Botnoi voice หรือ เสียงบอทน้อย คือ เทคโนโลยี Text To Speech สำหรับสร้างเสียงสังเคราะห์ AI ฝีมือคนไทย พัฒนาโดย BOTNOI Group ก่อตั้งเมื่อปี 2017 โดย ดร.วินน์ วรวุฒิคุณชัย ซึ่งบริการแรกที่พัฒนาออกมาคือ ‘บอทน้อย’ แชทบอทสัญชาติไทยที่คว้างรางวัล LINE BOT AWARD

Botnoi voice สามารถแปลงข้อความเป็นเสียงพูดได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีเสียงให้เลือกใช้หลากภาษา หลายสไตล์ มากกว่า 80 เสียง โดยเปิดให้ใช้งานผ่านเว็บ https://voice.botnoi.ai/ เน้นการใช้งานง่ายเพียงแค่พิมพ์ข้อความที่ต้องการ แล้วทำการเลือกภาษาและเสียงที่ต้องการ เช่น เสียงผู้ชายผู้หญิง ช่วยอายุ โทนเสียง รวมถึงความเร็วในการพูด ส่วนภาษานั้นคือ ไทย -อังกฤษ และภาษาประเทศเพื่อนบ้านอีก 8 ภาษาคือ จีน, ญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว เมียนมาร์ อินโดนีเซีย

จากนั้นกดสร้างเสียงและดาวน์โหลดเสียงไปใช้งานต่อ ได้หลายสถานการณ์ เช่น เสียงบรรยายในคลิปวิดีโอ ทำพรีเซนเทชัน ทำหนังสือเสียง เป็นต้น ซึ่งค่าบริการนั้นจะติดตามจำนวนตัวอักษรที่เราพิมพ์เข้าไป เริ่มต้นที่ 1 บาท / 40 ตัวอักษร (เฉลี่ย 10 บาท / 1 นาที) แต่ถ้าใครใช้เยอะก็มีแบบแพคเกจที่จ่ายได้ในราคาที่ถูกลง

Botnoi Voice ขยายการใช้งานสู่ Canva

ล่าสุดทาง Facebook ของ Botnoi Group ได้ประกาศความสำเร็จในการส่ง Botnoi Voice ไปอยู่บนแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Canva ซึ่งจะขยายโอกาสในการใช้งานให้ทั้งคนไทยและต่างชาติมากขึ้น

“Botnoi Voice ได้รับอนุมัติให้ขึ้น Canva แล้ว พยายามกันมา 3 เดือน แก้กันเป็นสิบ ๆ รอบ ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้าน แต่ทุกรอบที่ให้เราแก้ คือคำแนะนำจากทีมระดับโลก และตอบเร็วมาก ภายใน 2-3 วัน เราจะได้ feedback ใหม่ หรือไม่ก็ให้เราเลื่อนขั้นผ่านไปด่านถัดไป ลุ้นสุด ๆ บางทีพอไม่ผ่านต้องถอยกลับไปสองขั้น อย่างกะเล่นเกมบันไดงู เราได้ประสบการณ์ที่ล้ำค่าจริง ๆ ประทับใจ ทีมงาน Canva มาก ๆ มืออาชีพสุด ๆ

วันนี้น้องส่งข่าวมาตอนเช้า ผมเฮลั่นเลยครับ ดีใจมาก AI ตัวน้อย ๆ ได้ขึ้นไปอยู่ใน platform ระดับโลก Botnoi Voice จะใช้ง่าย มีประโยชน์มากขึ้น และจะออกสู่สายตาชาวโลกจริง ๆ สักที

สุดท้ายขอบคุณทีมงาน Botnoi ทุกคน (เราก้าวไปอีกขั้นแล้วนะ) ขอบคุณทุก ๆ ที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา อยากจะขอบคุณแอดเพริ์ธ Woratana Perth Ngarmtrakulchol ที่แนะนำผมให้สมัครเมื่อปีก่อน

และขอบคุณ Canva มาก ๆ เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมดีใจจริง ๆ”

ส่วนการใช้งานนั้นให้เราเข้าไปที่หัวข้อแอปพลิเคชันที่อยู่ด้านซ้ายมือของหน้าจอ จากนั้นให้พิมพ์ค้นหา Botnoi Voice แล้วกดเปิด จากนั้นระบบจะให้ทำการเชื่อมต่อกับระบบของ Botnoi เท่านี้ก็เรียบร้อย เริ่มใช้งานได้ทันที

ใครลองใช้งานแล้วเป็นยังไงบ้างสามารถแชร์ประสบการณ์ได้ เพื่อให้ผู้พัฒนานำไปปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น

ขั้นตอนการสมัครใช้งาน

1.เข้าไปยัง Canva และเลือกที่ ‘แอพ’ ตรงแถบเมนูด้านซ้าย
2.ค้นหาชื่อ ‘Botnoi Voice’ และเลือกที่ไอคอนตัวแรก
3.กด ‘เชื่อมต่อ’ เพื่อติดตั้งแอปเข้ากับบัญชี Canva (ขั้นตอนนี้สามารถเลือกได้ตามความสะดวกว่าจะ Login ผ่านบัญชี Gmail หรือบัญชี Line ก็ได้)

ขั้นตอนการ Generate เสียง

1.เลือก ‘Enter your text’ พิมพ์ข้อความที่ต้องการให้ AI ช่วยพากย์เสียง
2.เลือก ‘Language’ ปรับภาษาให้ตรงกับข้อความที่พิมพ์
3.เลือก ‘Gender’ ปรับเปลี่ยนเพศของเสียงพูด เช่น เสียงผู้หญิง หรือเสียงผู้ชาย
4.เลือก ‘Style’ ปรับรูปแบบการพูด เช่น เล่านิทาน หรืออ่านข่าว เป็นต้น
5.เลือก ‘Select a voice’ ตรงนี้สามารถ เลือกน้ำเสียง ว่าอยากได้แบบไหน
6.เลือก ‘Generate voiceover’ เพื่อให้ AI แปลงข้อความออกมาเป็นเสียงพูด และสามารถนำไปใช้งานได้เลย

