ความรู้ SEO

อัพเดท อัลกอริทึม Google รีวิวผลิตภัณฑ์ คนทำ SEO ต้องอ่าน

Google ปล่อยเตรียม ตัวปล่อย อัพเดตรีวิวผลิตภัณฑ์ กรกฎาคม 2022

การอัพเดทนี้เป็นการอัพเดตรีวิวผลิตภัณฑ์ของ Google ครั้งที่ 4 คาดว่าทาง google อาจจะใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ในการเปิดตัว การอัพเดทครั้งนี้ ดังนั้น สิ่งที่คนทำ seo ต้องรู้ก็คือ เราต้องเตรียมตัวอย่างไร บ้าง และมีผลกับเว็บไซต์ หรืออันดับอย่างไร วันนี้เราลองมา ดูข้อมูล ของทาง google ในการอัพเดทครั้งนี้ กันได้เลยครับ

เพื่อเราจะได้มีเวลาเตรียมตัวและเตรียมปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อที่จะทำให้อันดับเว็บไซต์ ของเรานั้นมีโอกาสได้อันดับที่ดีขึ้นในการอัพเดทครั้งนี้

Google ได้เริ่มเปิดตัวการอัพเดทครั้งที่ 4 ของการอัพเดท รีวิวผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นการ อัพเดทอัลกอริทึมการจัดอันดับการค้นหา ที่ให้ความสำคัญกับการจัดอันดับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ รีวิวผลิตภัณฑ์บนเว็บที่เป็นประโยชน์และมีประโยชน์ต่อผู้ค้นหามากที่สุด

การอัพเดท รีวิวผลิตภัณฑ์ครั้งแรกเปิดตัวเมื่อ วันที่ 8 เมษายน 2021ครั้งที่สองเปิดตัวเมื่อ วันที่ 1 ธันวาคม 2021ครั้งที่สามเปิดตัวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2022 และตอนนี้ ครั้งที่สี่ได้รับการประกาศจากทาง google เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 0222 ใหม่ คือ การอัพเดทรีวิวผลิตภัณฑ์ ในเดือน กรกฎาคม 2022

รูปที่มา:Twitter

Google ประกาศอัพเดทประกาศนี้บน Twitter กับ แนวทาง วิธีการเขียน รีวิวผลิตภัณฑ์

การอัพเดทรีวิวผลิตภัณฑ์ของ Google มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมเนื้อหารีวิวที่เราเห็นบนเว็บไซต์นั้น Google กล่าวว่าจะส่งเสริม บทวิจารณ์หรือ comment ของผลิตภัณฑ์ ในการจัดอันดับผลการค้นหา

แต่ Googleเองก็ไม่ได้ลงโทษโดยตรง ต่อ Comment ของผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพต่ำ อย่างไรก็ตาม หากเนื้อหาดังกล่าว นั้นส่งผลทำให้ อันดับของเราถูกลดอันดับ ผลเนื่องมาจากเนื้อหาอื่นได้รับการส่งเสริมให้มีคุณภาพมากกว่าเนื้อหาของเรานั้นเอง อาจจะทำให้เราคิดว่าเราถูกทาง google นั้นลงโทษหรือเปล่า แต่ในทางเทคนิค ตามข้อมูลของ Google จะไม่มีผลในการลงโทษสำหรับเนื้อหาของเรา

แต่ Google ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาบทวิจารณ์ที่มีคุณภาพและดูน่าเชื่อถือจึงทำให้มีผลต่อการจัดอันดับนั้นเองครับ

ในทางเทคนิค การอัพเดทครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาประเภทการ รีวิวผลิตภัณฑ์เท่านั้น ไม่ใช่เนื้อหาประเภทอื่นๆ ดังนั้น หากเว็บเว็บไซต์ของเราไม่ได้มีเนื้อหาประเภทนี้ก็ไม่ต้องกังวล กันครับ

ในการอัพเดตครั้งนี้ Google น่าจะแค่ปรับ อัลกอริทึม และทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย การเปิดตัวคาดว่า ใช้เวลา 2-3 สัปดาห์น่าจะเสร็จสมบูรณ์ ” Google กล่าวว่า การอัพเดตเหล่านี้และมักใช้เวลาสองสามสัปดาห์ในการเปิดตัว จึงไม่น่าแปลกใจเลย

ที่เราจะเห็นความผันผวนของอันดับจำนวนมากและจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนการเปิดตัวของการอัพเดทครั้งนี้

เว็บไซต์ของเราจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง?

Google ประกาศออกมาว่าการอัพเดทนี้อาจส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา “การสร้างบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ในภาษาใดก็ได้

” แต่ในอนาคต Google กล่าวว่าการเปิดตัวครั้งแรกจะเป็น “บทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ที่เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น “

แต่คาดว่า Google นั้นวางแผนที่จะเปิดการสนับสนุนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สำหรับภาษาอื่นๆ ในอนาคต อย่างแน่นอน

การเตรียมตัวก่อนการอัพเดท

โดย google นั้น มุ่งเน้นไปที่การมอบเนื้อหาที่ให้การวิเคราะห์เชิงลึกและคุณภาพแก่ผู้ใช้ เนื้อหาที่เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ชื่นชอบที่รู้จักหัวข้อนี้ดี Google กล่าวเกี่ยวกับการอัพเดทนี้ คือ คำแนะนำที่คล้ายกันกับคำแนะนำการอัพเดท หลักที่กล่าวถึง แต่นี่คือรายการ

คำถามที่เป็นประโยชน์ เพิ่มเติมที่ควรพิจารณาในแง่ของการรีวิวผลิตภัณฑ์ Google แนะนำให้รีวิวผลิตภัณฑ์ของเรานั้นครอบคลุมประเด็นเหล่านี้และตอบคำถามเหล่านี้และทำรีวิวสินค้า

สิ่งที่เราต้องทำ คือ:

  • แสดงความรู้ของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตามความเหมาะสม?

  • แสดงว่าผลิตภัณฑ์มีลักษณะทางกายภาพอย่างไรหรือใช้งานอย่างไรโดยมีเนื้อหาเฉพาะนอกเหนือจากที่ผู้ผลิตจัดหาให้?

  • อธิบายสิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์แตกต่างจากคู่แข่ง?

  • อภิปรายถึงประโยชน์และข้อเสียของผลิตภัณฑ์เฉพาะโดยอิงจากการวิจัยหรือไม่?

  • อธิบายว่าผลิตภัณฑ์มีวิวัฒนาการมาจากรุ่นหรือรุ่นก่อนหน้าอย่างไรเพื่อให้มีการปรับปรุง แก้ไขปัญหา หรือช่วยเหลือผู้ใช้ในการตัดสินใจซื้อ

  • ระบุปัจจัยการตัดสินใจที่สำคัญสำหรับหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในพื้นที่เหล่านั้นอย่างไร ตัวอย่างเช่น การตรวจสอบรถยนต์อาจระบุว่าการประหยัดเชื้อเพลิง ความปลอดภัย และการควบคุมรถเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่สำคัญและอัตราประสิทธิภาพในพื้นที่เหล่านั้น

  • อธิบายตัวเลือกที่สำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์และผลกระทบต่อผู้ใช้นอกเหนือจากที่ผู้ผลิตกล่าว

  • ให้ ภาพ เสียง หรือลิงก์อื่นๆ ของประสบการณ์ของคุณเองกับผลิตภัณฑ์ เพื่อสนับสนุนความเชี่ยวชาญของคุณและตอกย้ำความถูกต้องของรีวิวของคุณ

  • รวมลิงก์ไปยังผู้ขายหลายรายเพื่อให้ผู้อ่านมีตัวเลือกในการซื้อจากผู้ขายที่ต้องการ

สามารถอ่านวิธีการ ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ซื้อจาก google ที่นี่

และหากต้องการ ทำ seo อย่างไรให้ถูกหลัก ของ google ก็สามารถอ่าน บทความอื่นๆ ได้ที่:

สรุป

การอัพเดท google ในครั้งนี้ ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญ เพราะหากเว็บไซต์ของเรานั้นมีเนื้อหารีวิวผลิตภัณฑ์ เราควรจะต้องตรวจสอบการจัดอันดับเพื่อดูว่า เว็บไซต์ของเรานั้นได้รับผลกระทบหรือไม่ การปริมาณการเข้าชมที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ ของเราดีขึ้น ลดลง หรือเหมือนเดิมหรือไม่?

ในระยะยาว เราอาจจะต้องใส่รายละเอียดและความให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นกับ เนื้อหาการรีวิวผลิตภัณฑ์ของเรา เพื่อให้มีความโดดเด่นและมีคุณภาพกว่าเว็บไซต์ของคู่แข่ง

และนอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการอัพเดทหลัก ในครั้งก่อนหน้า แต่ในการอัพเดทในครั้งนี้ เว็บไซต์ของเรานั้น อาจได้รับอันดับที่ดีกว่า ครั้งก่อนแน่นอน ในการอัพเดท รีวิวผลิตภัณฑ์ในเดือนกรกฎาคม 2022 หากเรานั้นเตรียมตัว และมีการปรับปรุงเนื้อหา เรื่องการรีวิว ให้มีคุณภาพ

FAST TACKS บริการรับทำการตลาดออนไลน์

อัพเดท อัลกอริทึม Google รีวิวผลิตภัณฑ์ คนทำ SEO ต้องอ่าน Read More »

อัพเดท อัลกอริทึม Google 2022

วิธีทำSEO ใน WordPress อัพเดทล่าสุด (Step-by-step)

ทำSEO อย่างไร ให้ติดหน้าแรก?

วิธีทำSeo ใน WordPress แนวทางการพัฒนาและการปรับปรุงเนื้อหา ของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญมากๆสำหรับการเพิ่มจำนวนผู้คนให้เข้ามาภายเว็บไซต์ของเรา แต่สำหรับมือใหม่บางท่านนั้น ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องยากเลยทีเดียว และส่วนใหญ่ การทำ WordPress SEO

ส่วนใหญ่นั้นก็มักจะพูดถึงการใช้วิธีการเทคนิคมากจนเกินไป แต่สำหรับ มือใหม่นั้น ควรจะเป็นเรื่องที่อธิบายและสามารถทำตามได้ง่ายๆ

เพราะหากเราจริงจังกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการเพิ่มจำนวนในการชมเว็บไซต์ของเรานั้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องใส่ใจกับแนวทางและวิธีการปฏิบัติที่ดีและถูกต้องที่สุดของการทำ WordPress SEO

ในบทความนี้ เราจะเผยเคล็ดลับ การทำSEO WordPress กันครับ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถปรับปรุง WordPress SEO ของเราและเพิ่มจำนวนการเข้าชมแบบออร์แกนิกมากขึ้น หลายคนอาจจะเคยได้หรือตามที่ผู้สอนทำหลายท่านบอกว่า WordPress นั้นถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับ SEO นี่คือเหตุผลที่ผู้คนจำนวนมากเลือกใช้ WordPress เพื่อทำบล๊อคของตนเองหรือเว็บไซต์ ต่างๆ

ถึงแม้ว่า WordPress นั้นจะทำให้เรามั่นใจว่าเว็บที่เราสร้างขึ้นนั้นจะเป็นไปตามแนวทางสำหรับการเริ่มต้นทำ SEO แต่ซึ่งจริงๆและยังมีอีกหลายสิ่งที่เรานั้นต้องทำหากต้องการประสิทธิภาพในการทำ SEO ของเราให้มีประสบผลสำเร็จ

ดังนั้น เรามาดูขั้นตอนที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การทำ WordPress SEO ของเราให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพได้มากที่สุดกันเลยครับ

เพื่อให้ง่าย ต่อการอ่านเพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจก็ได้นะครับ

เปลี่ยนวิธีคิด: ก่อนทำ SEO
ทุกคนรู้ดีว่าแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ WordPress SEO นั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับ มือใหม่และผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราไม่ใช่ผู้ที่มีความรู้ทางเทคโนโลยี มาก่อนเลย แต่เพื่อนๆเชื่อไหมครับ เราไม่ต้องกังวล เพราะมันไม่จำเป็นต้องทำให้สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพื่อนๆสามารถ เริ่มต้นได้ที่นี่บทความนี้ของ Fast tacks ได้เลยครับ เพื่อเรียนรู้พื้นฐานไปพร้อมๆกัน
และหลังจากนั้น เพื่อนๆก็สามารถลงมือทำ และนำไปปรับใช้ กับเว็บไซต์ของเพื่อนๆได้เลยครับ

SEO คืออะไร?

