ความรู้การตลาดออนไลน์

โปรไฟล์ TikTok Shop เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจของลูกค้า สู่ร้านค้าในแพลตฟอร์ม TikTok Shop ดังนั้น การปรับแต่งโปรไฟล์ ให้มีความโดดเด่นและน่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญที่เราควรใส่ใจ และนี่คือเทคนิคที่เราสามารถนำไปใช้เพื่อปรับแต่งโปรไฟล์ TikTok Shop เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพแก่ร้านค้าของเรา

6 วิธีปั้นช่อง tiktok shop ให้น่าสนใจและดึงดูดลูกค้า

1.รูปภาพโปรไฟล์ที่โดดเด่น

เลือกรูปภาพโปรไฟล์ที่มีคุณภาพสูงและมีความโดดเด่น รูปภาพที่ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชมจะช่วยให้โปรไฟล์ของคุณเป็นที่จดจำและน่าสนใจมากขึ้น

2.คำอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ

เพิ่มคำอธิบายที่ชัดเจนและน่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณในหน้าโปรไฟล์ อธิบายถึงคุณค่าที่คุณสร้างขึ้นสำหรับลูกค้าและว่าทำไมคุณถึงเป็นที่เลือกของเขา

3.การสรา้งเนื้อหาที่น่าสนใจแก่ผู้ชม

สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชม ใช้วทางเลือกต่างๆ เช่น วิดีโอสร้างความตื่นเต้น เทคนิคการใช้สัญญาณเสียง หรือเนื้อหาที่มีความเป็นรองรับและประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับลูกค้าของคุณ

4.การเน้นความเป็นกลางของแบรนด์

ให้แนวทางสำหรับโปรไฟล์ให้สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ ใช้สีเดียวกันหรือเทมเพลตที่เหมาะสมในโปรไฟล์เพื่อสร้างความสมดุลและความประทับใจที่ดีในใจของผู้ชม

5.การลงทุนในการโฆษณา

ใช้เครื่องมือโฆษณาภายใน TikTok เพื่อโปรโมตโปรไฟล์ของคุณและเพิ่มโอกาสในการเป็นที่รู้จักของลูกค้าใหม่ ใช้กลยุทธ์โฆษณาที่เหมาะสมเช่น วิดีโอโฆษณาที่สร้างความตื่นเต้นหรือแท็กที่เกี่ยวข้องเพื่อให้โฆษณาของคุณปรากฏขึ้นในเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

6.ติดตามและตอบกลับผู้ติดตาม

สร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตามของคุณ ตอบกลับความคิดเห็นและข้อสงสัยที่ถามเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ ด้วยการตอบกลับอย่างรวดเร็วและสร้างสัมพันธ์ที่ดี คุณจะสร้างความไว้วางใจและความสนใจจากลูกค้าใน TikTok Shop

เมื่อคุณปรับแต่งโปรไฟล์ TikTok Shop ให้ดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะสร้างโอกาสในการเติบโตและความสำเร็จในธุรกิจของคุณผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop อย่างมั่งคงตราบเท่าที่คุณตรึกตรองการปรับแต่งโปรไฟล์ TikTok Shop ของคุณให้เหมาะสมและน่าสนใจสำหรับลูกค้าของคุณในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม

อย่าลืมทดสอบและปรับปรุงโปรไฟล์ของคุณอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับแนวโน้มและความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ด้วยการปรับแต่งโปรไฟล์ให้โดดเด่นและน่าสนใจ คุณจะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำและสร้างความประทับใจที่ดีในใจของลูกค้า และส่งเสริมการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจของคุณผ่านทางแพลตฟอร์ม TikTok Shop

อ่านเพิ่มเติม เทคนิคการหาสินค้าใน tiktok shop ที่ขายดี ได้ที่

สรุป

ใช้รูปภาพที่น่าสนใจและโดดเด่น เพื่อเกิดความทรงจำและดึงดูดความสนใจของลูกค้า ให้คำอธิบายที่น่าสนใจและชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของคุณสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่าสำหรับลูกค้า เช่น วิดีโอสร้างความตื่นเต้นหรือเทคนิคที่เกี่ยวข้องใช้สีและสไตล์ที่สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณเพื่อสร้างความรู้สึกและความตรงไปตรงมาใช้เอฟเฟกต์และฟิลเตอร์เพื่อเพิ่มความน่าสนใจในรูปภาพของคุณปรับปรุงและปรับแก้ไขโปรไฟล์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คงเป็นปัจจุบันและตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