สำหรับเพื่อนๆท่านใดสนใจ สามารเข้าใช้งานใน โปรแกรม Canva ได้เลยครับ

อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติม:

• รีวิว Canva Pro โปรแกรมแต่งภาพ คุ้มแค่ไหน มาดูกัน
• Canva สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์ได้หรือไม่? บทความนี้มีคำตอบ
• Canva Pro มีฟีเจอร์อะไรอัปเดท บ้างปี 2023
• รวมเครื่องมือ นักออกแบบ สำหรับหารายได้ ใช้งานง่าย
• สอนวิธีสร้างรายได้จาก โปรแกรม CANVA

โหลดฟรี โทนสีสุดปังาำหรับงานออกแบบ จาก Pinterest Predicts ซึ่งเป็นการรวบรวมการคาดการณ์แนวโน้ม โทนสี ที่กำลังมาแรงมากกว่า 20 รายการซึ่งดึงมาจากข้อมูลแพลตฟอร์ม และในปีนี้ ได้คัดสรรชุดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นเหล่านี้

โทนสีในงานออกแบบ จาก Pinterest Palette 2024

มาทำความรู้จักกับสี Pinterest แห่งปีและแรงบันดาลใจเบื้องหลังสีเหล่านี้กันได้เลย

Desert Orange

เข้มข้น สว่างและอบอุ่นสีส้มปีนี้มาจากเทรนด์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนิม เช่นDirt Flirts , Groovy NuptialsและJazz Revival

Gummy Pink

สีชมพูฝุ่นมาบรรจบกับบลัชออนเนื้อหนา สีชมพูอันละเอียดอ่อนของปี 2024 ดึงโทนสีจากเทรนด์ต่างๆ เช่นKitschens , Bow StackingและMelty Mashupsเพราะสีชมพูมิลเลนเนียลคือปี 2023

Aqua Blue

2024: ทะเลสีฟ้าเข้ม เฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำในปีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ต่างๆ เช่นBe Jelly , Blue BeautyและHot Metals

Moss Green

มะกอกเข้มมาพบกับสีเขียวมะนาว เทรนด์ต่างๆ เช่นAquatecture , Tropic Like It’s HotและMaking a Racketเป็นแรงบันดาลใจให้กับสีเขียวโทนเขียวของปีนี้

Mocha Brown

ที่กำลังมาแรงในปี 2024: กาแฟแก้วโปรดของคุณ สีน้ำตาลของปีนี้ดึงเอาโทนสีมาจากเทรนด์อย่างCafécore และ Western Gothicคิดว่าคาราเมลสีเข้มมาพบกับสีน้ำตาลอมเทา

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่มีอยู่มากมาย จึงอาจเป็นเรื่องยากที่ เรานั้นจะติดตามขนาดและรูปแบบภาพโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่แต่ละแพลตฟอร์มต้องการสําหรับภาพที่ปรับให้เหมาะสม วันนี้ทาง fast tacks จึงได้รวมรวบขนาดรูป ต่างๆที่ใช้ในการอัปโหลดทำคอนเทนต์บนแต่ละช่องทาง มาให้กเพื่อนๆได้ทราบกันครับ

1.ขนาดรูปภาพ Facebook

ขนาดรูปภาพ Facebook 2024

• ขนาดรูปโปรไฟล์ Facebook: 180 x 180 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพหน้าปก Facebook: 851 x 315 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพโพสต์ฟีด Facebook: 1200 x 630 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพกิจกรรม Facebook: 1920 x 1005 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพปกลุ่มบน Facebook: 800 x 300 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพของ Facebook Stories: 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพโฆษณาบน Facebook: 1080 x 1080 พิกเซล

Facebook อาจปรับขนาดและครอบตัดรูปภาพเล็กน้อยเมื่อแสดงในส่วนต่างๆ ของแพลตฟอร์ม

2.ขนาดรูปภาพ X Twitter

ขนาดรูปภาพ Twitter

• ขนาดรูปโปรไฟล์ Twitter: 400 x 400 พิกเซล
• ขนาดภาพการ์ด Twitter: 120 x 120 พิกเซล
• ขนาดภาพส่วนหัวของ Twitter: 1500 x 500 พิกเซล
• ขนาดภาพในสตรีมของ Twitter: 1600 x 900 พิกเซล
• โฆษณาแบบรูปภาพ Twitter พร้อมปุ่มแอพขนาด: 800 x 418 pixels / 800 x 800 pixels
• โฆษณาแบบรูปภาพ Twitter พร้อมปุ่มสนทนา ขนาด: 800 x 418 พิกเซล
• โฆษณาแบบรูปภาพ Twitter พร้อมโพลล์ขนาด: 800 x 418 pixels / 800 x 800 pixels
• โฆษณาแบบรูปภาพ Twitter พร้อมปุ่มเว็บไซต์ขนาด: 800 x 418 pixels / 800 x 800 pixels
• ขนาดโฆษณาแบบรูปภาพแบบสแตนด์อโลนของ Twitter: 1200 x 1200 พิกเซล / 1200 x 628 พิกเซล

3.ขนาดรูปภาพ LinkedIn

ขนาดรูปภาพ LinkedIn

• ขนาดรูปโปรไฟล์ส่วนตัวของ LinkedIn: 400 x 400 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพปกของ LinkedIn: 1584 x 396 พิกเซล
• ขนาดภาพโลโก้ LinkedIn: 300 x 300 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพหน้าปกบริษัท LinkedIn: 1128 x 191 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพโพสต์และลิงก์ของ LinkedIn: 1200 x 627 พิกเซล
• ขนาดภาพหลักของ LinkedIn Life Tab: 1128 x 376 พิกเซล
• ขนาดโมดูลที่กําหนดเองของ LinkedIn Life Tab: 502 x 282 พิกเซล
• ขนาดรูปภาพ LinkedIn Life Tab: 900 x 600 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาแบบรูปภาพแนวนอน/แนวนอนของ LinkedIn: 1200 x 628 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาแบบรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสของ LinkedIn: 1200 x 1200 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาแบบรูปภาพแนวตั้งของ LinkedIn: 628 x 1200 พิกเซล / 600 x 900 พิกเซล / 720 x 900 พิกเซล