รูปที่มา: Google

SEO คือ เป็นตัวย่อที่ย่อมาจากคำว่า Search Engine Optimization เป็นกลยุทธ์ที่เจ้าของเว็บไซต์นั้นใช้เพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าชมโดยการจัดอันดับที่สูงขึ้นในเครื่องมือค้นหาของ google การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกของการค้นหานั้นไม่ได้เกี่ยวกับการหลอกลวงของทาง Google

หรือการเล่นเกมระบบ ต่างๆ แต่มันเป็นเพียงการสร้างเว็บไซต์ที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดรูปแบบ ซึ่งทำให้เครื่องมือค้นหาค้นหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่าย มีเพียงแค่นีเองครับ ใจความสั้นๆ เห็นไหมครับ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด และเมื่อมีผู้คนที่กำลังค้นหาหัวข้อที่เราเขียนเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือเนื้อหาถูกปรับให้เหมาะกับ เครื่องมือค้นหาของgoogle

เพียงเท่านี้นเว็บไซต์ของเราก็จะปรากฏในผลการค้นหาของ google ที่สูงขึ้น และเพียงแค่นี้เราก็จะได้ผู้คนที่คลิก เข้ามาที่ยังเว็บไซต์ของเรามากขึ้น แล้วครับ

ทำไม การทำSEO ถึงมีความสำคัญ ?

เครื่องมือการค้นหาของ google นั้น มักเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเราได้มากที่สุด ในปัจจุบันนี้
Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ใช้อัลกอริธึม ขั้นสูง เพื่อใช้ในการทำความเข้าใจและจัดอันดับหน้าเว็บไซต์อย่างเหมาะสม ของผลการค้นหา

ดังนั้น อัลกอริธึม เหล่านั้นที่กล่าวมามันยังไม่สมบูรณ์แบบ เพระ อัลกอรึทิ่มเหล่านั้น ยังต้องการข้อมูลจากเราครับ เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าเนื้อหาของเรานั้น เป็นเกี่ยวกับอะไร ดังนั้นครับ หากเนื้อหาของเรานั้นไม่ได้มีการปรับปรุงให้เหมาะสม เครื่องมือค้นหาของ google นั้นจะไม่รู้ว่าจะจัดอันดับได้อย่างไร? เมื่อมีคนค้นหาหัวข้อที่เราเขียนถึง และเว็บไซต์ของเรานั้นก็จะไม่ปรากฏในผลการค้นหา

ผลที่ตามมาคือ เราจะพลาดโอกาสเพิ่มจำนวนผู้คนที่จะเข้ามายังเว็บของเราทั้งหมด นี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆครับ สำหรับเจ้าของธุรกิจทุกคน ที่จะต้องทำอย่างไร? ให้เครื่องมือค้นหาของ googleนั้นเป็นมิตรกับเว็บไซต์ของเรา เพื่อเพิ่มโอกาสในปริมาณการค้นหาครับ

วิธีการทำ SEO WordPress

มาต่อกันครับ สำหรับพื้นฐานของการทำ SEO นั้นสามารถปรับแต่งด้วยเทคนิคได้ครับ แต่จริงๆมันก็ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น เพียงอย่างเดียวครับ เพียงแค่เราเรียนรู้วิธีการทำ SEO พื้นฐานอย่างถูกต้อง นั้นก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของเราได้มากแล้วครับ

และเรายังสามารถเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้อย่างเห็นได้ชัด หากเราปฏิบัติ ถูกวิธีนะครับ


ผมถึงบอกครับ เราไม่จำเป็นต้องเป็นอัจฉริยะหรือมีความรู้ด้านเทคโนโลยีมาก่อนก็ได้ครับ เพียงเราใช้เทคนิคในบทความนี้ และยิ่งหากเพื่อนๆใช้ WordPress กันอยู่แล้ว ก็มาลุยกันได้เลยครับ!


มาเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของเรากันเถอะ

1.ตรวจสอบการตั้งค่า การมองเห็นในเว็บไซต์ของเรา

WordPress นั้นมาพร้อมกับฟังก์ชั่นในตัวครับ เพื่อซ่อนเว็บไซต์ของเราจากเครื่องมือค้นหาของ google ครับ ดังนั้น จุดประสงค์ของตัวเลือกนี้คือ เพื่อให้เรานั้นมีเวลาปรับแต่งบนเว็บไซต์ของเราก่อนที่จะพร้อมเผยแพร่สู่สาธารณะ แต่บางครั้งครับ หากเราไม่ได้สังเกตก่อน ตัวเลือกนี้จะถูกปิดการค้นหาอยู่ครับ และทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นไม่พร้อมใช้งานสำหรับเครื่องมือค้นหา นั่นเอง อันนี้ต้องเช็คกันดีๆนะครับ


และหากเว็บไซต์ของเราไม่ปรากฏในผลการค้นหา สิ่งแรกที่เราต้องทำ คือเราต้องเช็คให้แน่ใจก่อนว่าไม่ได้ปิดตัวเลือกนี้ไว้ครับ

ส่วนวิธีการเช็ค ก็ง่ายๆครับ เพียงเข้าสู่หลังบ้านในเว็บไซต์ WordPress ของเราและไปที่การตั้งค่า »หน้า การอ่าน (ตั้งค่าตามภาพได้เลยครับ)

รูปที่มา: WordPress

เราก็แค่ติ๊กเครื่องหมาออกจากช่องนี้ครับ “ปิดกั้นโปรแกรมช่วยสืบค้นข้อมูลไม่ให้จัดทำดัชนีของเว็บนี้”
เพียงแค่นี้ เราก็จะเปิด ใช้งานให้เครื่องมือค้นหาของ google ได้เข้ามาที่เว็บไซต์ของเราแล้วครับ

และ อย่าลืมคลิกที่ปุ่ม ‘บันทึกการเปลี่ยนแปลง’ด้วยนะครับ บางคนลืมบันทึก ก็คือว่า ยังปิดการค้นหาอยู่นะครับ

2.การเลือกใช้ URL ที่เป็นมิตรกับ SEO ใน WordPress

การเลือกใช้ URL ที่เป็นมิตรกับ SEO นั้นมีความสำคัญต่อการที่จะอธิบายเนื้อหาของหน้าได้อย่างชัดเจน ทั้งมนุษย์และเครื่องมือค้นหา ดังนั้นการใช้ URL ที่ถูกต้อง จะช่วยทำให้google นั้นและเข้าใจ URL ของเว็บไซต์เราได้ง่ายขึ้นครับ

ตัวอย่าง URL ที่เป็นมิตรกับการทำ SEO ได้แก่:

  • https://www.wpbeginner.com/how-to-install-wordpress/
  • https://www.wpbeginner.com/common-wordpress-errors-and-how-to-fix-them/

สังเกตไหมครับว่า URL ตัวอย่างด้านบนนั้นสามารถอ่านได้ง่าย และผู้ใช้สามารถนั้นยังสามารถคาดเดาถึงเนื้อหาในหน้าได้ เพียงแค่สังเกตจาก URL

ส่วน URL ที่ไม่เป็นมิตรกับการทำ SEO ได้แก่:

  • https://www.wpbeginner.com/?p=10467
  • http://example.com/archives/123

สังเกตไหมครับ ว่า URL เหล่านี้ที่ใช้ตัวเลขที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา และผู้ใช้นั้นก็ไม่สามารถเดาได้ว่าพวกหากคลิ๊กเข้ามาแล้วจะพบอะไรในหน้าเว็บ โดยสังเกตดูที่ URL


ดังนั้นการใช้โครงสร้างลิงก์ ที่เป็นมิตรกับการทำ SEO จะช่วยเพิ่มการได้รับอันดับที่ดีขึ้นในผลการค้นหาของGoogle
และนี่ก็คือ อีกวิธีที่เรา สามารถตรวจสอบและอัพเดต โครงสร้างลิงก์ของเว็บไซต์ WordPress ของเราได้


ไปที่หน้า การตั้งค่า » ลิงก์ถาวร เลือกตัวเลือกชื่อโพสต์แล้วคลิกปุ่ม ‘บันทึกการเปลี่ยนแปลง’ เพื่อจัดเก็บการตั้งค่า

รูปที่มา: wordpress

คำแนะนำ:

หากเว็บไซต์ของเราใช้งานมานานกว่า 6 เดือน แนะนำว่าอย่าเปลี่ยนโครงสร้างลิงก์ถาวรโดยเด็ดขาด ยกเว้นเราจะใช้ตัวเลือกตัวเลข ให้ใช้สิ่งนั้นต่อไปเพราะการเปลี่ยนโครงสร้างลิงก์ถาวรบนเว็บไซต์นั้น จะทำให้เราสูญเสียจำนวนการแชร์บนโซเชียลมีเดียและเสี่ยงต่อการสูญเสียอันดับ SEO ที่มีอยู่ด้วย

3.การใช้ WWW กับไม่ใช่ WWW มีผลกับการทำ seo หรือไม่?

หากเรากำลังจะทำเว็บไซต์ใหม่ เราจำเป็นต้องเลือกว่าเราต้องการใช้ www (http://www.example.com) หรือไม่มี www (http://example.com) ใน URL ของเว็บไซต์ของเรา เพราะการทำseo นั้น ถือว่าเว็บไซต์ เหล่านี้เป็นสองเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นต้องระวังเรื่องนี้ให้มากๆ ซึ่ง

หมายความว่าเราต้องเลือกหนึ่งเว็บไซต์และยึดตามนั้น หากเลือกใช้แบบมี www เวลาจะพิมพ์ url ของเว็บไซต์เรานั้น เราก็ต้องระบุ www ด้วย


เราสามารถตั้งค่ากำหนดได้โดยไปที่หน้า การตั้งค่า » ทั่วไป เพิ่ม URL ที่เราต้องการทั้งในฟิลด์ ‘ที่อยู่ WordPress’ และ ‘ที่อยู่เว็บไซต์’

รูปที่มา: WordPress

4.การใช้ ปลั๊กอิน ช่วยในการทำ seo WordPress


หนึ่งในตัวช่วยที่ดีที่สุดในการทำ seo WordPress ก็คือมีปลั๊กอิน ที่จะช่วยให้เรานั้นทำงานได้ง่ายขึ้นในการ สร้าง site map หรือการ ใส่ meta tag หรือการปรับแต่งส่วนๆต่างๆ ของบทความ

เมื่อพูดถึงการเลือกปลั๊กอินสำหรับการทำ SEO wordpress เราแนะนำ ปลั๊กอิน Yoast SEO เพราะคุณสมบัตินั้นถือว่า ครบเครื่อง และใช้งานได้ง่ายมากๆ เหมาะสำหรับมือใหม่ และ ปรับแต่งส่วนต่างๆ บนเว็บไซต์ของเราได้อย่างง่ายดาย

รูปที่มา: Yoast Seo

5.เพิ่ม XML Sitemaps ใน WordPress

รูปที่มา: Google


XML Sitemap นั้นเป็นไฟล์ ที่แสดงรายการทุกหน้าในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะช่วยให้เครื่องมือค้นหาของ google นั้น สามารถค้นหาเนื้อหาทั้งหมดของเราได้ง่ายขึ้น การเพิ่มแผนผัง site map XML จะไม่ช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาของเว็บไซต์ของเรา แต่ช่วยให้เครื่องมือค้นหา สามารถค้นหาหน้าต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและเริ่มจัดอันดับหน้าเหล่านั้น หากเราใช้ปลั๊กอิน Yoast Seo ปลั๊กอินจะสร้างแผนผังเว็บไซต์ XML ให้เราโดยอัตโนมัติ