โดยการปรับแต่งโปรไฟล์ TikTok Shop ให้โดดเด่นและน่าสนใจ คุณจะสามารถสร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้โปรไฟล์ของคุณมีการแสดงผลที่ดีในแพลตฟอร์ม TikTok Shop และสร้างโอกาสในการเติบโตและความสำเร็จของธุรกิจของคุณได้

รวมขั้นตอนการทำ SEO บน แอพ shopee ให้ลูกค้าเจอสินค้าของคุณก่อนใคร

1.เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับสินค้า

คีย์เวิร์ด คือ คำหรือข้อความที่ผู้ซื้อใช้ค้นหาสินค้าบน Shopee ดังนั้นการเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมจะช่วยให้สินค้าของคุณปรากฏในผลการค้นหาได้มากขึ้น

เราสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมได้ดังนี้

• ตรวจสอบรายการคำค้นหาแนะนำที่ระบบแสดงเมื่อพิมพ์คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับร้านค้าของท่านภายในช่องค้นหาของ Shopee
• ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest
• วิเคราะห์คำค้นหาที่ผู้ซื้อใช้ค้นหาสินค้าประเภทเดียวกันกับของคุณบน Shopee

2.เพิ่มคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมภายในข้อมูลร้านค้าและสินค้า

เมื่อเลือกคีย์เวิร์ดได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเพิ่มคีย์เวิร์ดเหล่านั้นภายในข้อมูลร้านค้าและสินค้าของคุณ

เราสามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดได้ดังนี้

• ชื่อร้านค้าและชื่อสินค้า: ควรใช้คีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรองให้ครบถ้วน
• คำอธิบายสินค้า: ควรใช้คีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรองอย่างเหมาะสม
• รูปภาพสินค้า: ควรใส่คำอธิบายภาพที่มีคีย์เวิร์ดหลักและคีย์เวิร์ดรอง
• แฮชแท็ก: ควรใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับสินค้า

3.ปรับปรุงคุณภาพของสินค้าและร้านค้า

นอกจากการเพิ่มคีย์เวิร์ดแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่ออันดับการค้นหาของสินค้าบน Shopee เช่น

คุณภาพของสินค้า: สินค้าควรมีคุณภาพดีและตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ
ราคาสินค้า: ราคาสินค้าควรเหมาะสมกับคุณภาพและการแข่งขันในตลาด
บริการหลังการขาย: ควรมีบริการหลังการขายที่ดี เช่น รับประกันสินค้า คืนสินค้าได้ เป็นต้น

4.ติดตามผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ

เมื่อทำ SEO บน Shopee ไปแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องติดตามผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพ เพื่อดูว่าการทำ
SEO ของคุณได้ผลหรือไม่

ทริคเล็กๆในการติดตามผลและวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำ SEO บน shopee

• ดูอันดับการค้นหาของสินค้า: เราสามารถดูอันดับการค้นหาของสินค้าได้จาก Seller Center
• ดูจำนวนการเข้าชมร้านค้า: เราสามารถดูจำนวนการเข้าชมร้านค้าได้จาก Seller Center
• ดูจำนวนยอดขาย: เราสามารถดูจำนวนยอดขายได้จาก Seller Center
• จากการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ เราสามารถนำข้อมูลมาปรับปรุงการทำ SEO ของเราให้ดียิ่งขึ้นได้

การทำ SEO บน Shopee ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกัน: ไม่ควรใช้คีย์เวิร์ดที่กว้างเกินไปหรือแคบเกินไป ควรใช้คีย์เวิร์ดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสินค้าของคุณ

ใช้คีย์เวิร์ดยาวๆ: คีย์เวิร์ดยาว (Long-tail keyword) มีโอกาสติดอันดับการค้นหาได้มากกว่าคีย์เวิร์ดสั้น (Short-tail keyword)

อัปเดตข้อมูลร้านค้าและสินค้าอยู่เสมอ: ควรอัปเดตข้อมูลร้านค้าและสินค้าอยู่เสมอ เพื่อให้สินค้าของคุณมีความสดใหม่และน่าสนใจ

อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติมที่:

• รับทำ SEO WordPress ติดหน้าแรกบน google ใน90วัน
• วิธีสมัครบัญชีขายของใน tiktok shop (พร้อมลงสินค้า)
• Gaming บุกตลาด tiktok ช่องทาง การตลาด ที่คุณควรรู้
• วิธีLive tiktok shop ทำอย่างไร ?ให้ยอดปัง ปัง
• วิธีทำSEO ใน WordPress อัพเดทล่าสุด (Step-by-step)