4.ขนาดรูปภาพ Pinterest

รูปภาพ Pinterest ทุกประเภทและขนาด:

• ขนาดภาพโปรไฟล์ Pinterest: 165 x 165 พิกเซล
• ขนาดภาพหน้าปกโปรไฟล์ Pinterest: 1920 x 1080 พิกเซล
• ขนาดภาพพิน Pinterest: 1000 x 1000 พิกเซล / 1000 x 1500 พิกเซล
• คอลเลกชัน Pinterest ขนาดภาพพิน: 1000 x 1000 pixels / 1000 x 1500 pixels
• Pinterest Story ขนาดภาพพิน: 1080×1920 pixels
• ขนาดโฆษณาแบบรูปภาพมาตรฐานของ Pinterest: 1000 x 1500 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาวิดีโอความกว้างมาตรฐานของ Pinterest: 1080 x 1080 พิกเซล / 720 x 1080 พิกเซล / 864 x 1080 พิกเซล / 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาวิดีโอความกว้างสูงสุดของ Pinterest: 1080 x 1080 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาแบบภาพสไลด์ของ Pinterest: 1080 x 1080 พิกเซล / 1000 x 1500 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาคอลเลกชั่น Pinterest: 1080 x 1080 พิกเซล / 1000 x 1500 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาไอเดียของ Pinterest: 1080×1920 พิกเซล

5.ขนาดรูปภาพ Instagram

ขนาดรูปภาพ Instagram ทุกประเภทและขนาด:

• ขนาดรูปโปรไฟล์ Instagram: 320 x 320 พิกเซล
• ขนาดโพสต์ฟีด Instagram: 1080 x 1080 พิกเซล / 1080 x 1350 พิกเซล / 1080 x 566 พิกเซล
• ขนาดภาพ Instagram Story: 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดภาพสไลด์ Instagram: 1080 x 566 พิกเซล / 1080 x 1080 พิกเซล / 1080 x 1350 พิกเซล
• Instagram Reels ขนาด: 1080 x 1920 pixels
• ขนาดโฆษณาแนวนอนของ Instagram: 1080 x 566 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาสี่เหลี่ยมจัตุรัสของ Instagram: 1080 x 1080 พิกเซล

6.ขนาดรูปภาพ YouTube

ขนาดรูปภาพ YouTube ทุกประเภทและขนาด:

• ขนาดรูปโปรไฟล์ YouTube: 800 x 800 พิกเซล
• ขนาดภาพแบนเนอร์ YouTube: 2048 x 1152 พิกเซล
• ขนาดวิดีโอ YouTube: 1920 x 1080 พิกเซล (แนะนํา)
• ขนาดวิดีโอ YouTube Shorts: 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดภาพขนาดย่อของ YouTube: 1280 x 720 พิกเซล
• เรื่องราวของ YouTube: 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาในสตรีมของ YouTube: 1920 x 1080 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาในฟีดของ YouTube: 1280 x 720 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาบัมเปอร์ของ YouTube: 1920 x 1080 พิกเซลและ 300 x 60 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาแบบดิสเพลย์ของ YouTube: 300 x 60 พิกเซล
• ขนาดโฆษณาซ้อนทับของ YouTube: 1920 x 1080 พิกเซล / 1080 x 1920 พิกเซล / 1080 x 1080 พิกเซล

7.ขนาดรูปภาพ TikTok

รูปภาพ TikTok ทุกประเภทและขนาด:

• ขนาดภาพโปรไฟล์ TikTok: 200 x 200 พิกเซล
• ขนาดวิดีโอ TikTok: 1080 x 1920 พิกเซล
• TikTok Story ขนาด: 1080 x 1920 pixels
• ขนาดวิดีโอ/รูปภาพแบบหมุนของ TikTok: 1080 x 1920 พิกเซล
• ขนาดโฆษณา TikTok: 1080 x 1920 พิกเซล

8.ขนาดรูปภาพ Google Business Profile

ขนาดรูปภาพและขนาดของ Google Business Profile มีดังนี้

• ขนาดรูปภาพโลโก้ Google Business Profile: 720 x 720 พิกเซล
• รูปภาพหน้าปก Google Business Profile ขนาด: 1024 x 576 พิกเซล
• ขนาดโพสต์รูปภาพของ Google Business Profile: 720 x 720 พิกเซล
• ขนาดโพสต์วิดีโอ Google Business Profile: 1280 x 720 พิกเซล (ขั้นต่ํา)

Canva แพลตฟอร์มออกแบบออนไลน์ยอดนิยม เต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายที่ช่วยให้คุณออกแบบงานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และสวยงาม แต่ทราบหรือไม่ว่า ยังมีฟีเจอร์ลับๆ ที่ซ่อนอยู่ รอให้คุณค้นหา ฟีเจอร์เหล่านี้อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่สามารถช่วยยกระดับงานออกแบบของคุณไปอีกขั้น

ในบทความนี้ เราจะมาเปิดเผย 10 ฟีเจอร์ Canva ที่ผู้คน 99% ยังไม่ทราบถึงคุณสมบัติที่ดีที่สุด เตรียมตัวให้พร้อม ท่องไปในโลกแห่งการออกแบบที่เต็มไปด้วยความล้ำสมัย! ลุย

1️. Magic Media

จินตนาการได้ สร้างสรรค์ได้ Magic Media ช่วยเนรมิตไอเดียของคุณให้กลายเป็นภาพและวิดีโอที่สวยงาม น่าดึงดูด เปลี่ยนคำพูดให้กลายเป็นสื่อที่ทรงพลัง