(อันนี้ถือว่าสะดวกมากๆ สำหรับคนที่เลือกทำ seo wordpress ) หากต้องการค้นหา sitemap ของเรา


ให้เราไปที่ URL นี้ (อย่าลืมแทนที่ example.com ด้วยชื่อโดเมนของคุณเอง):
http://example.com/sitemap_index.xml

สามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO ได้ที่นี่:


วิธีส่งแผนผังเว็บไซต์ XML ของเราไปยัง Google ในขั้นตอนต่อไป พร้อมไปต่อกันหรือยังครับ

6.เพิ่มเว็บไซต์ของเราใน Google Search Console

Google Search Console หรือที่เรียกว่าเครื่องมือของผู้ดูแลเว็บไซต์ คือชุดเครื่องมือที่ Google นำเสนอเพื่อให้เจ้าของเว็บไซต์ได้เห็นว่าเครื่องมือค้นหามองเห็นเนื้อหาของเราได้อย่างไร มีรายงานและข้อมูลเพื่อช่วยให้เราเข้าใจว่าหน้าเว็บไซต์ ของเราปรากฏในผลการค้นหาอย่างไร

และนอกจากนี้ เรายังจะได้เห็นข้อความค้นหาจริงๆที่ผู้คนใช้เพื่อค้นหาเว็บไซต์ของเรา ลักษณะที่แต่ละหน้าปรากฏในผลการค้นหา

และความถี่ที่หน้าเว็บของเราถูกคลิก ข้อมูลทั้งหมดนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าสิ่งใดใช้ได้ผลในเว็บไซต์ของเรา และสิ่งใดใช้ไม่ได้ผล จากนั้นเราสามารถวางแผนกลยุทธ์การสร้างเนื้อหาของเราได้ตามข้อมูล ที่แสดงผล เพื่อนำไปพัฒนาต่อไป Google Search Console ยังแจ้งเตือนเราเมื่อมีบางสิ่งผิดปกติกับเว็บไซต์ของเรา เช่น เมื่อโปรแกรมรวบรวมข้อมูลการค้นหาไม่สามารถเข้าถึงได้ ค้นหาเนื้อหาที่ซ้ำกัน หรือทรัพยากรที่จำกัด

7.การเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ SEO


บ่อยครั้งที่มือใหม่มักทำผิดพลาด คือโดยคิดว่าการติดตั้งและเปิดใช้งานปลั๊กอิน WordPress SEOนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำ SEO เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่เรานั้นต้องติดตาม หากต้องการเห็นผลลัพธ์มากที่สุด


ปลั๊กอิน SEO ทั้งหมดนั้น เป็นเพียงแค่ เครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถเพิ่มชื่อ SEO คำอธิบายเมตาและคีย์เวิร์ดโฟกัสให้กับทุกโพสต์และหน้าบล็อก เท่านั้น นอกจากนี้ยังแสดงตัวอย่างสิ่งที่ผู้ใช้จะเห็นเมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อความหรือ keywords บน Google การแสดงผลบนเว็บไซต์ของเรา


คำแนะนำ
ให้เราปรับ title และคำอธิบายของเราให้เหมาะสมเพื่อให้ได้รับการคลิกสูงสุดในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา


เมื่อเขียนบล็อกโพสต์ของเรา เพียงเลื่อนลงไปที่ส่วน SEO และใช้ประโยชน์จากมันให้เต็มที่ (ตัวอย่างภาพ ด้านล่าง เครื่องมือ yoast Seo)

หากเรากำสงสัยว่าจะเลือกโฟกัส keywords ชื่ออะไรดี หรือคำอธิบายเมตาที่ดีคืออะไร? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้

ผมแนะนำให้คุณลองอ่านจากบทความนี้ก่อนครับ เพื่อจะได้เข้าใจการหา keywords สำหรับการทำ seo ได้อย่างง่ายขึ้น >>>วิธีใช้ Ubersuggest โปรแกรมหา keyword (ฟรี)

ดังนั้นผมเลยขอแนะนำให้คุณอ่านและทำความเข้าใจก่อน เพราะการทำ SEO นั้นความสำคัญของความสำเร็จคือการเลือกใช้ keywords ของเรานั้นเองครับ

8.เลือกใช้ keywords ที่เหมาะสมสำหรับการทำ seo


การเลือกใช้ keywords นั้น มือใหม่หลายคน มักใช้การเดา เพื่อค้นหาว่าผู้คนกำลังมองหาหัวข้ออะไรและควรเพิ่มอะไรในบล็อกและเว็บไซต์
มันเหมือนกับการยิงธนูในความมืด ดังนั้น เราไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้นเพราะเมื่อเราสามารถใช้ข้อมูลจริงเพื่อค้นหาสิ่งที่ผู้คนกำลังมองหา
การเลือก keywords เป็นเทคนิคที่ใช้โดยผู้สร้างเนื้อหาและผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่จะช่วยให้เราค้นพบคำที่ผู้ใช้ป้อนลงในเครื่องมือค้นหาเพื่อค้นหา เนื้อหา ผลิตภัณฑ์ และบริการในธุรกิจของเรา


จากนั้นเราสามารถใช้คำและkeywords เหล่านั้นบนเว็บไซต์ของเราเพื่อเพิ่มปริมาณการค้นหา


มีเครื่องมือค้นหา keywords มากมาย (ทั้งแบบฟรีและมีค่าใช้จ่าย) ที่เราสามารถใช้ได้ เราขอแนะนำให้ใช้ ubersuggest ซึ่งจะช่วยให้เราค้นพบ keywords ที่มาหาค้นหาจากผู้ใช้งาน และใช้งานได้ฟรี สามารถดูวิธีใช้งานเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>https://fasttacks.com/ubersuggest-how-to/

9.ความเร็วและความปลอดภัยสำหรับการทำ SEO wordpress

การวิจัยแสดงให้เห็นว่าในยุคอินเทอร์เน็ต ความสนใจของมนุษย์โดยเฉลี่ยสั้นกว่าปลาทองและผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้งานเว็บเชื่อว่าผู้ใช้ตัดสินใจว่าต้องการอยู่ หรือออกภายในไม่กี่วินาทีหลังจากเยี่ยมชมเว็บไซต์


ดังนั้น นั่นหมายความว่า ในฐานะเจ้าของเว็บไซต์ เรามีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการนำเสนอเนื้อหาของเราและดึงดูดผู้ใช้ เราคงไม่อยากเสียเวลาอันมีค่านี้ในการทำให้ผู้เยี่ยมชมรอโหลดเว็บไซต์ของเราเนื่องจากประสบการณ์ของผู้ใช้มีความสำคัญมาก

เพราะเครื่องมือค้นหาอย่าง Google นั้นจัดลำดับความสำคัญของเว็บไซต์ที่เร็วกว่าในผลลัพธ์ กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เว็บไซต์ที่มีการโหลดเร็วกว่านั้นย่อม มีอันดับสูงกว่าใน Google


ในการปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์ของเรา เราต้องมี ผู้ให้บริการ โฮสติ้ง WordPress ที่ รวดเร็วเช่น SiteGround หรือ Hostatom ราคาไม่แพงและบริการดีเยี่ยม


และหลังจากนั้น เราต้องติดตั้งปลั๊กอินแคชและทำตาม คำแนะนำของเราเพื่อเพิ่มความเร็ว WordPress (พร้อม 24 เคล็ดลับที่เราพิสูจน์มาแล้ว)

10.การเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพใน WordPress สำหรับ SEO


รูปภาพมีความเกี่ยวข้องมากกว่าข้อความ และยังใช้เวลาในการโหลดมากกว่า หากเราไม่ระมัดระวังเรื่องขนาดและคุณภาพของภาพ อาจทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นโหลดช้าได้เลยนะครับ


เราต้องแน่ใจว่า เราใช้รูปภาพที่ได้รับการปรับให้โหลดเร็วขึ้น

ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับวิธีเพิ่มความเร็ว WordPress โดย การปรับรูปภาพให้ เหมาะสมสำหรับการทำ seo

เคล็ดลับ
เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพรูปภาพของเรา สำหรับเครื่องมือค้นหา คือการตั้งชื่อรูปภาพที่สื่อความหมาย และ tag alt ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่ารูปภาพของเรานั้นเกี่ยวกับอะไร


WordPress ช่วยให้เราเพิ่มแท็กชื่อและ Alt ได้อย่างง่ายดายเมื่อเราอัพโหลดรูปภาพ

11.ความปลอดภัยของเว็บไซต์

ทุกสัปดาห์ Google จะขึ้นบัญชีดำกับ เว็บไซต์ประมาณ 20,000 เว็บไซต์ สำหรับมัลแวร์และประมาณ 50,000 เว็บไซต์สำหรับฟิชชิง เมื่อเว็บไซต์ถูกขึ้นบัญชีดำ เว็บไซต์นั้นจะไม่ปรากฏในผลการค้นหาใดๆ เลย

ซึ่งหมายความว่าความปลอดภัยของเว็บไซต์ WordPress ของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับการจัดอันดับ การรักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ WordPress ของเราให้ปลอดภัยนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ให้เราติดตั้งปลั๊กอิน Sucuri เพื่อปกป้องเว็บไซต์ของเราจากการถูกโจมตี เพียงแค่นี้ก้เรียบร้อยแล้วครับ

12.ติดตั้ง SSL/HTTPS

SSL (Secure Sockets Layer) คือ เทคโนโลยีที่เข้ารหัสการเชื่อมต่อระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่พวกเรากำลังเชื่อมต่ออยู่ สิ่งนี้จะเพิ่มชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมให้กับเว็บไซต์ WordPress ของเรา


เว็บไซต์ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วย SSL จะแสดงด้วยเครื่องหมายแม่กุญแจในแถบที่อยู่ของเบราว์เซอร์ สิ่งนี้ทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น และจำเป็นหากเราใช้งานระบบร้านค้าออนไลน์ด้วย WordPressและประมวลผลข้อมูลการชำระเงินที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้

บริษัท โฮสติ้ง WordPressชั้นนำทั้งหมดนั้นมีใบรับรอง SSL ฟรีด้วย สำหรับการติดตั้งโฮสติ้ง

รุป


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ การทำ seo wordpress พวกเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อนๆมือใหม่ได้เรียนรู้วิธีเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ WordPress ของเพื่อนสำหรับการทำ SEO อย่างเหมาะถูกต้องและ และนำไปปรับใช้กันนะครับ และผมรับรองว่าคุณจะเห็นหากเปลี่ยนแปลงของการเข้าชมที่เพิ่มขึ้นภายในเวลาไม่กี่เดือนแน่นอนครับ หากเราเรียนรู้และทำมันอย่างถูกวิธีครับ สำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาบริการ รับทำ seo wordpress ก็สามารถติดต่อทาง Fast Tacks ได้เลยนะครับ พวกเรายินดีให้บริการ

บทความที่ผมแนะนำอยากให้คุณอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO ในปี 2022

วิธีทำSEO ใน WordPress อัพเดทล่าสุด (Step-by-step) Read More »

สอนทำseo

เคล็ดลับ การทำSEO ง่ายๆ ใน 8 ขั้นตอน(สำหรับมือใหม่)

เคล็ดลับ การทำSeo หากเราไม่รู้หลักการที่ถูกต้องเราจะไม่มีทางที่จะทำให้เว็บไซต์หรือบทความของเรานั้น ถูกgoogle จัดอันดับได้เลย ดังนั้นเราจึงต้องมีหลักการและทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการทำให้เว็บไซต์ของเรานั้น ถูกจัดลำดับได้อย่างถูกต้อง วันนี้ทาง Fast tacks เลยจะมาแนะนำเคล็ดลับ ให้เพื่อนๆได้เอาไปใช้ประโยชน์กันนะครับ

SEO คืออะไร?