สรุป

การทำ SEO บน Shopee นั้นจะช่วยให้สินค้าของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและมีโอกาสขายได้มากขึ้น ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการทำ SEO ควบคู่ไปกับการทำการตลาดอื่นๆ ด้วย และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังขายสินค้าใน shopee นะครับ

เรียนฟรีมีใบเซอร์ looker studio ปัจจุบันสำหรับเจ้าของธุรกิจแล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลย‘ข้อมูล’นั้นเป็นสิ่งสำคัญและมีประโยชน์กับการทำธุรกิจ และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นหลายธุรกิจจึงหันมาให้ความสำคับกับการเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้น โดยจะต้องพยายามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด เพราะยิ่งข้อมูลมากก็จะทำให้เราตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำขึ้น

ซึ่งปัญหาอย่างหนึ่งที่ตามจากการเก็บข้อมูลจำนวนมากคือการนำเอาข้อมูลจำนวนมากวิเคราะห์นั่นเอง การนำข้อมูลจำนวนมากมาวิเคราะห์ออกมาเป็น Report หรือ Dashboard ที่เจ้าของธุรกิจ หรือผู้ที่ทำการเกี่ยวข้องด้วยจะสามารถเข้าใจและนำไปใช้ต่อนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

ดังนั้นจึงมีบริษัทต่างๆที่ได้พัฒนาเครื่องมือมากมายในการแปลงข้อมูลออกมาเป็นกราฟรูปแบบต่าง ๆ ที่ทำให้การอ่านทำความเข้าใจข้อมูลง่ายขึ้น ซึ่งก็มีทั้งแบบที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และแบบที่สามารถใช้งานได้ฟรี แต่ความสามารถของฟังก์ชันการใช้งานนั้นก็จะแตกต่างกันไป

Google Data Studio หรือ Looker Studio เป็นอีก 1 เครื่องมือที่ Google นั้นได้มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้การวิเคราะข้อมูล Report หรือ Dashboard นั้นง่ายยิ่งขึ้น และสิ่งที่สำคัญคือ สามารถใช้งานได้ฟรี

หัวข้อที่คุณจะได้เรียนรู้ในวิชานี้

• ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Google Data Studio
• Google Data Studio จะช่วยวิเคราะห์และจัดการข้อมูลให้เข้าใจง่ายได้อย่างไร
• รูปแบบและวิธีการสร้าง Data Dashboard Report ในรูปแบบต่างๆ
• เทคนิคการสร้าง Data Visualization

เกณฑ์พิจารณาการผ่านรายวิชา

• ผู้เรียนต้องเข้าเรียนตามเนื้อหาหลักสูตร และทำแบบทดสอบให้ครบทุกบทเรียน
• แบบทดสอบมี 1 ประเภท ได้แก่
  แบบทดสอบท้ายหลักสูตร อยู่ตอนท้ายของหลักสูตรนั้นๆ สำหรับแบบทดสอบท้ายหลักสูตร ผู้เรียนต้องทำคะแนนได้มากกว่า 80% ขึ้นไป เพื่อผ่านแบบทดสอบและได้รับประกาศนียบัตร (Certificate) เมื่อเรียนจบหลักสูตร

วันนี้ทาง fasttacks จะมาแนะนำ ช่องทางการสร้างรายได้เสริม how to หารายได้ จากช่องทางออนไลน์ 10 ไอเดีย ฉบับมือใหม่ มีอะไรกันบ้าง พร้อมแล้วมาดูกันได้เลย

10 ไอเดีย How to หาเงินออนไลน์ วันละ 1000 บาท ปี 2024

เคล็ดลับในการหาเงินออนไลน์ ปี 2024

• เลือกงานที่ทำแล้วคุณถนัดและมีความสุข
• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่คุณเลือกให้ดี
• พัฒนาทักษะและความรู้ของคุณอยู่เสมอ
• อดทนและมุ่งมั่น

1.ขายของออนไลน์

การขายของออนไลน์เป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด วิธีนี้คุณจะต้องหาสินค้ามาขาย ซึ่งคุณสามารถหาได้จากหลายแหล่ง เช่น ตลาดนัด โรงงานผลิต หรือแหล่งขายส่ง จากนั้นก็ตั้งร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Shopee, Lazada, Facebook, หรือเว็บไซต์ของตัวเอง