2️. Magic Switch

สลับไปมาระหว่างรูปแบบ ภาษา และขนาด ได้อย่างง่ายดาย ด้วย Magic Switch ไม่ว่าจะอยากเปลี่ยนไฟล์เป็นแบบไหน ภาษาอะไร หรือขนาดเท่าไร ก็ทำได้สะดวก รวดเร็ว

3️Magic Design

สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่โดดเด่น ตรงตามแบรนด์ของคุณเองได้ทันที ด้วย Magic Design แค่บอกความต้องการของคุณ ปล่อยให้อ AI ช่วยออกแบบสไลด์ วิดีโอ หรือโพสต์โซเชียลมีเดียระดับมืออาชีพ ภายในไม่กี่วินาที

4️ Magic Expand

ขยายภาพได้อย่างง่ายดายในทุกทิศทาง เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ แก้ไขภาพที่ตัดมาไม่พอดี กู้รูปที่ซูมเข้าไปเยอะเกิน หรือแปลงรูปแนวตั้งเป็นแนวนอน ภายในไม่กี่วินาที

5️ Magic Write

ให้ AI ใน canva ช่วย สร้างไอเดียหัวข้อให้คุณง่ายๆ ในการใช้ magic write เขียนบทความสั้นๆ ได้อย่างง่ายดายเพียงไม่กี่วิ

6️ Translate

แปลภาษาของคุณง่ายๆ ในคลิ๊กเดียว เพียงใช้ Magic languages การแปลภาษาของคุณก็จะง่ายขึ้น รวดเร็วสุดๆ สายแปลเอกสาร ใช้ง่ายเวอร์

7️ Magic Edit

เปลี่ยนโฉมภาพของคุณด้วยการเพิ่ม แทนที่ หรือแก้ไขเพียงแค่เขียนคำสั่งสั้น ๆ เลือกบริเวณที่ต้องการเปลี่ยน บอกสิ่งที่คุณต้องการ แล้วดูผลลัพธ์ภาพของคุณจะสวยขึ้นราวกับโดนเวทมนตร์

8️ Magic Morph

แปลงคำและรูปร่างได้อย่างง่ายดาย ด้วยคำสั่งสั้น ๆ ใช้ Magic Morph สร้างเอฟเฟคท์ให้กับตัวอักษรและรูปร่าง สร้างลวดลายและพื้นผิวที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว

9️ Magic Video

เนรมิตไอเดียวิดีโอของคุณให้เป็นจริง บอกความต้องการของคุณ แล้วปล่อยให้ Magic Media สร้างวิดีโอสั้น ๆ ตามแบบที่คุณออกแบบ โดยใช้เครื่องมือ Runway

10.Magic Animation

วาดทิศทางสำหรับการเคลื่อนไหวของวัตถุได้อย่างง่ายดาย ปรับความเร็วได้ตามต้องการ แล้วปล่อยให้ Magic Animation ร่ายเวทมนตร์ ไม่เพียงเท่านั้น ยังแปลงไฟล์งานนำเสนอเป็นเอกสารรูปแบบต่าง ๆ แถมปรับขนาดงานออกแบบให้เข้ากับหลายแพลตฟอร์ม และแปลภาษาอัตโนมัติได้เลย

อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่:

• Canva pro รวม 10 ฟังก์ชั่น AI ง่ายต่อการออกแบบ
• อัปเดท ฟีเจอร์การแก้ไขภาพใหม่จาก CANVA มาดูกันเลย
• Canva Pro มีฟีเจอร์อะไรอัปเดท บ้างปี 2023
• วิธีใช้ Ubersuggest โปรแกรมหา keyword (ฟรี)
• คอร์สเรียน กราฟิกดีไซน์ ฟรี สายออกแบบห้ามพลาด

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ10 ฟีเจอร์ Canva AI ที่จะช่วยให้เพื่อนๆหลายคนนั้นสามารถทำงานออกแบบได้อย่างง่ายยิ่งขึ้นกันนะครับ อย่าลืมติดตามอ่านบทความต่อไป เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์เหล่านี้ รับรองว่าคุณจะประหลาดใจกับความสามารถของ Canva ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

มาดูเว็บไซต์ AI วาดรูป ทำง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส เพียงแค่มีไอเดียและป้อนไอเดียนั้นเป็นคำสั่งเท่านี้ AI ก็วาดภาพได้แล้ว โดยไม่ต้องมีความรู้หรือพื้นฐานทางศิลปะมาก่อน

ทุกวันนี้การใช้งาน AI (Artificial Intelligence) ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์ ที่มีการเรียนรู้และเข้ามาอยู่ในบทบาทในชีวิตประจำวันจำวัน แต่ถ้าเราอยากได้ภาพดีๆ ผ่านโปรแกรมเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ ตัวช่วยต่างๆ มีช่องทางไหนบ้าง กับ 5 แหล่งที่ช่วยสร้างภาพให้คุณได้ลองทำกัน มีอะไรบ้างเรามาดูกันครับ

1.Google Gemini

ในตัวของ Google Gemini เราสามารถให้คุณแต่งภาพโดยการความต้องการของภาพนั้นๆ ไปได้แต่ว่าความเนียนอาจจะต้องรอพัฒนากันสักหน่อย

2.DAWN

เริ่มต้นกับโปรแกรมวาดภาพดัวยคุณเอง ซึ่งทำให้ภาพออกมาได้เหมือนจรีฟและใช้งานได้ง่ายมากขึ้น แถมยังติดตั้งทั้ง iOS และ Android ได้ด้วย

3.Canva

โปรแกรมแต่งภาพสุดฮิต บางคนเลือกใช้ในการทำสื่อออนไลน์ โยดการสใช้ข้อความแต่งบเป็นภาพได้ หรือ Text to Image Generator และทำภาพได้หลากหลายและใช้งานฟรี