SEO คือ Search Engine Optimization เป็นกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และหน้าเว็บของเรา เพื่อรับการเข้าชมจากเครื่องมือค้นหาอย่าง Google การใช้เว็บไซต์ ค้นหาร้านจักรยานมือสอง ในพื้นที่ใกล้เคียง


ตัวอย่าง หากเรากำลังมองหาจักรยานมือสองคุณภาพดีและราคาไม่แพง และเรากำลังต้องการค้นหาจากการสำรวจข้อมูลอันกว้างใหญ่ของ Google เราก็จะพิมพ์ลงในแถบค้นหาว่า ‘จักรยานมือสองคุณภาพดี ราคาถูก’ ในช่องค้นหา หากร้านจักรยานในระแวกพื้นที่ หรือในพื้นที่ใกล้เคียงนั้น ให้

ความสำคัญกับการออกแบบเว็บไซต์และเนื้อหาที่สอดคล้องกับกฎ SEO เว็บไซต์นั้นก็จะปรากฏบนหน้าผลการค้นหาสูง หากเราอยากรู้ว่าทำอย่างไรให้ เว็บของเรานั้นมีโอกาสติดอันดับ สามารถอ่านได้ที่>>ทำ SEO ปี 2022 ที่จะช่วยให้เว็บคุณติดอันดับ

ทำไมการทำSEO จึงมีความสำคัญ?

ผู้คนบนโลกออนไลน์นั้นย่อมค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตลอดเวลา ดังนั้นมันจึงมีค่ามากสำหรับคนทำเว็บไซต์ที่จะต้องให้มีการเข้าชมสูงๆ สำหรับเว็บไซต์ใด ๆ ที่มีบทความมากมายจากคนที่ทำcontent ที่แตกต่างกัน และเนื้อหาที่ปรากฏในผลการค้นหาสูง แสดงว่าเนื้อหาของเว็บไซต์

นั้นจะถูกอ่านมากยิ่งขึ้น มีการแชร์มากขึ้น และในทางกลับกัน มีความหน้าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราด้วย . สิ่งเหล่านี้จะเป็นกุญแจที่นำลูกค้าของเราให้ติดต่อเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา หรือเว็บของนั้นมีบทความ ที่เค้ากำลังอยากรู้ และแก้ปัญหา ให้เค้าได้

และเว็บของเราจะกลายเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับ คนที่เข้ามาในเว็บของเรา

8 เคล็ดลับการทำSEO ในการเขียนบทความ

เคล็ดลับ การทำSEO นั้นไม่ได้จำกัดหรือเป็นแค่การสร้างคอนทนต์เท่านั้น แต่แนวทางการทำSeo ที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจการวางตำแหน่งของเว็บไซต์และเนื้อหาภายใน ให้อยู่ในอันดับที่มีลำดับสูงขึ้นในเครื่องมือการค้นหาต่างๆของGoogle ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด

1.ใส่ใจกับคำหลัก

สิ่งแรกคือเราต้องเตรียม คือ คำหลัก หรือ Keyword ที่นิยมและผู้คนกำลังค้นหาจำนวนมากๆ เราต้องเข้าใจผู้อ่านเป้าหมายและคำค้นหาก่อนว่าพวกเขากำลังค้นหาอะไร หากต้องการทราบสิ่งนี้ เราสามารถถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ได้เหมือนกันเช่น:

  • ความสนใจของเขาคืออะไร?
  • เราจะแก้ปัญหาของพวกเขาได้อย่างไร
  • คู่แข่งของคุณคือใคร? (เว็บไซต์ที่คล้ายกัน วิธีการทำcontent ที่คล้ายกัน ฯลฯ)

ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถหาไอเดีย ในโลกออนไลน์มากมายที่จะช่วยให้เราตรวจสอบKeywordเช่น: UberSuggest , WordStream , Google Trends และSEM Rush

2.อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดไว้ในบทความ

อย่าลืมใส่คำหลักหรือKeyword ที่สำคัญไว้ในชื่อหัวข้อหรือบน title tag ส่วนหัว H1 หรือ H2 เสิร์ชเอ็นจิ้นจะเรียนรู้หัวข้อของบทความและหน้าpageโดยค้นหาKeyword ที่เกิดขึ้นในบทความนั้น ดังนั้นจำนวนของkeyword ที่จะช่วยในเรื่อง SEO ซึ่งหมายความว่าเราควรใส่ข้อความสำคัญลงในเนื้อหาของเราอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ควรใส่Keyword ซ้ำๆกันจำนวนมากในบทความ

แนะนำอยู่ระหว่าง 0.5% – 3% ภายในบทความถือว่าเพียงพอแล้ว


เพราะสิ่งต่าง ๆในเนื้อหาที่เราทำนั้น ควรมีความสมดุล แนะนำเคล็ดลับง่ายๆ คือ ใส่keywordสำคัญไว้ในปริมาณที่เหมาะสมลงไปในบทความของเรา แต่หากใส่น้อยเกินไปก็ทำร้ายอันดับ มีมากเกินไปปรากฏเป็นสแปมและอาจถูกลงโทษโดยเครื่องมือค้นหาของ Google ฉะนั้นควรต้องรู้ด้วยว่าต้องใส่เท่าไหร่

3.ต้องเขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพสูง

เนื้อหาหรือสิ่งที่เรากำลังจะเขียน ให้ถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้ว่า: เราสามารถเสนออะไรให้คนที่กำลังค้นหาอยากรู้ได้บ้าง? เราสามารถให้บริการอะไรได้บ้าง? เราสามารถแบ่งปันความรู้อะไรได้บ้าง?

แนะนำประเภทของเนื้อหาที่สามารถแชร์ได้:

  • สิ่งที่แก้ปัญหาผู้อ่านได้
  • ค้นหาว่าอะไรกำลังเป็นที่นิยมและใหม่ในสายงานของเรา และเราสามารถเพิ่มข้อมูลเชิงลึกลงไปในบทความและสร้างความคิดเห็นเพิ่มเติมได้
  • ทำให้เนื้อหาของเรานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและสามารถแบ่งปันเนื้อหา ให้กับผู้ชมอื่นได้อย่างมีประโยชน์

4.ทำเนื้อหาให้มีความยาวพอกับการรองรับการทำSeo

เครื่องมือค้นหาของGoogle นั้นถือว่าต้องการเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง และต้องการบทความที่มีความยาวโดยทั่วไปแล้ว600 คำนี้ก็ถือว่าไม่เลว หากบทความของคุณนั้นถือว่ามีเนื้อหาที่มีประโยชน์กับผู้อ่าน แต่ถ้าเราสามารถทำให้บทความนั้นมีความยาวได้ถึง 1,000 คำ

หรือมากกว่านั้นได้ก็จะยิ่งดีมากๆ ด้วยเนื้อหาที่ยาวขึ้น เราจะให้คุณค่ากับผู้อ่านได้มากขึ้น และทำให้พวกผู้ที่เข้ามาอ่านนั้นอยู่บนเว็บไซต์ได้นานขึ้น

5.การตั้งชื่อรูปภาพและขนาดที่เหมาะสมที่สุด

เครื่องมือค้นหาของGoogle นั้นจำเป็นต้อง ‘อ่าน’ รูปภาพผ่านชื่อ ที่เราตั้ง และจัดอันดับตามนั้น ดังนั้นอย่าลืมใส่ข้อความสำคัญในการตั้งชื่อรูปภาพของเราด้วยนะครับ และยังสามารถช่วยเพิ่มอันดับของรูปภาพเมื่อผู้ใช้ค้นหารูปภาพโดยใช้คำสำคัญหรือkeywordที่เกี่ยวข้อง

ตัวอย่างง่ายๆครับ


• ผู้คนมักตั้งชื่อรูปภาพอย่างไร?: “รูปที่ 1”, “ดอกไม้ 1” เป็นต้น
• ชื่อรูปภาพของเรานั้นควรจะตั้งชื่ออย่างไร: “5เคล็ดลับสำหรับเครื่องมือค้นหา” หรือ “แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับ SEO-in-2020”


ขนาดภาพที่มีความเหมาะคือต่ำกว่า 70kb หากรูปภาพของคุณใหญ่กว่า ลองใช้การบีบอัดรูปภาพ ได้ที่ เช่นTinyPNG , TinyJPG , WeCompress เพื่อทำให้ไฟล์รูปภาพนั้นมีขนาดเล็กลง รูปภาพขนาดเล็กจะใช้เวลาโหลดน้อยลง และช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเข้าชมของผู้ใช้ได้อีกด้วย

6.มีbacklinkคุณภาพสูง

ปริมาณและคุณภาพของลิงก์ (ที่เราลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ) บนหน้าเว็บของเรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณอัลกอริทึมของGoogle ด้วย เพราะเสิร์ชเอ็นจิ้นชอบเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือมากกว่า เช่น sanook.com มากกว่าลิงก์จากบล็อกหรือเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก และบทความที่ข้อมูลที่เชื่อถือได้จะถือว่ามีคุณภาพดีกว่ามาก

7.ปรับแต่งเนื้อหาและคอนเทนต์ของเราอยู่ตลอด

พยายามเรียบรู้บทความที่มีคุณภาพจากเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงและพยายามนำมาปรับวิธีการเขียนที่น่าสนใจ ให้เป็นในรูปแบบของเรา หรืออาจจะลองใช้ย่อหน้าและประโยคที่สั้นและกระชับ อีกวิธีก็คือเราหาคนเก่งๆในการเขียนบทความเพื่อปรับเนื้อหาให้น่าสนใจและแก้ไขบทความของเราอยู่ตลอด

8.โปรโมทบทความของเรา

การทำคอนเทนต์และจบไปนั้น ไม่ควรเป็นจุดสิ้นสุด ของคนที่ต้องการทำให้บทความนั้นมีเนื้อหาที่ต้องการการมีส่วนร่วม ดังนั้นครับ อย่าลืมแชร์บทความของเรากับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานต่างๆ และทุกคนที่เราคิดว่าจะสนใจ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเรา เช่น Facebook,ig,หรือที่ต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ และพยายามทำให้บทความนั้นมีส่วนร่วมกับผู้ชมของเรา

สรุป

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด จำไว้เลยครับ เคล็ดลับ การทำseo ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนครับที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำบทความ น้อยกว่าในด้านการทำseoเลย แต่เราสามารถกลับมาดูเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ได้ตลอดเวลาครับ ในขณะที่เรากำลังเตรียมบทความแต่ละบทความของเรา เพียงเราอดทนและลงมือทำสนุกกับการเขียนออกไป! ครับ และวันหนึ่งผลลัพธ์ที่คุณทำจะแสดงผลออกมาให้เห็นครับ

สำหรับใคร ที่กำลังสนใจการทำ SEO เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณอยู่ล่ะก็ ทาง Fast tacks ยินดีให้คำปรึกษา และแนะนำให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ 

สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางครับผม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

เคล็ดลับ การทำSEO ง่ายๆ ใน 8 ขั้นตอน(สำหรับมือใหม่) Read More »

ทำseoมือใหม่

วิธีใช้ Ubersuggest โปรแกรมหา keyword (ฟรี)

Ubersuggest คืออะไร?