2.รีวิวสินค้า

การรีวิวสินค้าเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยคุณจะต้องหาสินค้ามารีวิว ซึ่งคุณสามารถหาได้จากร้านค้าต่างๆ หรือได้รับตัวอย่างสินค้าจากบริษัทผู้ผลิต จากนั้นเขียนรีวิวสินค้าของคุณลงในเว็บไซต์หรือช่อง YouTube

3.เขียนบทความ

การเขียนบทความเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่สามารถทำได้หลากหลายวิธี เช่น การเขียนบทความลงเว็บไซต์ การเขียนบทความลงบล็อก การเขียนบทความให้บริษัทหรือองค์กรต่างๆ หรือเขียนบทความขาย

4.แปลภาษา

การแปลภาษาเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยคุณจะต้องมีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศอย่างน้อย 2 ภาษา จากนั้นรับงานแปลภาษาจากลูกค้า

5.สอนออนไลน์

การสอนออนไลน์เป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่สามารถทำได้หลากหลายวิชา เช่น ภาษาต่างประเทศ วิชาการต่างๆ หรือทักษะต่างๆ คุณสามารถสอนออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Zoom, Google Meet, หรือ Skype

6.เล่นเกม

การเล่นเกมเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ วิธีนี้คุณจะต้องเล่นเกมและชนะการแข่งขันต่างๆ คุณสามารถเล่นเกมเพื่อหาเงินได้บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Twitch, YouTube, หรือ Facebook

7.ทำคลิปวิดีโอ

การทำคลิปวิดีโอเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยม วิธีนี้คุณจะต้องสร้างคลิปวิดีโอที่น่าสนใจและน่าติดตาม จากนั้นเผยแพร่คลิปวิดีโอของคุณบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น YouTube, Facebook, หรือ TikTok

8.เขียนบล็อก

การเขียนบล็อกเป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยม วิธีนี้คุณจะต้องเขียนบล็อกเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณสนใจ จากนั้นหารายได้จากบล็อกของคุณ เช่น การทำโฆษณา ขายสินค้าหรือบริการ หรือรับเงินจากการสมัครสมาชิก

9.การทำ Affiliate Marketing

การทำ Affiliate Marketing เป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยม วิธีนี้คุณจะต้องแนะนำสินค้าหรือบริการของผู้อื่น จากนั้นรับค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้าหรือบริการเหล่านั้น

10.การเป็นฟรีแลนซ์

การเป็นฟรีแลนซ์เป็นวิธีหาเงินออนไลน์ที่ได้รับความนิยม วิธีนี้คุณจะต้องทำงานอิสระให้กับลูกค้าต่างๆ เช่น เขียนบทความ แปลภาษา ออกแบบกราฟิก หรือทำเว็บไซต์

สรุป

ความเป็นไปได้ในการหาเงินออนไลน์วันละ 1,000 บาทนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของงานที่ทำ ทักษะและความรู้ของคุณ และความขยันหมั่นเพียรของคุณ หากคุณเลือกงานที่ทำแล้วคุณถนัดและมีความสุข ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่คุณเลือกให้ดี พัฒนาทักษะและความรู้ของคุณอยู่เสมอ และอดทนและมุ่งมั่น โอกาสในการหาเงินออนไลน์วันละ 1,000 บาทก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน

คำโฆษณาเหล่านี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับสินค้าและบริการต่างๆ ได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องเลือกใช้คำโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและสินค้าหรือบริการของเรา วันนี้ทางผมเลยจะมาแนะนำ รวมคำทรงพลัง ที่ควรใช้ในการเขียนคำโฆษณา

คำโฆษณาที่ทรงพลังควรใช้ในการเขียนแคปชั่น มีอะไรบ้าง?

• คำโฆษณาควรสั้นและกระชับ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถจดจำและเข้าใจได้ง่าย
• คำโฆษณาควรตรงประเด็น ไม่ควรใช้คำโฆษณาที่กว้างเกินไปหรือแคบเกินไป
• คำโฆษณาควรกระตุ้นความรู้สึก กระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดความต้องการหรือความสนใจ
• คำโฆษณาควรมีหลักฐานสนับสนุน เช่น รีวิว รับประกัน หรือข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ เป็นต้น
• การเลือกใช้คำโฆษณาที่ทรงพลังจะช่วยให้คุณดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้มากขึ้น