4.Bing Image Creator

มาถึง Platform ระบบ AI ทีช่วยวาดภาพได้หลาหลายของ Microsoft เราสามารถใช้ข้อความแก้ไขทั้งภาพที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างภาพได้ เมื่อเสร็จแล้วก็สามารถบันทึกเก็บไว้ได้ด้วย แต่จริงๆ เราใช้ Co-Pilot เข้าไปสำหรับ Windows 11 ได้

5.Acomplice

โปรแกรมที่อยู่ในเว็บไซต์ ข้อดีคือสามารถแต่งภาพ Portrait ที่ดูลงตัว โดยคุณต้อลงทะเบียนใช้งาน จะใช้ฟรี หรือ เสียจเงินก็ได้เช่นเดียวกัน และสามารถเลือกได้ว่าจะเป็น Landscape หรือ Square ได้เช่นเดียวกัน

สรุป

เป็นอย่างไรกัน้างครับ สำหรับเว็บไซต์ในการช่วยสร้างภาพด้วย Ai แต่อย่างไรก็ตามครับการใช้ AI วาดภาพเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการสร้างผลงานได้ดี แต่ว่าอาจจะต้องดูว่าการทำงานของเรานั้นมันจะไปซ้ำกับใครที่มีการคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์ ดังนั้นจะใข้งานเราต้องพิจารณาให้ดี ที่จะนำมาใช้งานกันด้วยนะครับเพื่อนๆ

วันนี้ FAST TACKS มีแอปพลิเคชันแต่งรูปมาแนะนำ เป็นแอปพลิเคชันเปลี่ยนรูปภาพธรรมดาๆ ของทุกท่าน ให้กลายเป็นภาพแบบเก๋ๆ แบบที่หลายๆคนโพสต์อวดกันลงบนโลกโซเชียลอย่าง Facebook , Insgram หรือบนบล็อกส่วนตัวต่างๆ

มาดูกันครับว่าวิธีจะมีแอปพลิเคชั่นแต่งรูปอะไรบ้าง และแอปพลิเคชั่นพวกนี้สามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรีโดยต้องเสียเงิน ส่วนใหญรองรับทั้งบน iOS, iPhone และ Android ไปดูกันเลยดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง

1.Adobe Photoshop Lightroom

เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมแต่งรูปชื่อดัง สามารถทำอะไรได้หลากหลายมาก คล้ายๆกับการย่อชุดโปรแกรมของ Adobe Lightroom ในคอมพิวเตอร์(PC)มาไว้บน Smartphone ย้ำ! ว่ามันแต่งรูปภาพได้มากกว่าที่คิด ล่าสุดนั้นแอป Adobe Lightroom ได้ถูกพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

และแน่นอนว่าในแอปแต่งภาพมีพรีเซ็ตให้เลือกใช้งานเพียบ แต่ไม่เป็น ทำสีไม่ได้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

สามารถทำงานผ่านสมาร์ทโฟนได้แล้วครับ โดยมีจุดเด่นคือการปรับแต่งรูปภาพที่ทำได้ง่ายกว่าในคอมพิวเตอร์ มีการประมวลผลได้ในทันที สามารถแชร์ออกสู่โลก Social ได้ทันที

ดาวน์โหลดแอปแต่งรูป Lightroom
ระบบ iOS : Lightroom
ระบบ Android : Lightroom

2 .Foodie – Camera for life

เรียกว่าเป็นแอปที่มาพร้อม ฟิลเตอร์ในการแต่งภาพอาหารเยอะมากๆ จริงๆ สำหรับฟีเจอร์หลักๆ ในตัวแอปพลิเคชันนั้นแน่นมาสำหรับสายกินเป็นหลัก ใครชอบถ่ายอาหาร รีวิวอาหารแนะนำว่าโหลดแอปตัวนี้ไว้ในเครื่องรับรองได้ใช้งานแน่นอน บอกเลยว่าสามารถเพิ่มความอร่อยให้กับรูปอาหารด้วยไลฟ์ฟิลเตอร์ที่เต็มไปด้วยรสชาติให้เพื่อนๆ คุณที่มาเห็นภาพประทับใจแน่นอน และแน่นอนว่าในแอปแต่งภาพมีพรีเซ็ตให้เลือกใช้งานเพียบ แต่ไม่เป็น ทำสีไม่ได้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

แต่แม้ว่ามันจะถูกสร้างมาเอาใจสายกิน แต่มันก็สามารถแต่งรูปสไตล์อื่น ๆ ได้เช่นกันครับ

ดาวน์โหลดแอปแต่งรูป Foodie
ระบบ iOS : Foodie
ระบบ Android : Foodie

3 .Phonto Text on Photos

แอปพลิเคชั่นแต่งรูป Phonto – Text on Photos สำหรับแอปพลิเคชั่นตัวนี้เน้นเรื่องของการใส่ตัวอักษรบนรูปภาพ ซึ่งในแอปพลิเคชั่นจะมีตัวฟอนต์หลากหลายแบบให้เลือก รวมไปถึงมีสัญลักษณ์สื่ออารมณ์ต่างๆมากมาย เพื่อใส่ข้อความเติมแต่งให้ภาพของคุณมีสีสันและเพิ่มความน่าสนใจได้อย่างลงตัว นับว่าเป็นแอปพลิเคชั่นแต่งรูปฟรีตัวหนึ่งที่น่าสนใจ และใช้งานได้ง่ายมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความยุ่งยากซับซ้อน แต่ต้องการความสวยงามแบบคลาสสิก

ดาวน์โหลด แอปแต่งรูป Phonto
ระบบ iOS : Phonto
ระบบ Android : Phonto

4.POMELO – Absolute filters

เป็นอีกหนึ่งแอปแต่งภาพที่แนะนำให้โหลดมาติดเครื่องไว้ซึ่งแอป Pomelo Camera จะเหมาะกับผู้ที่ชอบการแต่งภาพแนวฮิปสเตอร์ แอปนี้จะให้สีภาพออกมาสวยทันใจ(สวว่างขึ้น) คล้ายๆกับการเลือก Filter สำหรับรูปภาพ พร้อมทั้งยังทำการ Crop, Rolate และ Fade รูปได้ภายในตัว คนส่วนมากจะใช้งานแอปแต่งรูปนี้ก่อนจะอัพภาพลงใน Instagram