Ubersuggest คือ โปรแกรมหา Keyword ใช้สำหรับการทำ SEO หรือ คำค้นหาที่ต้องการทราบจำนวนปริมาณการค้นหา ที่ให้บริการโดย Neil Patel มีทั้งตัวที่สามารถใช้งานได้ฟรี และเสียเงิน มีฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ มากมาย อาทิ เช่น Traffic Analyzer, SEO Analyzer เป็นต้น เพื่อช่วยปรับปรุงให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของโปรแกรม Ubersuggest

  • สามารถใช้งานได้ ฟรี และเสิร์ช Keyword ได้ ไม่จำกัด
  • สมัคร Account ง่ายสามารถเชื่อมต่อกับบัญชี e-mail google ได้เลยครับ
  • เหมาะกับมือใหม่ ใช้งานง่าย
  • รองรับการค้นหา Keyword ภาษาไทย
  • สามารถดู Backlink ได้แบบหน้าต่อหน้า และดู Traffic ทั้งหมดของเว็บเราและเว็บคู่แข่งได้
  • วิเคราะห์คุณภาพ Seo บนเว็บไซต์ของเราได้ พร้อมบอกปัญหาที่เราต้องปรับปรุง

ข้อเสียของโปรแกรม Ubersuggest

  • การค้นหา Keyword ภาษาไทยบางคำ เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ ยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าที่ควร
  • ไม่สามารถดูประวัติการค้นหา Keyword ย้อนหลังได้ และไม่สามารถทำ Keyword lists ที่เราต้องการได้อีกด้วย
  • การเราทำseo แล้วต้องการข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมในเชิงลึก Ubersuggest อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกข้อมูลเท่าที่ควร

สามารถเข้าใช้งานโปรแกรม Ubersuggest ได้ที่นี่ > ทดลองใช้งานฟรี

รูปที่มา: Ubersuggest

โปรแกรม Ubersuggest ราคา

โปรแกรม Ubersuggest นั้นจะมีการเสียค่าบริการอยู่ 2 แบบ คือ

1 เสียเงินแบบรายเดือน เริ่มต้นที่ $12USD/month (คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 420บาท/เดือน)
2 เสียครั้งเดียวตลอดชีพ ราคาเป็นเงินไทย ประมาณ 4,600 บาท

รูปที่มา: Ubersuggest (ราคาแบบรายเดือน)

รูปที่มา: Ubersuggest (ราคาแบบตลอดชีพ)

ดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติมที่นี้ >> รายละเอียดราคา

โปรแกรม Ubersuggest มีฟีเจอร์หลักๆ อยู่ด้วยกัน 3 ฟีเจอร์ ได้แก่

  1. Ubersuggest ฟีเจอร์ค้นหา Keyword
  2. Traffic Analyzer หรือเครื่องมือวิเคราะห์ Traffic
  3. SEO Analyzer หรือเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพการทำ SEO

1.วิธีใช้ฟีเจอร์ Ubersuggest เพื่อค้นหา Keyword

ข้อมูลที่ Ubersuggest นำมาแสดง นั้น จะแบ่งเป็น 5 ส่วนด้วยกัน ตามฟังก์ชันการใช้งาน ตามข้อมูลที่แสดงเลย แต่วันนี้เราจะมาแนะนำแค่3ตัวหลักๆ ที่ต้องใช้งาน ได้แก่ Keyword Overview, Keyword Ideas, Keyword By Traffic ,Similar Websites และ Content Ideas

ซึ่งคำทั้งหมดที่แสดงได้ก็มีดังนี้ ฟีเจอร์เด่นๆ แรกตัวนี้ คือ Keyword research tool ไว้ใช้สำหรับให้เราค้นหา Keyword เพื่อตรวจสอบดูว่าคำหลักที่
เราต้องการค้นหามีผู้คนค้นหามากน้อย ต่อเดือนแค่ไหน รวมทั้งดูค่ำ KD: Keyword difficulty ว่าการแข่งขันของคำนั้นๆ
สูงหรือไม่

เมนู Keyword Overview

วิธีค้นหา Keyword

  1. ใส่ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูล
  2. เลือกประเทศ (ภูมิภาค) ที่ต้องการทราบข้อมูลการค้นหาของ Keyword และ กด “Search”

รูปที่มา: Ubersuggest

ค่าที่แสดงทั้งหมดบนโปรแกรม มีดังนี้

  • Search Volume คือ จำนวนปริมาณครั้ง ที่คนค้นหา Keyword นี้ต่อเดือน ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้ คือ สมารถแสดงค่าจำนวนปริมาณ คนค้นหา Keyword นี้น้อย (Low) หรือมาก (High) เท่าไหร่ ต่อเดือน

  • SEO Difficulty (SD) คือ ค่าที่แสดงอัตราการแข่งขันของ Keyword นี้แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งแข่งขันยาก ซึ่ง Ubersuggest ก็สามารถบอกข้อมูลส่วนนี้ให้เราทราบได้

  • Paid Difficulty คือ อัตราการแข่งขันของคำค้นหา Keyword แบบที่ใช้ Search Ad หรือใช้ในการซื้อโฆษณา ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ก็ให้เราได้เห็นข้อมูลส่วนนี้ ให้อีกด้วยว่าง่ายหรือไม่ง่ายในการเลือกใช้ Keyword นี้

  • Cost per click (CPC) คือ ราคา Search Ad โฆษณาที่ต้องจ่ายต่อคลิก ซึ่งโปรแกรม Ubersuggest นี้ก็สามารถ แปลงค่าเงินดอลล่าร์เป็นเงินบาทให้เราทราบได้อีกด้วย เป็นประโยชน์มากๆสำหรับใครที่อยากซื้อ โฆษณา Search Ad

เมนู Keyword Ideas

หน้าฟีเจอร์ที่แสดง Keyword ที่ใกล้เคียงกับ Keyword ที่เราค้นหา เผื่อว่าจะเป็นไอเดียให้เราสามารถเลือกใช้คำอื่นๆ(หรือ Keywordอื่นๆ) หากคำที่เราตั้งใจจะเลือกมาทำSeo มีค่า SD สูงเกินไป หรือ Keyword คำอื่นจะเหมาะกับการทำ Seo ของเรามากกว่า

นอกจำกนี้ ในตารางด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง SERP (Search Engine Result Page) หรือตำแหน่งที่คำ คำนั้น ไปปรากฏบนหน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็เหมือน Keyword research tool ทั่วไปที่จัดลำดับ เอาไว้ พร้อมแสดงข้อมูลอื่นๆ ประกอบ ได้แก่ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ จำนวน Backlink ค่า Domain Score (ความแข็งแกร่งของเว็บไซต์) และยอดแชร์บนโซเชียลมีเดีย

เมนู Content Ideas

ระบบประมวลหน้าเพจต่างๆ ที่ใช้ Keyword ที่เรานำมาค้นหา เพื่อให้เราลองดูเป็นไอเดียในการคิด Topic คอนเทนต์ ถือว่าฟังก์ชั่น ตัวนี้ดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีไอเดียหรือแนวทาง แถมยังดูได้อีกด้วยว่ามีการแชร์ออกไป Facebook หรือ Pinterest จำนวนเท่าไหร่

ช่วยให้เราพอเดาได้ว่าผู้คนชอบหัวข้อแนวไหน นอกจากนี้ เรายังสามารถ คลิกดูได้ว่า บนหน้าเพจนั้นๆ มี Keyword อะไรบ้างที่ดึงคนให้เข้ามายังหน้าเพจนั้นด้วยด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์สุดๆ ตรงนี้อยากให้ลองไปใช้กันครับ

2.วิธีใช้ Traffic Analyzer เพื่อดูจำนวน Traffic ของเว็บไซต์

มาดูที่ฟีเจอร์ Traffic Analyzer คือ เครื่องมือที่เราเอาไว้ใช้ดูว่าเว็บไซต์มียอดคนเข้าถึงเท่าไหร่ (ซึ่งยอดนี้ส่งผลต่อ ค่า Authority ของเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์เรามีพลังในการทำ SEO แข็งแกร่งขึ้น)

วิธีใช้ Traffic Analyzer

  1. ใส่ชื่อ Domain ของเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ Traffic
  2. เลือกประเทศที่ต้องการให้แสดง Traffic ของเว็บไซต์นั้นๆ
  3. กด “Search” และมาอ่านค่ากันเลย

การอ่านค่า Traffic บนเว็บไซต์

Traffic Analyzer จะแสดงค่าหลักๆ ที่เป็นข้อมูลจำเป็นในการวิเคราะห์และทำ SEO ได้แก่

  • Organic Keyword คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank อันดับ บนหน้าค้นหา แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) และ สังเกตตรงข้อความเขียวๆด้านล่าง ตรงนี้ทาง Ubersuggest นั้นเขาก็วิเคาระห์ มาว่า Amazing คืออยู่ในระดับดี

  • Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic คือ ผู้คนเข้ามาเองผ่าน Keyword ที่เว็บไซต์เราใช้ในการทำ Seo นั้นเอง
  • Domain Score คือ ค่าความแข็งแกร่งของเว็บไซต์ซึ่งวัดจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ Authority หรือ ความน่าเชื่อถือ ของเว็บไซต์ในสายตาของ Search Engine สูง คะแนนส่วนนี้เต็ม 100 คะแนน ยิ่ง คะแนนเยอะ ก็แสดงถึงเว็บแข็งแกร่งมาก

  • Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ยิ่งมีจำนวน Backlink มากเท่าไหร่ Authority ของเว็บไซต์ก็ยิ่งสูง มีกำลังแข่งขันทำอันดับได้ง่ายขึ้น เป็นเทคนิคการทำ Off-page SEO ที่ได้ผลดีมากๆ

หากคุณมีความสนใจเรื่องการทำSeo อย่างไรให้ติดอันดับบน google
ผมแนะนำ: ให้คุณอ่านบทความอื่นๆ ในการทำSeo เพิ่มเติมได้เลยครับ

แนวโน้มของ Traffic จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic ใน 1 ปี

SEO Keyword Ranking แสดงจำนวน Keyword ที่ติด Rank หน้าค้นหา โดยสีเขียว คือ ติดหน้าที่ 1 – 3 สีเหลืองติดหน้า 4 – 10

สีส้มติดหน้า 11 – 50 และสีแดงติดหน้า 51 – 100 ซึ่งเราควรโฟกัสที่สีเขียว เป็นหลักครับ

Top SEO Pages คือ อันดับหน้าเพจที่ดึงผู้เข้าชม Visit มากที่สุด คือ เว็บเพจที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนา หรือเอาไปวิเคราะห์เว็บของคู่แข่งเพื่อแย่ง Traffic ได้ครับ

SEO Keywords คือ เอาไว้สืบ Keyword ที่ดึง Traffic เข้าเว็บไซต์มากที่สุด โดยบอกเราด้วยว่า Keyword ตัว นี้ของเว็บไซต์ปรากฏอยู่หน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา (Position) ข้อมูลส่วนนี้เราสามารถสืบ Keyword เจ๋งๆ ของเว็บคู่แข่งมาแย่ง Traffic เขาได้เช่นกัน

3.วิธีใช้ SEO Analyzer เครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพ SEO

ฟีเจอร์ตัวนี้เป็นฟีเจอร์ที่ชวนตื่นตำตื่นใจมาก เพราะ SEO Analyzer จะวิเคราะห์เว็บไซต์ในด้าน SEO ให้ ค่อนข้างละเอียด ชี้ปัญหาแบบเพจต่อเพจ และไม่เพียงเท่านั้น Ubersuggest ยังมีคำแนะนำ สำหรับปรับปรุงSEO ให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

วิธีใช้ SEO Analyzer วิเคราะห์เว็บไซต์

  1. ใส่เว็บโดเมนที่ต้องกำรวิเคราะห์คุณภาพ SEO
  2. ใส่ประเทศที่ต้องกำรดูคุณภาพ SEO ของเว็บโดเมนนั้นๆ
  3. กด “Search”

การอ่านค่า SEO บนเว็บไซต์

คุณคงจะเห็นแล้วว่า หน้าตา Data Analysis ของ Ubersuggest นั้นดูง่ายๆ มากๆ เลย มีทั้งบอกคุณภาพว่าดี หรือไม่ดี บอกภพพรวมดูสุขภาพ SEO ของเว็บไซต์ บอกเลยว่ามีหน้าเพจกี่หน้า ที่ควรแก้ไข ซึ่งทางกล่องด้านขวาม เขาก็สรุปมาเลยว่ามีกี่หน้ำที่ต้องเร่งแก้ไข (Critical Errors)