รวม คำโฆษณาที่ทรงพลัง กระตุ้นยอดขายให้ปังๆ

คำโฆษณา	ความหมาย
ฟรี!	กระตุ้นความรู้สึกอยากได้ของฟรี
ลดราคา!	กระตุ้นความรู้สึกอยากประหยัด
จำกัดเวลา!	กระตุ้นความรู้สึกอยากรีบตัดสินใจ
รับประกัน!	สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ
รีวิวดี!	สร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ซื้อ
ใช้ง่าย!	ตอบโจทย์ความต้องการผู้ซื้อ
คุณภาพดี!	สร้างความพึงพอใจให้กับผู้ซื้อ
คุ้มค่า!	ตอบโจทย์ความต้องการด้านราคา
เหมาะกับคุณ!	เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อ
สั่งซื้อเลย!	กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ

E-E-A-T Factor คือ Factorหนึ่งของ google ย่อมาจาก Expertise, Experience, Authoritativeness และ Trustworthiness เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการพิจารณาคุณภาพของเว็บไซต์ ซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหา (Search Engine Result Page: SERP) โดย E-E-A-T Factor มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อหาและประสบการณ์ของผู้ใช้มากขึ้น

E-E-A-T Factor มีอะไรบ้าง?

Expertise (ความเชี่ยวชาญ)

Expertise หมายถึง ความเชี่ยวชาญของเจ้าของเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหา เว็บไซต์ที่มี Expertise สูงมักจะนำเสนอเนื้อหาที่ถูกต้อง ทันสมัย และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน เจ้าของเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหาควรมีความรู้และประสบการณ์ในหัวข้อที่เขียนเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถให้ข้อมูลแก่ผู้อ่านได้อย่างถูกต้องและเป็นประโยชน์

Experience (ประสบการณ์)

Experience หมายถึง ประสบการณ์ของเจ้าของเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหา เว็บไซต์ที่มี Experience สูงมักจะได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ หรือมีผู้เข้าชมจำนวนมาก เจ้าของเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหาควรมีประสบการณ์ในการเขียนเนื้อหาหรือทำงานในสาขานั้นๆ เป็นเวลานาน เพื่อให้สามารถนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ

Authoritativeness (ความมีอิทธิพล)

Authoritativeness หมายถึง ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มี Authoritativeness สูงมักจะได้รับการอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่นๆ หรือมี backlinks จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ เจ้าของเว็บไซต์ควรพัฒนาเนื้อหาและเว็บไซต์ให้มีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้อ่านและเว็บไซต์อื่นๆ

Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)

Trustworthiness หมายถึง ความน่าไว้วางใจของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่มี Trustworthiness สูงมักจะมีความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เจ้าของเว็บไซต์ควรมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจนและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจที่จะใช้งานเว็บไซต์

วิธีการปรับปรุง E-E-A-T Factor เพื่อให้ได้คะแนนจาก Google

เราสามารถปรับปรุง E-E-A-T Factor ของเว็บไซต์ได้ดังนี้

• สร้างเนื้อหาที่ถูกต้อง ทันสมัย และมีประโยชน์
• แสดงถึงความรู้และประสบการณ์ของเจ้าของเว็บไซต์หรือผู้เขียนเนื้อหา
• ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ หรือมีผู้เข้าชมจำนวนมาก
• พัฒนาเว็บไซต์ให้มีความน่าเชื่อถือ
• มีความปลอดภัยและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน
• การปรับปรุง E-E-A-T Factor ของเว็บไซต์จะช่วยให้เว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหา และดึงดูดผู้เข้าชมมากขึ้น

สรุป

E-E-A-T Factor นั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และมีผลต่อการทำ Seo อย่างมากดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์ควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาเว็บไซต์ในด้านต่างๆ เหล่านี้ เพื่อให้เว็บไซต์มีคะแนน E-E-A-T สูงและได้รับการจัดอันดับที่ดีในผลการค้นหาของ Google

รวมตัวช่วย เว็บไซต์สำหรับนักคนทำคอนเทนต์ มาดูกันได้เลยว่า มีเว็บไซต์อะไรกันบ้างที่ คนทำคอนเทนต์อย่างเราต้องรู้ พร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย

รวม 5 เว็บไซต์ ตัวช่วยสำหรับคนทำคอนเทนต์ ไอเดียลื่นๆ

1.เว็บ Readawrite

Readawrite เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสำหรับอ่านและเขียนนิยายออนไลน์ ก่อตั้งโดยบริษัท Readawrite Company Limited ในปี พ.ศ. 2562 ในประเทศไทย