ดาวน์โหลด แอปแต่งรูป Pomelo
ระบบ iOS : Pomelo

5.Snapseed

แอปที่สามารถทำให้เราแต่งภาพแบบมืออาชีพอย่างง่าย Snapseed ถือเป็นแอปแต่งรูปในตำนานที่เปิดให้ดาวน์โหลดมานานมากอีกแอปหนึ่ง และยังก็ยังคงได้รับความนิยมมากจนถึงปัจจุบัน คุณสมบัติของแอปแต่งรูปนี้คือการแต่งรูปแบบมือเดียว ไม่ซับซ้อน แต่กลับมี Functions จำเป็นที่หลากหลาย ทั้งการปรันโทนสี ปรับความสว่าง การปรับจุด Focus และการใส่ Filter เพื่อทำให้ภาพดูคลาสสิก

ดาวน์โหลด แอปแต่งรูป Snapseed

ระบบ Android : Snapseed

6.VSCOcam

แอปตัวต่อมาที่เราขอแนะนำให้มีติดเครื่อง ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เพราะมีฟิลเตอร์ให้เลือกแต่งภาพแนวฮิปสเตอร์มากมาย มีทั้งซื้อและปล่อยให้โหลดฟรี และยังสามารถปรับแต่งรูปภาพเช่นเพิ่มความคมชัด ปรับความสว่าง และปรับโทนรูปภาพได้อย่างง่าย หากไม่พอใจใน Filter ที่สร้างขึ้นมาแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลด Preset พิเศษสามารถซื้อแยกก็สามารถซื้อได้ที่ VSCO X โดยจะตกอยู่ที่ประมาณปีละ 6xx บาท

ดาวน์โหลด แอปแต่งรูป VSCOcam
ระบบ iOS : VSCOcam
ระบบ Android : VSCOcam

7.Camera360

ตอนนี้เราคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วิธีการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ บนแอปแต่งรูปเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมากๆ แอปที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อนย่อมเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่หลายคนใฝ่ฝันหา แน่นอนเราเชื่อว่า Camera360 คือคำตอบของสาวๆ หลายคน ไม่เชื่อลองโหลดมาเล่นกันดูสิเล่นง่าย ไม่ยาก รับรองได้ภาพสวยถูกใจไว้สำหรับโพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดียแน่นอน

ดาวน์โหลด แอปแต่งรูป Camera360
ระบบ iOS: Camera360
ระบบ Android: Camera360

อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติม

• แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok  ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
• Canva คืออะไร ? แอพแต่งรูปยอดนิยมปี 2022
• วิธีลบลายน้ำ Tiktok ใช้งานฟรี
• รีวิว 10 โปรแกรม ออกแบบกราฟิก ที่นิยมปี 2023
• แอปตัดต่อวิดีโอบนมือถือ ใช้ง่าย สำหรับมือใหม่

สรุป

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับ 7 แอปพลิเคชันแต่งรูปที่สามารถดาวน์โหลดกันมาใช้ได้ทั้ง iOS (iPhone) และ Android เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อแน่นอนว่าอย่างน้อยก็น่าจะมีแอปแต่งรูปสัก 1 ตัวที่เพื่อน ๆ เลือกมาใช้งานกันจริง ๆ และแอปพลิเคชันเหล่านี้ก็ถือเป็นตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับคนที่กำลัง(พยายาม)แต่งภาพในมือถือให้สวย ซึ่งเป็นแอปที่ดีและใช้งานได้ฟรีด้วย ลองเลือกไปใช้งานตามความชอบกันดูนะครับ

นักทำคอนเทนต์ทั้งหลาย อาจเคยประสบปัญหากับเรื่องของลิขสิทธิ์รูปภาพกันมาบ้าง แล้วไหนจะเรื่องเงินรายเดือนหรือรายปีที่คนงบน้อยอาจจะไม่อยากเสียไปกับการซื้อรูป วันนี้ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไป

บทความนี้เราได้รวบรวม เว็บไซต์ที่แจกรูปให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้แบบฟรีๆ ไม่ติดลิขสิทธิ์ ไม่มีลายน้ำ สามารถนำไปประกอบบทความตกแต่งเว็บไซต์ของตัวเอง หรือประกอบคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียก็ได้ ไปดูกันเลย

1.เว็บโหลดรูปฟรี Freepik

Freepik เป็นเว็บไซต์ดาวน์โหลดรูปฟรีอันดับต้นๆ ที่หลายคนเลือกใช้ เพราะมีรูปภาพมากมายหลายสไตล์ ทั้งภาพถ่าย ภาพเวกเตอร์ ไอคอน ภาพพื้นหลัง ภาพ Mock Up ฯลฯ สามารถดาวน์โหลดไปใช้ประกอบบทความ ตกแต่งเว็บไซต์ ทำอินโฟกราฟิกสวยๆ หรือทำตัวอย่างผลิตภัณฑ์ได้เลย นอกจากนั้น ยังสามารถดาวน์โหลดเวกเตอร์ หรือไอคอน สกุล PSD เอาไปตกแต่งเพิ่ม เปลี่ยนสี หรือดัดแปลงได้อีกด้วย

เข้าดูได้ที่ >Freepik

2.เว็บโหลดรูปฟรี Canva

Canva เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมทุกฟีเจอร์ที่คนทำคอนเทนต์หรือกราฟิกต้องใช้ นอกจากความโดดเด่นเรื่องงานออกแบบ และเทมเพลตแล้ว คุณยังสามารถเข้าไปดาวน์โหลดรูปภาพสวยๆ และฟรีใน Canva ได้