ควรปรับปรุง (Warnings) และที่แนะนำให้พัฒนาเพิ่มเติม (Recommendation) โดยเราสามารถคลิก “View All” ไปดูปัญหาพร้อมคำแนะนำแบบหน้าเพจต่อหน้าเพจได้เลยส่วนค่าอื่นๆ ก็ไม่ยาก

  • On-Page SEO Score คือ คะแนนที่ประเมินจากการทำ On-Page SEO ซึ่งเป็นเรื่องการปรับแต่ง Optimize บนหน้าเพจเว็บไซต์

  • Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic

  • Organic Keywords คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic เหมือนกับใน หน้า Traffic Analyzer

  • Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้มีฟีเจอร์ ที่ลงลึกไปกว่านั้นอีก

ไม่เพียงเท่ำนั้น โปรแกรม Ubersuggest ยังสามารถวิเคราะห์ Site speed หรือความเร็วเว็บไซต์แบบแยกออกมาได้อย่างละเอีดยเลยว่า
บนหน้ำ Desktop ใช้เวลาโหลดเท่าไร แล้วแบบ Mobile ละต้องรอนานแค่ไหน ซึ่งสะดวกมากๆ ครบสุดๆ


สำหรับกำรวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการทำ SEO เพราะเรื่องความเร็วเว็บไซต์ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนอยู่บนหน้าเพจของเราได้นานมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อ Authority เว็บไซต์ อันดับของการทำ SEO

สรุป

Ubersuggest เป็นเครื่องมือทำ SEO ที่มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย รวมๆแล้วฟังก์ชันการใช้งานค่อนข้างครบ เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ต้อง เสียเงินซื้อแพลนที่ Advanced มากขึ้น และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำ SEO แต่จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลในการทำ seo เชิงลึกแบบเรียกได้ว่า ขั้นการอัพเดทข้อมูลแบบใหม่ๆ อาจจะยังทำได้ไม่ดีและละเอียดเท่ากับโปรแกรมที่ต้องเสียเงินซื้อแพลนเพิ่ม

ดังนั้น จึงเหมาะกับคนที่เป็นผู้เริ่มต้นมากกว่าครับ แต่โดยรวมคิดว่าตัวฟรี ก็สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมแล้ว อยากให้ลองไปทดลองเล่นและใช้งานกันก่อนมากกว่าครับ หากเราเริ่มชอบก็ค่อยแพลนหรือเพิ่มฟังก์ชั่นเป็นตัวเสียเงิน ก็ได้ครับ จะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับท่านใดสนใจกำลังมองหา ตัวช่วยการทำ SEO อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สามารถ ติดต่อสอบถามพวกเราได้เลยนะครับ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

Fast Tacks บริการรับทำ Seo wordpress

วิธีใช้ Ubersuggest โปรแกรมหา keyword (ฟรี) Read More »

Ubersuggest

วิธีทำSEO Youtube 2023 ติดหน้า1ด้วยวีดีโอ(อัพเดทล่าสุด)

วิธีทำSeo Youtube สามารถเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างการส่วนร่วมกับผู้ชม ได้มากที่สุดในปัจจุบัน และสามารถนำเสนอข้อมูล ได้อย่างกระชับและเข้าใจได้ง่าย แต่รู้ไหมครับ วิดีโอนั้น สามารถใช้ การทำSEO Youtube ได้

และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับการค้นหา แถมเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของเราได้อย่างมากขึ้น ด้วยวิธีการทำSeo ด้วยวีดีโอ

ผมแนะนำให้คุณลองอ่านบล็อกของพวกเรา ก่อนนะครับ เพื่อจะได้เข้าใจภาพรวมได้มากขึ้น

วิธีการทำ Seo ในปี2022 ที่จะช่วยให้เว็บของคุณติดอันดับ

วีดีโอนั้นช่วยเรื่องการทำ SEO หรือไม่?

การนำวิดีโอจาก youtube มาไว้บนหน้าเว็บไซต์ นั้นจริงๆแล้ว ไม่ใช่ปัจจัยในการจัดอันดับของการทำSeo เลยครับ แต่การที่เรานำ Video จาก Youtube มาใช้นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน้าเว็บไซต์และปรับปรุงเนื้อหาของSEO โดยรวมของเราได้ครับ

วิธีทำSeo Youtube (ตามคำแนะนำ)

มาเริ่มดูวิธีการทำ Seo Youtube กันได้เลยครับ

1.ใช้ seo youtube Video เพื่อช่วยสนับสนุนเนื้อหาในเว็บไซต์

เราสามารถใช้วิดีโอเพื่อช่วยสนับสนุนเนื้อหาของหน้าที่มีอยู่ได้ครับ โดย Google นั้น ไม่ได้กล่าวว่าเนื้อหาที่เป็นรูปแบบ วิดีโอเป็นปัจจัยในการจัดอันดับ แต่ก็ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้การรวมรวมวิดีโอในเนื้อหาของเรานั้นมีประโยชน์สำหรับการทำ SEO

รูปที่มา: developers google

2.ช่วยปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์มากขึ้นด้วย Seo youtube video

วิดีโอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์เรา ซึ่งเราอาจจะใช้เป็นประโยชน์สำหรับการเข้าถึง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนครับ ที่เพราะในบางเนื้อหาการใช้ข้อความก็อาจจะตอบโจทย์ผู้ชมมากกว่า ดังนั้นการจัดเนื้อหา ด้วยวิธีอื่นๆ ในการนำเสนอข้อมูล เช่น ข้อความเป็นเสียงหรือวิดีโอ จะช่วยให้ผู้คนจำนวนมากนั้นมีส่วนร่วมกับเนื้อหามากขึ้น

และนอกจากนี้ เรายังสามารถช่วยให้ผู้คนเรียนรู้ และจดจำข้อมูล ของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ถึงแม้การเข้าถึง นั้นก็ยังไม่ใช่ปัจจัยในการจัดอันดับโดยตรง

แต่เราเห็นการเข้าถึงที่ปรากฏ เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ ตัวอย่างเช่น Google ได้เพิ่ม Web Vitals หลักเป็นตัวชี้วัดการจัดอันดับเมื่อปีที่แล้ว Google นั้นต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ และต้องการให้แน่ใจว่าผลลัพธ์ที่เรานำเสนอต่อผู้ค้นหา นั้นสามารถเข้าถึงได้โดยทุกคน

ดังนั้น การสร้างเว็บไซต์และเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง จะช่วยให้การเข้าถึงได้มากที่สุด และจะทำให้เว็บไซต์ของเรานั้นถูกจัดอันดับให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดด้วยครับ ไม่เพียงเท่านั้นครับ เรายังช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาของเราได้ง่าย และเพิ่มศักยภาพสูงสุด ให้แก่เว็บไซต์ของเราอีกทาง

คำเตือน:
อย่าพึ่งพาเนื้อหารูปแบบ วิดีโอเพียงอย่างเดียวนะครับ เพราะจะส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆในเรื่องของความเว็บในการโหลดเว็บ เพราะหากวีดีโอของคุณนั้นมีขนาดไฟล์ที่ใหญ่มากเกินไป

รูปที่มา: developers google

3.หน้าที่มีเนื้อหา video youtube มักจะอยู่ในอันดับที่ดีกว่า จริงหรือไม่?

ถึงแม้ว่า Google ไม่ได้บอกถึง วิดีโอเป็นปัจจัยในการจัดอันดับ แต่เราต้องการดูว่าผลลัพธ์อันดับต้นๆ มีเนื้อหาของ วิดีโอนั้นปรากฏ อยู่กี่อันดับครับดังนั้นครับ เราต้อง ทดสอบKeyword ที่ไม่เกี่ยวข้อง 20 คำจากหลากหลายธุรกิจและคำอื่นๆ เพื่อดูว่าหน้าผลการค้นหาทั่วไปที่มีวิดีโออยู่ในเนื้อหาของหน้าหรือไม่ครับ

รูปที่มา: Seoworks

Canva-pro-ตลอดชีพราคา-4

จากตัวอย่างภาพประกอบ เชิงสถิติ

20% ของผลลัพธ์การแสดงผลแบบทั่วไป อันดับหนึ่งนั้น มีวิดีโอปรากฏอยู่บนหน้า มากถึง 40% ของการค้นหา และผลลัพธ์อย่างน้อยหนึ่งในสามอันดับแรก มักมี หน้าที่มีเนื้อหาที่ประกอบด้วย Video Youtube

ในที่นี้ 43% ของผลลัพธ์อันดับหนึ่งมีเนื้อหาวิดีโอในหน้าเว็บ และใน 86%ของการค้นหา ผลการค้นหาทั่วไปอย่างน้อย 1 ใน 3 อันดับแรกจะรวมวิดีโอไว้ในหน้าของเนื้อหาด้วย

คำแนะนำจากเรา: ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าหากเรากำลังผลิตเนื้อหาที่ให้ข้อมูล การใส่วิดีโอเข้าไปด้วยอาจเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง สำหรับเครื่องมือการค้นหาของทาง Google และตอบโจทย์ผู้ค้นหาด้วยครับ

4.ให้ Video Youtube แสดงใน Google ด้วยมาร์กอัปสคีมา

รูปที่มา: developers google

เมื่อเราสร้างเนื้อหาและนำ วิดีโอไปใส่ในหน้าเว็บไซต์ของเรา เราสามารถเพิ่มในมาร์กอัปสคีมาของวิดีโอหรือข้อมูลที่มีโครงสร้างได้

สิ่งนี้จะช่วยให้Google เข้าใจโครงสร้างเนื้อหาที่มีข้อมูลมากขึ้น และมีประโยชน์เมื่อใช้วิดีโอในการทำ SEO เมื่อเรา ทำถูกต้องแล้ว จะส่งผลให้เกิดภาพขนาดขนาดเล็ก ของวิดีโอในผลการค้นหาทั่วไปของเรา สิ่งนี้ช่วย กระตุ้นการคลิกของผู้ค้นหา ให้เข้ายังเว็บไซต์ของเรา

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : วีดีโอ มาร์กอัปสคีมา

5.ใช้ video youtube เพื่อกระตุ้นการเข้าชมที่สูงขึ้น

หากวิดีโอของเรามีเนื้อหาที่มีคุณภาพ จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม จากผู้ที่ค้นหาด้วย Keyword ที่ระบุในคำค้นหานั้น

6.การสร้าง backlink youtube video

ลิงก์ของ YouTube นั้น คือ ‘nofollow’ ซึ่งหมายความว่าจะไม่ส่งต่อการจัดอันดับใดๆทั้งสินในเชิง การทำSeo

ดังนั้น การทำ backlink youtube นั้นเป็นเพียงแค่การนำผู้ใช้ไปยังหน้าของเนื้อหาเท่านั้นครับ และเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บที่มากขึ้น เท่านั้น

หากคุณต้องการศึกษาการทำ Seo อย่างละเอียด ผมแนะนำให้คุณ อ่านบทความเหล่านี้ครับ


แล้วการทำ Seo ของคุณอาจจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ

7.ฝัง code html youtube videoในเว็บไซต์ของเรา

รูปที่มา: Youtube

เมื่อเราเลือกใช้ วิดีโอสำหรับการทำ SEO บางทีเราอาจรับ ผลเสีย มากกว่า ผลดี


เพราะความเร็วของการโหลดหน้าเว็บไซต์ของคุณนั้นจะ ช้ามาก และมีปัจจัยในการจัดอันดับโดยตรงแน่นอนครับ

แต่ถ้าหากคุณทำถูกวิธี คุณก็จะได้ ผลดี มากกว่า ผลเสีย

ลองมาดูวิธีที่ถูกต้องและได้ผลดีในการทำ Seo video Youtube อย่างถูกต้องกันนะครับ

วิดีโอนั้น ส่งผลต่อความเร็วในการโหลดหน้าเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นปัจจัยในการจัดอันดับ

วิธีที่ดีที่สุดคือ ในเรา การฝังเนื้อหาที่โฮสต์ บนเว็บไซต์ ภายนอก เช่น YouTube หรือ Vimeo ซึ่งจะช่วยลดการโหลดที่ช้าจากเว็บของเรา ไปยังโฮสต์

เพียงคลิก ‘แชร์’ บนวิดีโอ YouTube แล้วคลิก ‘ฝัง’ ให้เราทำ code html ที่ได้ มาแปะไว้ที่หน้าเนื้อหาในเว็บของเรา เพียงแค่นี้เองครับ

8.เนื้อหาที่เขียนต้องมีความเกี่ยวข้องกับ Video

ในวิดีโอควรมีเนื้อหาที่สนับสนุน Keyword ที่เราสร้างด้วยข้อความครับ หากหน้าเว็บไซต์ของเรานั้นมีเพียง วิดีโอ Google จะไม่เข้าใจว่าเนื้อหาในหน้าเว็บของเรานั้นคืออะไร?