Readawrite ให้บริการฟรีสำหรับผู้ใช้ทุกคน ผู้ใช้สามารถสร้างบัญชีและลงนิยายของตนเองได้ นิยายบน Readawrite มีทั้งนิยายแปลและนิยายไทย ครอบคลุมหลากหลายแนว เช่น โรแมนติก แฟนตาซี สืบสวนสอบสวน สอบสวนสอบสวน ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอื่นๆ

Readawrite มีฟีเจอร์ต่างๆ มากมายที่ช่วยให้ผู้อ่านและนักเขียนได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น ฟีเจอร์เหล่านี้รวมถึง

• ระบบการแนะนำนิยายที่ตรงกับความสนใจของผู้อ่าน
• ระบบการติดตามนิยายที่ชอบ
• ระบบการคอมเมนต์และพูดคุยกับนักเขียน
• ระบบการโหวตและติดเหรียญให้นิยาย
• Readawrite ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย มีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคน และนิยายมากกว่า 2 ล้านเรื่อง

สรุปจุดเด่นของ Readawrite

• มีนิยายให้เลือกอ่านหลากหลายแนว
• ใช้งานง่าย
• มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้อ่านและนักเขียนได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

สรุปจุดด้อยของ Readawrite

• โฆษณาบางครั้งอาจรบกวนผู้อ่าน
• นิยายบางเรื่องอาจมีคุณภาพต่ำ

แนะนำสำหรับเว็บ Readawrite

• ปรับปรุงระบบการกรองโฆษณาเพื่อให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นนิยายได้อย่างเต็มที่
• เพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้อ่านสามารถค้นหานิยายที่มีคุณภาพได้ง่ายขึ้น

2.เว็บ Meme Generator

Meme Generator เป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสำหรับสร้างมีม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างมีมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่ต้องมีความรู้หรือทักษะด้านการออกแบบใดๆ

คุณสมบัติของ Meme Generator

• เทมเพลตมีมมากกว่า 1,000 รายการให้เลือก
• ความสามารถในการอัปโหลดรูปภาพและข้อความของคุณเอง
• ความสามารถในการปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ของมีม
• ความสามารถในการแชร์มีมบนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มอื่นๆ

วิธีใช้ Meme Generator

• เลือกเทมเพลตมีมที่คุณต้องการ
• เพิ่มข้อความของคุณลงในเทมเพลต
• ปรับแต่งองค์ประกอบต่างๆ ของมีม
• แชร์มีมบนโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มอื่นๆ

ข้อดีของ Meme Generator

• ใช้งานง่าย
• มีเทมเพลตให้เลือกมากมาย
• ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างมีมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

ข้อเสียของ Meme Generator

• มีมบางรายการอาจละเมิดลิขสิทธิ์
• คุณภาพของมีมอาจไม่สูงเท่าการสร้างมีมด้วยโปรแกรมออกแบบกราฟิก

3.เว็บ TinEye

TinEye เป็นเครื่องมือค้นหารูปภาพที่มีลิขสิทธิ์ สามารถค้นหารูปภาพบนอินเทอร์เน็ตได้ แม้ว่ารูปภาพนั้นจะได้รับการแก้ไขหรือครอบตัดก็ตาม TinEye ใช้เทคโนโลยีการจดจำภาพแบบบลายด์แมชชิ่ง (blind matching) เพื่อค้นหารูปภาพที่ตรงกัน

คุณสมบัติหลักของ TinEye

• ค้นหารูปภาพได้แม้ว่าจะได้รับการแก้ไขหรือครอบตัดก็ตาม
• ค้นหารูปภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• รองรับรูปภาพทุกรูปแบบและทุกขนาด
• ใช้งานง่าย

การใช้งาน TinEye

ผู้ใช้สามารถค้นหารูปภาพบน TinEye ได้ง่ายๆ เพียงอัปโหลดรูปภาพที่ต้องการค้นหาหรือป้อน URL ของรูปภาพที่ต้องการค้นหา TinEye จะแสดงผลการค้นหาเป็นรายการรูปภาพที่ตรงกัน ผู้ใช้สามารถดูรายละเอียดของแต่ละรูปภาพ เช่น ขนาด ความละเอียด และแหล่งที่มา

ประโยชน์ของ TinEye

TinEye เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ เช่น

• ค้นหาแหล่งที่มาของรูปภาพ
• ตรวจสอบความถูกต้องของรูปภาพ
• ค้นหารูปภาพที่คล้ายกัน
• ค้นหารูปภาพที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์

4.เว็บรวมชุดสี Color Hunt

Color Hunt เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมชุดสี (Color Palette) ที่สร้างโดยนักออกแบบทั่วโลกไว้มากมาย ช่วยให้นักออกแบบสามารถหาแรงบันดาลใจและไอเดียสำหรับการใช้สีในงานออกแบบของตนเอง