เข้าดูภาพได้ที่ > canva

3.เว็บโหลดรูปฟรี Flickr

รูปภาพใน Flickr มีให้เลือกหลากหลาย อยากได้ภาพอะไร แนวไหน ก็สามารถพิมพ์ค้นหาได้เลย นอกจากนั้น Flickr ยังเป็นเสมือนคอมมูนิตี้ให้ผู้คนเข้าไปอัปโหลดรูปภาพของตัวเองและเปิดแชร์ให้คนอื่นๆ ดาวน์โหลดไปใช้งานได้ หากชื่นชอบภาพของช่างภาพคนไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถกดติดตาม หรือเข้าไปคอมเมนต์เป็นกำลังใจได้อีกด้วย

เข้าดูภาพได้ที่ > Flickr

4.เว็บโหลดรูปฟรี Pexels

รูปภาพใน Pexels ส่วนใหญ่ จะเป็นรูปภาพแนวไลฟ์สไตล์ ความละเอียดสูง สีสวย คุณภาพดี เหมาะสำหรับนำไปตกแต่งเว็บไซต์ หรือประกอบบทความ ใครที่ทำงานสายคอนเทนต์ หรือเปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองน่าจะถูกใจแน่นอน

เข้าดูได้ที่> Pexels

5.เว็บโหลดรูปฟรี Unsplash

Unsplash เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่รวบรวมรูปภาพฟรีแนวไลฟ์สไตล์ แต่โทนของรูปจะมีความฮิปสเตอร์มากกว่า Pexels นอกจากนั้นยังมีภาพถ่ายสำหรับใช้เป็นวอลเปเปอร์ ภาพแพทเทิร์นสวยๆ หรือภาพแรนเดอร์แบบ 3D ก็มีให้เลือกดาวน์โหลดได้ฟรี ใครทำงานสายโฆษณา ทำเว็บไซต์ ต้องพิน Unsplash เก็บไว้เลย

เข้าดูได้ที่>Unsplash

6.เว็บโหลดรูปฟรี Pixabay

Pixabay เป็นอีกหนึ่งเว็บดาวน์โหลดรูปฟรียอดนิยม มีรูปภาพให้เลือกหลากหลาย ทั้งภาพธรรมชาติ วอลเปเปอร์ สัตว์ ฯลฯ มีทั้งแบบภาพถ่าย เวกเตอร์ และ Illustration นอกจากนั้นยังมีวิดีโอ เพลง เสียงเอฟเฟคต์ให้ดาวน์โหลดไปใช้ได้อีกด้วย เรียกว่าเข้ามาเว็บเดียว สามารถหาองค์ประกอบต่างๆ ไปใช้ได้ครบ

เข้าดูได้ที่>Pixabay

7.เว็บโหลดรูปฟรี Burst

ใครมองหารูปภาพสวยๆ แบบ High-Resolution ขอแนะนำ เว็บไซต์ Burst มีภาพถ่ายให้เลือกหลากหลาย ทั้งภาพธรรมชาติ ไลฟ์สไตล์ ธุรกิจ รวมถึงแบ็คกราวน์สวยๆ ที่สามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรีๆ

เข้าดูได้ที่>Burst

8.เว็บโหลดรูปฟรี Styled Stock

Styled Stock เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมรูปภาพสำหรับคอนเทนต์เพื่อนหญิงพลังหญิงโดยเฉพาะ (Feminine Stock Photography) แต่ถ้าใครต้องการภาพประเภทอื่นๆ เช่น ภาพถ่ายอาหาร ภาพถ่ายธรรมชาติ ก็สามารถเข้ามาค้นหาในเว็บนี้ได้เช่นกัน บอกเลยว่ามีภาพสวยๆ โทนสว่างๆ ให้เลือกไปใช้ได้เพียบ

9.เว็บโหลดรูปฟรี StockSnap.io

StockSnap.io เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่อัดแน่นไปด้วยรูปภาพคุณภาพดี ความคมชัดสูง มีให้เลือกหลายหมวด ทั้งออกกำลังกาย ธรรมชาติ อาหาร ผู้คน ฯลฯ เหมาะสำหรับนำไปประกอบบทความบนเว็บไซต์ ช่วยเพิ่มความน่าสนใจได้แน่นอน

เข้าดูภาพได้ที่> StockSnap.io

10.เว็บโหลดรูปฟรี FoodiesFeed

FoodiesFeed เรียกว่าเป็นเว็บดาวน์โหลดรูปฟรีสำหรับนักคอนเทนต์สายกินโดยเฉพาะ ใครเขียนบทความเกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม หรือเปิดร้านอาหาร สามารถเข้ามาหาภาพถ่ายอาหารสวยๆ โทนสว่าง และคลีนไปใช้ประกอบบทความ หรือเว็บไซต์ได้เลย รับรองว่าคนอ่านน้ำลายสอแน่นอน

เข้าดูภาพได้ที่>FoodiesFeed

สรุป

ข้อควรระวังก่อนนำรูปภาพมาใช้ ถึงจะเปิดให้ดาวน์โหลดรูปได้ฟรีๆ แต่ต้องบอกว่าบางเว็บไซต์อาจมีข้อจำกัดเรื่องของการนำรูปภาพไปใช้ เช่น ห้ามดัดแปลงแก้ไขรูปภาพ ห้ามนำไปขายต่อ ห้ามใช้เชิงพาณิชย์ หรือห้ามนำไปทำสื่อสิ่งพิมพ์

เพราะฉะนั้น ก่อนดาวน์โหลด แนะนำให้อ่านรายละเอียดและกฎการใช้งานให้ดี จะได้ใช้รูปอย่างสบายใจ ไม่ผิดกฎ และไม่โดนตรวจสอบย้อนหลังกันนะครับ

Canva เป็นเครื่องมือออกแบบกราฟิกและภาพประกอบออนไลน์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา พนักงานออฟฟิศ และฟรีแลนซ์ที่ต้องทำงานเกี่ยวกับงานกราฟิกหรือภาพประกอบต่างๆ เช่น โปสเตอร์โฆษณา โบรชัวร์ โลโก้ และ โพสต์โซเชียลมีเดีย เพราะใช้งานได้สะดวกสบาย และไม่ยุ่งยากเลย