และ Google ก็จะมองว่าเนื้อหาในหน้าเว็บของเรานั้นไม่มีคุณภาพ เนื่องจากมีเนื้อหาในหน้าเว็บไซต์น้อยเกินไป

หากเราต้องการใส่วิดีโอ ให้เราตรวจสอบว่า เนื้อหาในวิดีโอของเรานั้น มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เป็นข้อความ ที่อยู่บนเว็บไซต์ของเราครับ และ ถึงแม้ว่าวิดีโอจะเป็นตัวหลักที่เราต้องการนำเสนอ แต่เราควรใช้ข้อความบนหน้าเว็บไซต์ประกอบควบคู่กันไปด้วยครับ

ไม่ควรเลือกใช้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง

9.ปิดการเล่น video youtube อัตโนมัติ

หากเราใส่วิดีโอลงไปในเว็บไซต์ ให้ตรวจสอบ ให้แน่ใจว่าวิดีโอของเรานั้น ต้องไม่เล่นโดยอัตโนมัตินะครับ เพราะสิ่งนี้ ส่งผลเสียต่ออัตราการออกจากเว็บไซต์ของเราอย่างมากครับ และมีแนวโน้มสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของเรา

และพวกเขาอาจจะออกไปอย่างรวดเร็วเลยก็ว่าได้ครับ

สรุป

วิดีโอเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ดังนั้นครับ การทำSEO Youtube Video นั้นจึงมีความจำเป็นมากในปัจจุบัน และเมื่อเราทำถูกต้องแล้ว ผู้ที่ค้นหาก็สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้นและเพิ่มปริมาณการรับชมเว็บไซต์ของเราได้อย่างมากขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา คุณต้องลงมือทำและ ทำความเข้าใจ กับการค้นหาของผู้ใช้งาน มากที่สุด และพัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์ของเราให้มีประสิทธิภาพครับ

เราคุณว่าคุณ ต้องการอะไร?

หากคุณกำลังมองหาตัวช่วยในการผลักดันเว็บไซต์ของคุณให้ ติดอับดับบน Google เปลี่ยนการเข้าชม กลายเป็นยอดขาย

สามารถติดต่อสอบถาม เราได้ที่นี้เลยครับ> Fast Tacks บริการรับทำ Seo WordPress

วิธีทำSEO Youtube 2023 ติดหน้า1ด้วยวีดีโอ(อัพเดทล่าสุด) Read More »

การทำSEO Youtube Video

Title TagกับการทำSeo

title tag คืออะไร? สำหรับมือใหม่เริ่มต้นทำ Seo

รู้หรือไม่? Title tag คือ ส่วนประกอบสำคัญของการทำ SEO และเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดยเราสามารถปรับแต่งหัวข้อของคอนเทนต์ได้เอง ยิ่งใช้เว็บไซต์สำเร็จรูปเช่น WordPress จะทำให้แก้ไขและปรับปรุงได้อย่างง่ายมากๆ เพราะเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ดีจะทำให้คนทำเว็บสามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ดังนั้นเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่ดีบน Google อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเขียน หัวข้อในเว็บไซต์ของคุณด้วยนะครับ

วันนี้ทาง Fast Tacks ได้นำบทความเกี่ยวกับวิธีการเขียน หัวข้อ และเชื่อว่ามือใหม่หลายๆคนที่กำลังเริ่มต้นทำ Seo อาจจะยังมองข้ามและเรื่องของการตั้งชื่อ ยังไงให้น่าสนใจและมีผลต่อการติดบน Seo มากแค่ไหน วันนี้ลองมาอ่านบทความกันนะครับ

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับหัวข้อมากมายขนาดนั้น มาดูข้างล่างนี้กัน

เพราะอะไรครับ ที่เราต้องเน้นย้ำให้ความสำคัญในส่วนนี้เป็นอันดับแรก
เราเคยคิดไหมว่า? ครั้งแรกที่ลูกค้าของเรานั้น หรือกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาเจอเว็บไซต์ของเราครั้งแรกสำคัญแค่ไหน ถ้าหากคุณมองว่าสำคัญการใส่หัวข้อหรือการตั้งชื่อหัวข้อนั้น มันจะสามารถช่วยคุณได้ เพราะอะไรนะ เพราะหัวข้อ สามารถที่จะช่วยทำให้ลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายของเราทราบว่าธุรกิจและบริการคือใครและทำอะไรนั้นเองครับ

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับเชื่อว่าหลายๆคนอยากรู้แล้วว่า แล้ว หัวข้อ มันคืออะไรและมีความสำคัญมากแค่ไหน (ในบทวามนี้ผมจะเรียก Title-tag=หัวข้อนะครับ คือความหมายเดียวกัน)

Title Tag คืออะไร?

Title Tag คือ หนึ่งในปัจจัยสำคัญหลักๆ คือว่าสำคัญมากในการทำ Seo ตามได้ที่เกริ่นนำไปในด้านบน เพราะเรียกได้ว่า หากเราตั้งชื่อหัวข้อและดันไม่มี keyword ลงไปนั้น บอกได้เลยครับ ว่า การทำ seo ของคุณนั้นจะสำเร็จไปได้ยากๆมาก หรืออาจจะไม่มีทางติดอันดับเลยก็ว่าได้ เพราะข้อความที่อยู่ใน หัวข้อจะต้องแสดง ผลการค้นหาโดยทาง Google โดยจะแสดงในบรรทัดแรกของแต่ละอันดับ ส่วนเรื่องของความที่ทางGoogle แสดงนั้นจะเป็น ข้อความที่เป็นหัวข้อที่มีตัวอักษรใหญ่ที่สุดสีน้ำเงิน แต่googleจะไม่ได้เลือกแสดงในเว็บไซต์ ดังนั้นหัวข้อที่ใช้จึงจำเป็นต้องเป็นข้อความเชิญชวนให้ผู้ชมนั้นอยากจะคลิกเข้ามาชมในเว็บไซต์ของเรา หากมือใหม่อยากรู้วิธีทำ Seo อย่างละเอียดในปี 2022

สามารถเข้าไปอ่านบทความนี้ได้เลยครับ>>ทำ SEO ปี 2022 ที่จะช่วยให้เว็บคุณติดอันดับ

สิ่งที่มือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ หัวข้อ

-จำไว้ให้ขึ้นใจเลยนะครับว่า Google นั้นให้ความสำคัญมากที่สุดกับการ ตั้งชื่อหัวข้อ เน้นย้ำมากๆ
-ในหน้าการค้นหาของGoogle การแสดงผลการค้นหานั้นจะปรากฏแค่ หัวข้อ ฉะนั้นเราต้องทำให้หัวข้อของเราโดดเด่นที่สุด เท่าที่จะทำได้
-ข้อความของหัวข้อต้องน่าใจมากและมีความน่าดึงดูด ทำอย่างไรก็ได้ให้ผู้ชมนั้นอยากจะคลิกเข้ามา

สิ่งมือใหม่ควรปฎิบัติ

-มือใหม่ที่เริ่มต้นทำseo จำไว้เลยนะครับว่า ทุกหน้าในเว็บไซต์ของเราต้องมี หัวข้อ (แต่ห้ามมีหัวข้อมากกว่า2หัวข้อในหน้าเดียวกันนะครับ) หัวข้อนั้นมีได้แค่หัวหัวข้อเดียวเท่านั้น
-ข้อความในหัวข้อที่เราสร้างขึ้นมานั้น จำไว้ว่า ต้อมี keyword (ย้ำว่าต้องมี keyword ห้ามลืมเด็ดขาด)
-เขียนข้อความในหัวข้อให้น่าสนใจและมีความยาวประมาณ50-60ตัวอักษรขึ้นไป (หากยาวเกินไปไม่ได่ดีนะครับ) สามารถเช็คความยาวตัวอักษรได้จากโปรแกรม word ได้เลยครับ
-ข้อความในหัวข้อนั้น ห้ามซ้ำกับหน้าอื่นๆ ภายในเว็บไซต์เด็ดขาด

ต่อไปมาดู วิธีการใส่Title-tagกันนะครับ


ตัวอย่าง
นี้คือtitle tag ที่ใส่ในส่วนของหน้าภายในเว็บไซต์ซึ่งจะมีลักษณะดังตัวอย่างตามรูปภาพ ช่องว่างที่เอาไว้ใส่ชื่อหัวข้อ

ตัวอย่างTitleTag

ตัวอย่าง

การเขียนหัวข้อ ในการแสดงผล google


หากเราเขียนหัวข้อแบบนี้ เรามีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับการตั้งชื่อหัวข้อนี้

จากภาพตัวอย่างจะเห็นใช่ไหมครับว่าการเขียนหัวข้อ ลักษณะนี้คือไม่มีความน่าสนใจ แต่เน้นเขียนเอาให้มี keyword อย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งแบบนี้บอกเลยครับว่ามีผลไม่ดีแน่นอนเพราะเมื่อผู้ชมมาเห็นเค้าจะไม่รู้สึกเลยว่าเว็บไซต์ของเรานั้น มีอะไรดึงดูดที่จะพาเขาเข้าไป แล้วแบบนี้บอกเลยครับว่าคะแนนไม่ดีแน่นๆ Google ไม่เข้าใจ เพราะมันสั้นไป และขาดประเด็นการขยายความเพิ่มเติมครับ


วิธีการเขียนหัวข้อยังไง ให้ถูกใจ Google


-เขียน Keyword ลงไปในหัวข้อเพื่อให้เว็บของเรานั้นมีโอกาสในการถูกจัดอันดับจาก google มากที่สุด หากเขียนหัวข้อโดยไม่มี keyword จะไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่เว็บของเราจะถูกจัดอันดับ


-ใส่keywordหลักไว้ในช่วงแรกของหัวข้อเวลาที่เราจะใส่keywordลงไปในหัวข้อ นั้นเราต้องคิดว่านะครับว่า จะใส่ไว้ตรงไหน ผมแนะนำว่าถ้าเป็นไปได้พยายามวางไว้ต้นหัวข้อให้ได้มากที่สุด ทางGoogleให้ความสำคัญกับข้อความที่อยู่ต้นๆมากกว่า


-ห้ามใส่keyword ลงไปในหัวข้อมากเกินไป การเขียนหัวข้อนั้นย้ำอีกครั้งว่า ห้ามนำkeywordมาใส่ซ้ำกันหลายครั้ง เพราะจะทำให้ทางGoogleสับสน และทำให้อันดับของเราตกได้ เพราะตามเกณฑ์ของทางGoogle คือ 1 keywordควรมีเพียง1หน้าดีที่สุดครับ