คุณสมบัติของ Color Hunt

• มีชุดสีให้เลือกมากมาย ครอบคลุมทุกสไตล์และอารมณ์
• สามารถเลือกชุดสีตามสีหลัก โทนสี หรือสไตล์ที่ต้องการ
• สามารถดูรายละเอียดของชุดสีได้ เช่น ชื่อชุดสี ข้อมูลผู้สร้าง และข้อมูลการใช้งาน
• สามารถดาวน์โหลดชุดสีในรูปแบบต่างๆ เช่น PNG, SVG, CSS และ HTML

วิธีใช้งาน Color Hunt

• เข้าสู่เว็บไซต์ Color Hunt
• เลือกหมวดหมู่หรือสไตล์ที่ต้องการ
• คลิกที่ชุดสีที่ต้องการดูรายละเอียด
• คลิกที่ปุ่ม “Download” เพื่อดาวน์โหลดชุดสี

ข้อดีของ Color Hunt

• เป็นแหล่งรวมชุดสีที่หลากหลายและมีคุณภาพ
• ใช้งานง่าย
• ฟรี

5.เว็บ Vectorfair

Vectorfair เป็นเว็บไซต์ขายไฟล์เวกเตอร์ ไอคอน และกราฟิกอื่นๆ ในรูปแบบดิจิทัล ก่อตั้งขึ้นในปี 2019 โดยทีมนักออกแบบชาวไทย เว็บไซต์นี้มีไฟล์เวกเตอร์ให้เลือกมากกว่า 100,000 ไฟล์ ครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน เช่น การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การออกแบบเว็บไซต์ การออกแบบสื่อสิ่งพิมพ์ และอื่นๆ

จุดเด่นของ Vectorfair

• ไฟล์เวกเตอร์คุณภาพสูง ความละเอียดสูง สามารถใช้ในงานพิมพ์และงานดิจิทัลได้
• เลือกซื้อไฟล์เวกเตอร์ได้ตามความต้องการ มีทั้งไฟล์เวกเตอร์ฟรีและไฟล์เวกเตอร์แบบชำระเงิน
• ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่เพียง 10 บาท
• ใช้งานง่าย ค้นหาไฟล์เวกเตอร์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

วิธีใช้ Vectorfair

• สมัครสมาชิก Vectorfair
• ค้นหาไฟล์เวกเตอร์ที่ต้องการ
• เลือกซื้อไฟล์เวกเตอร์ที่ต้องการ
• ดาวน์โหลดไฟล์เวกเตอร์
• ข้อดีและข้อเสียของ Vectorfair

ข้อดี

• ไฟล์เวกเตอร์คุณภาพสูง
• เลือกซื้อไฟล์เวกเตอร์ได้ตามความต้องการ
• ราคาไม่แพง
• ใช้งานง่าย

ข้อเสีย

• ไฟล์เวกเตอร์บางไฟล์อาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานทุกประเภท
• อาจมีไฟล์เวกเตอร์ที่ซ้ำกัน

อ่านเรื่องอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่:

• แปลงข้อความเป็นรูปภาพ Text to Image ด้วย CANVA
• แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok  ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
• Canva pro รวม 10 ฟังก์ชั่น AI ง่ายต่อการออกแบบ
• 6 ข้อดีการขายของในแอพ Tiktok Shop
• รวม 10 เว็บโหลดรูปไปใช้ได้ฟรี 2023 ไม่มีลิขสิทธิ์

เมื่อ data กำลังกุมอนาคตธุรกิจ data-driven marketing คือทางรอด

ในยุคปัจจุบันที่ข้อมูล (data) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจทุกภาคส่วน การตลาดแบบขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven marketing) จึงเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อนำไปสู่การวางแผนและดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น วันนี้ผมจะมาแนะนำสิ่งที่เราต้องรู้ เมื่อ DATA กำลังมีความสำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจ

10 ประเด็นสำคัญ ความสำคัญของ data-driven marketing ในยุคปัจจุบัน

1.ข้อมูลมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางการตลาด

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลลัพธ์ของการตลาดได้อย่างแม่นยำ

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาดได้อย่างแม่นยำ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญและปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงและรักษาฐานลูกค้าไว้ได้

4.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ธุรกิจที่สามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่ง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง

5.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความภักดีของลูกค้าได้

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความภักดีและกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากธุรกิจซ้ำๆ

6.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการตลาด

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและดำเนินแคมเปญการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนการตลาดลงได้

7.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มยอดขายและผลกำไร

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไรให้กับธุรกิจ

8.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ได้

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้

9.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กรได้

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานภายในองค์กรได้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

10.ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้

ข้อมูลช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

สรุป

จากประเด็นที่ผมกล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า data-driven marketing มีความสำคัญต่อธุรกิจในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ธุรกิจที่สามารถใช้ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพจะสามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เพื่อนำไปสู่การวางแผนและดำเนินกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน

One Person Business คืออะไร ?