ยิ่งถ้าเรารู้ Keyword เจ๋ง ๆ ใน Canva ด้วยแล้ว ยิ่งจะทำให้งานของเราน่ารัก และโดดเด่นสะดุดตาสุด ๆ วันนี้ Fast tacks เลยมาแชร์ Keyword ของตกแต่ง ที่ชอบใช้มากฝากกันให้เพื่อนๆได้นำไปใช้เพิ่มความปังให้งานออกแบบกันนะครับ

รวม Keyword คำค้นหาของตกแต่งสวย ๆ ใน Canva

• social media ui frame
• @trendify
• isometric
• gradient
• @vigeco
• @deadframes
• set:nAE_EZE3xG8
• @ibrandify
• postcard element
• Y2K
• set:nAEyeYnnx5Y
• halftone
• 3d element
• @visuelcolonie
• background elements

อยากแต่งรูปให้สวยๆเหมือนคนอื่นเขา แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เรียนฟรีได้ที่นี่เลย วันนี้ทาง fast tacks ได้นำ คอร์สเรียนฟรี สายแต่งภาพ สำหรับ คนที่ใช้โปรแกรม Lightroom มาให้อัปสกิลกันแบบฟรีๆ กันเลย เนื้อหาจุใจ 25 บทเรียน

Lightroom เป็นโปรแกรมที่ช่างภาพให้ความนิยมสูงมาก และสามารถเริ่มต้นเรียนรู้ได้ง่ายและรวดเร็ว

หลักสูตรนี้จะเป็นการปูพื้นฐานให้กับช่างภาพผู้ที่ไม่เคยผ่านงานกระบวนการทำภาพในคอมพิวเตอร์มาก่อน โดยจะสอน 25 สิ่งสำคัญในการตกแต่งภาพใน Lightroom ที่ช่างภาพทุกคนต้องรู้ รวมถึงเนื้อหาที่เกี่ยวกับคุณสมบัติใหม่ๆใน Lightroom 5 เช่น Advanced Healing Brush & Visualization Tools, Smart Preview และ Radial Filter เป็นต้น

คอร์สเรียนฟรี LightRoom สอนอะไรบ้าง?

เนื้อหา

• อุปกรณ์กำจัดจุดที่ไม่พึงประสงค์และการลบฝุ่นที่จอ (Advanced Healing Brush and Visualization Tool)
• การย่อภาพที่ถูกต้องลงเฟซบุค (How to Make your Images Look Great on Facebook)
• ฟิลเตอร์แบบวงกลม (Radial Filter)
• อุปกรณ์จัดองค์ประกอบภาพและเลย์เอาต์ต่างๆ (Crop Overlay & Composition Layouts)
• ปัญหาการปรับคม (Sharpening Problem)
• ฮิสโตแกรมอัจฉริยะ ตอนที่ 1/2 (Interactive Histogram Part 1/2)
• ฮิสโตแกรมอัจฉริยะ ตอนที่ 2/2 (Interactive Histogram Part 2/2)
• ทำไมต้องเป็นไฟล์ DNG (DNG Format)
• ฟิลเตอร์แถบสี (Graduated Filter)
• แก้ไขค่าเลนส์ด้วยตนเอง (Manual Lens Corrections)
• สมดุลแสงขาว (White Balance)วิธีแก้ปัญหาการคลาดสี (Chromatic Abberation)
• ย้อมสีให้กับภาพ (Split Toning)
• ความสดใสและความอิ่มตัว (Vibrance & Saturation)
• ความเปรียบต่างและความชัดเจน (Contrast & Clarity)
• พู่กันกับการทำภาพเฉพาะจุด (Adjustment Brush)
• เทคนิคเปิดเงาขึ้นสองเท่า (Double Increase Shadow Technique)
• การลดสัญญาณรบกวนในภาพ (Noise Reduction)
• การเบลอภาพ (Gaussian Blur)
• แก้ปัญหาสีกล้องเพี้ยน (Camera Calibration)
• ปรับแต่งสีตามใจด้วย HSL (Hue, Saturation & Luminosity)

• ใส่เกรนให้เหมือนกล้องฟิล์ม (Film Style Process)
• แก้ไขค่าเลนส์ด้วย Adobe Lens Profile Downloader
• จัดการภาพ Offline ด้วย Smart Preview (Smart Preview)
• แก้ไขสัดส่วนภาพอัตโนมัติด้วย Upright (Upright: Perspective Correction)

บทเรียนนี้แบบทำจริงๆให้ดู ผ่านคลิปวิดีโอระดับ Full-HD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (1080p) โดยบทเรียนจะเต็มเปี่ยมไปด้วยเนื้อหา ซึ่งจะทำให้ทุกคนสนุกและสามารถนำไปสร้างสรรค์ภาพของเพื่อนๆกันต่อได้เลย

คอร์สเรียน Canva ฟรี สายออกแบบมือใหม่ ด้วยโปรแกรม canva ถูกใจสิ่งนี้ วันนี้ทาง fasttacks ได้นำ คอร์สเรียนฟรี canva สำหรับคนที่อยากจะพัฒนาด้านการออกแบบ เรียนกันยาวๆ มากกว่า 1000 บทเรียน เรียนจบมีใบเซอร์ให้ด้วยนะ ใครว่างก็สามารถมาลงเรียนกันได้เลย

คอร์สเรียนฟรี ออกแบบด้วย Canva อัปสกิลการใช้งานแคนวาไปอีกขั้น หลักสูตรให้เลือกเรียนเยอะ

1.Canva for Beginners (10 บทเรียน)

เข้าเรียนได้ที่> เข้าเรียน

2.Designing with Canva (66 บทเรียน)

เข้าเรียนได้ที่ > เข้าเรียน

3.รวมคอร์สเรียนได้ที่ (บทเรียนทั้งหมด)

เข้าเรียนได้ที่ > เข้าเรียน