One Person Business คือ ธุรกิจของคนคนเดียว เป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถเริ่มต้นได้ง่าย

และในบทความนี้ ผมจะแนะนำ 10 แนวทางการทำ One Person Business ที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวอย่างแน่นอน พร้อมแล้วไปดูพร้อมๆกันได้เลย

1.เลือกธุรกิจที่ตรงกับความสนใจและทักษะของคุณ

การเลือกธุรกิจที่ตรงกับความสนใจและทักษะของคุณ จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสามารถเริ่มต้นจากการสำรวจสิ่งที่คุณชอบและถนัด จากนั้นลองคิดหาวิธีที่จะสร้างรายได้จากสิ่งเหล่านั้น

2.วางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ

ก่อนเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนธุรกิจอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ตลาดเป้าหมาย ผลิตภัณฑ์หรือบริการ กลยุทธ์การตลาด และการเงิน

3.ทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ

การทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจทุกประเภท คุณสามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางการตลาดต่างๆ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ การโฆษณาออนไลน์ และงานอีเวนต์

4.ให้บริการลูกค้าที่ดี

การบริการลูกค้าที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าของคุณ คุณสามารถให้บริการลูกค้าที่ดีได้โดยตอบคำถามและข้อกังวลของลูกค้าอย่างรวดเร็วและอย่างสุภาพ

5.จัดการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ

การจัดการวางแผนการเงินอย่างรอบคอบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจทุกประเภท คุณสามารถติดตามค่าใช้จ่ายและรายได้ เพื่อควบคุมสถานะทางการเงินของคุณ

6.แบ่งเวลาในการทำงานและพักผ่อนอย่างเหมาะสม

การทำธุรกิจของคนคนเดียวอาจทำให้คุณทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน สิ่งสำคัญคือ ต้องแบ่งเวลาในการทำงานและพักผ่อนอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้ร่างกายและจิตใจของคุณอ่อนล้า

7.เรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ

โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือ ต้องเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้

8.อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ

การทำธุรกิจคนเดียวอาจเป็นเรื่องท้าทาย คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือเพื่อนฝูงได้หากต้องการ

9.อย่าย่อท้อ

การทำธุรกิจต้องใช้เวลาและความพยายามจึงจะประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญคืออย่าย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจของคุณต่อไป

10.สนุกกับการทำธุรกิจ

การทำธุรกิจควรเป็นสิ่งที่สนุกและท้าทาย คุณสามารถทำให้การทำธุรกิจของคุณสนุกขึ้นได้โดยทำสิ่งที่คุณรักและทำงานร่วมกับคนที่คุณชอบ

สรุป

นอกจากแนวทางการทำ One Person Business ข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมความสำเร็จของธุรกิจ เช่น การมีทัศนคติที่ดี ความมุ่งมั่น ความอดทน และการเรียนรู้อยู่เสมอ ขอให้ทุกคนโชคดีในการทำธุรกิจของตนเองกันนะครับ

สายทำคอนเทนต์ นักออกแบบ ไม่ควรพลาดวันนี้ เราได้รวบรวมข นาดรูปภาพ ทั้งหมดจาก instagram อัปเดทล่าสุดปี 2023 มาดูกันเลยว่า ขนาดรูปทั้งหมดประกอบไปด้วย ขนาดเท่าไหร่บ้าง พร้อมแล้ว ลุย

1.carousel ads

ขนาดรูปที่แนะนำ 1080 X 1080 px

2.video carousel post

3.storles

4.video Ads

5.Stories ,Reels ADS

6.Image Carouel post

7.video post

8.Live

9.ig profile

10. Image Ads

11.IGTV

12.Image post

สรุป

เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับ รวมขนาด ขนาดรูป instagram อัปเดทล่าสุด 20203 หวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่เป็นผู้ทำคอนเทนต์และนักออกแบบ กันทุกคนนะครับ อย่าลืมติดตามข่าวสารดีๆจาก fast tacks กันด้วยนะครับ