-ไม่ควรใส่ข้อความในหัวข้อนั้นจนยาวเกินไป
ข้อความในหัวข้อไม่ควรมีความยาวมากเกินไป ให้ดีที่สุดคือ 50-60 ตัวอักษร หากใส่ข้อความในหัวข้อยาวเกินไปจะทำให้ keyword ที่วางไว้จะตกลงไปด้วย


-ต้องใส่หัวข้อทุกหน้าในเว็บไซต์ของเรา
หัวข้อจำเป็นต้องใส่ทุกหน้าของเว็บไซต์เพราะตามเกณฑ์การค้นหา ทางGoogleจะเลือกหน้าที่มีหัวข้อมาแสดงผลเป็นอันดับแรกก่อน ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรจะใส่หัวข้อให้ครบทุกหน้า


-ห้ามใส่หัวข้อซ้ำกับหน้าอื่นๆในเว็บไซต์ของเราเอง
มือใหม่จำไว้เลยครับว่า เราจะต้องใส่หัวข้อให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะหากคุณใส่หัวข้อซ้ำกันนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี และจะทำให้ไม่ทราบว่าในแต่ละหน้ามีหัวข้ออะไรบ้าง จะส่งผลให้ Google และผู้ค้นหาเกิดความสับสนได้นั้นควรใส่ข้อความในหัวข้อที่ไม่ซ้ำกันจะดีที่สุด


-พยายามใส่ข้อความในหัวข้อ ที่ผู้ค้นหานั้นอยากคลิกเข้ามายังเว็บของเรา
นอกจากการใส่หัวข้อและทำตามกฎของทางgoogleแล้ว ยังมีอีกข้อเราจำเป็นต้องนึกถึงผู้คนหาด้วย ว่าเค้าจะคลิกเข้ามาไหม เพราะหากถ้าข้อความในหัวข้อของคุณไม่น่าใจ ไม่ดึงดูด ผู้คนไม่คลิก จะส่งผลให้คนเข้าเว็บน้อย และมีผลต่อคะแนนเว็บของเราด้วย ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญในเรื่องความน่าสนใจเพิ่มไปอีกข้อ

ดังนั้นหัวข้อ เป็นส่วนหนึ่งของ Meta Tags ที่ข้อความใน HTML Code ที่ระบุข้อมูลถึงข้อความหัวข้อของเว็บเราและอธิบายหน้าเว็บของคุณให้กับ Search Engine โดยข้อมูลนี้จะไม่ได้ถูกแสดงอยู่บนหน้าเว็บไซต์แต่จะถูกนำไปประมวลผลโดยเครื่องมือค้นหา เพื่อหาวิธีการแสดงข้อมูลในหน้าผลการค้นหาได้ดียิ่งขึ้น

สรุปเพราะอะไร? หัวข้อ จึงมีความสำคัญสำหรับ SEO

title Tag นั้นมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นสิ่งแรกที่ผู้ใช้จะได้เห็นธุรกิจและเว็บไซต์ของคุณ เมื่อพวกเขาทำการค้นหาโดยใช้ Search Engine อาทิเช่น Google หรือ Yahoo หรืออื่นๆ และด้วยการแข่งขันบนออนไลน์ทั้งหมดนั้น ทำให้การแสดงผลการค้นหาครั้งแรกเป็นสิ่งสำคัญสำคัญ การที่ตั้งชื่อหัวข้อที่ไม่ตรงกับธุรกิจ อาจทำให้ผู้เข้าชมไม่คลิกเข้าชมเว็บไซต์และพลาดโอกาสในการขายได้ และส่งผลเสียกับเว็บของเราอีกมากมาย ในอนาคต

เราจึงต้องใส่ใจกับการเขียนหัวข้อให้ดีและน่าสนใจนั้น จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้และอาจส่งผลดีต่ออัตราการคลิกของหน้าเว็บด้วย ฉะนั้นการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับในหน้าแรกเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหน การเขียน หัวข้อก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เช่นกัน

หวังว่าบทความของ Fast tacks จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นทำ seo กันนะครับ ลองนำไปปรับใช้และพัฒนาให้เกิดประโยชน์กับเว็บของเพื่อนๆให้ได้มากที่สุดนะครับ

สำหรับใคร ที่กำลังสนใจการทำ SEO เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณอยู่ล่ะก็ ทาง Fast tacks ยินดีให้คำปรึกษา และแนะนำให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางครับผม

Title TagกับการทำSeo Read More »

title tag คือ

Search Intent คืออะไร? อัพเดทเนื้อหา2022

Search Intent คืออะไร? ทำไมคนทำ seo ต้องรู้

 

  การทำ Search Intent ให้ตอบโจทย์ผู้คนหาสิ่งจำเป็นของคนทำคอนเทนต์ SEO ปัจจัยสำคัญของกระบวนการทำ SEO คือแนวทางการทำ Search Intentที่คนทำคอนเทนต์อย่างเราควรจะให้ความสำคัญ แล้ว search intent คืออะไร? 

วันนี้ทางFast tacks จะมาอธิบายถึงเรื่องนี้ให้ฟังกันนะครับแนวทางSearch Intent

สำหรับท่านใดเป็นมือใหม่กำลังศึกษาวิธีการทำ Seoอย่างถูกต้อง ผมแนะนำให้คุณลองอ่านบทความนี้ก่อนครับ>เทคนิคการทำ SEO ปี2022 ที่จะช่วยให้เว็บคุณติดอันดับ

 
 
 

Search Intentคืออะไร?

Search Intent พูดง่ายๆ ก็คือจุดประสงค์หรือความ ต้องการ ของ การค้นหาออนไลน์ หรือ Search Engine โดยอธิบายอย่างง่ายๆก็คือ การที่ผู้ใช้งานกำลังค้นหาคำนั้นๆบน google เพื่ออะไรนั่นเอง เช่น บางครั้งเรากำลังต้องการหาการข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ เช่น หาข้อมูลเพื่อการเรียนออนไลน์สมัครงาน หรือการหาคำตอบในเรื่องต่างๆที่เรากำลังสงสัย 

หรือการหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่อยากได้ ราคาสินค้า รวมไปถึงข้อมูลทุกสิ่งอยากที่เราอยากรู้ในเวลานั้น เพื่อเราจะได้เข้าใจแนวทางว่าควรจะใช้คำไหน (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาและเหมาะสมกับเว็บไซต์ของเรา จะได้หยิบคำนั้นมาใช้ได้ถูกที่ถูกทางนั่นเองครับ

 

Search Intentมีกี่รูปแบบ

คำตอบคือ 4รูปแบบ มีอะไรบ้าง

  • Informational การหาข้อมูลเพื่อหาคำตอบ
  • Navigational การหาทางหรือ ค้นหาช่องทางไปยังเว็บไซต์
  • Commercial การหาตัวเลือกเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
  • Transactional การค้นหาเพื่อซื้อ
 
 

Search-Intent

1. Informational การหาข้อมูลเพื่อหาคำตอบ


การค้นหาข้อมูลเพื่อหาคำตอบที่เราต้องการและอยากรู้ ประเภทของการค้นหา คีย์เวิร์ด ส่วนใหญ่ที่มักจะใช้กัน เป็นการค้นหาเชิงคำถาม เพื่อหาคำตอบให้กับคำถามที่ไว และ ตรงกับความต้องการในสิ่งที่เราอยากรู้ในเวลานั้น เช่น

-ราคา iphone13 pro max
-ราคาน้ำมันวันนี้

-สมัครคนละครึ่งเฟส4
seo คืออะไร

หรืออีกวิธี หากเราใช้ข้อมูลการค้นหาแบบธรรมดา ไม่ได้เจาะจงว่าคำค้นหานั้นต้องการอะไรก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่นคำว่า “ราเมง” ตัวอย่างจากgoogleแสดงผล การค้นหาคำว่า “ราเมง”มาดูกันว่าจะมีการแสดงรายการค้นหาอะไรออกมาบ้าง แล้วเจอสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการหรือไม่ หากเราไม่ได้เจาะจงคำเฉพาะเข้าไป

-ราเมงอร่อย
-ราเมงข้อสอบ
-ราเมงมีอะไรบ้าง
-ร้านราเมง

และนอกจากจะมีคอนเทนต์ที่ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ตัวบทความถ้าเป็น “รางเมงใกล้ฉัน” แล้วยังมี ตัวหมุดของร้านราเมงใกล้ๆบริเวณที่เราอยู่ดึงมาแสดงให้เราทราบถึงจุดที่ตั้งอีกด้วย
ตรงนี้เรียกว่า google my business เป็นการแสดงผล ร้านค้าธุรกิจที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ google นั้นเองครับ

 
 
 
Navigational
 
 

2. Navigational การหาทางหรือ ค้นหาช่องทางไปยังเว็บไซต์

ผู้ใช้งานต้องการที่จะหาทางที่จะเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆหรือหาทางไปยังสถานที่นั้น ซึ่งผู้ใช้ทราบอยู่แล้วว่าต้องการไปยังเว็บไซต์ใด เพียงแต่อาจจะต้องการพิมพ์แค่ชื่อของเว็บไซต์ 

หรือหน้าดังกล่าว ซึ่งค่อนข้างง่ายและเร็วกว่าการพิมพ์ URL ลงไปใน Address bar ตรงนี้ และอีกทั้งยังสามารถ นำชื่อแบรนด์ ใส่เพื่อค้นหาเว็บไซต์ปลายทางที่ต้องการได้เลย ปกติเราจะทำกันอยู่เป็นประจำ ตัวอย่างเช่น

 

-Lazada
-shopee
-facebook
-การไฟฟ้านครหลวง

การค้นหาแบบนี้จะเป็นผลดี กับเว็บไซต์ที่เป็นแบรนด์ มีชื่อเสียงอยู่แล้ว อย่างน้อยคือเราเพียงแค่รู้จักชื่อ แบรนด์ แต่ไม่รู้ว่าชื่อเว็บไซต์หรือ URL คืออะไร แต่ถ้าเป็นเว็บของเรา แต่ไม่ใช่แบรนด์ที่ต้องการ ผู้ใช้ก็จะไม่เข้าเว็บไซต์อยู่ เพราะไม่ตรงเป้าหมายกับการหาแบรนด์

 
 
 
 

3. Commercial การหาตัวเลือกเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ

 

การค้นหานี้มักจะเป็นการค้นหาเพื่อช่วยในการตัดสินใจในอนาคต หรือในเร็วๆนี้ การค้นหาเหล่านี้ จะเป็นการหาข้อมูล เช่น รีวิวร้านกาแฟ ขายของในlazadaหรือshopee ข้อมูลต่างๆที่มีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อหรือเลือกใช้บริการนั้นเองครับ ตัวอย่าง

-lazadaหรือshopee
-รีวิวร้านกาแฟในกรุงเทพ
-iphone12 Vs iphone13

ในการค้นหาเชิงรีวิว เว็บไซต์ส่วนมากจะทำเป็นเว็บ สำหรับการรีวิวโดยเฉพาะ อันนี้คือเป็นวิธีการทำคอนเทนต์ที่นิยมมากในปัจจุบัน

 
 
 

4.Transactional การค้นหาเพื่อซื้อ

การค้นหาเพื่อซื้อบริการการค้นหาแบบนี้ คือผู้ค้นหา ต้องรู้ตัวเองแล้วว่ากำลังต้องการอะไร เช่น การตัดสินใจที่จะซื้อสินค้ายี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งแล้ว แต่ต้องการราคาของสินค้า หรือหมายเลขติดต่อ ต้องบอกให้เข้าใจก่อนว่า ส่วนนี้ไม่ใช่การค้นหาเพือเปรียบเทียบ หรือ รีวิว แต่เป็นการค้นหา เพื่อที่จะไปซื้อที่ร้านที่ต้องการ นั่นเอง อันนี้ต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติมว่า มีความแตกต่างกับการค้นหาแบบรีวิวอย่างไร? ตัวอย่างเช่น

-ซื้อiphone13 pro max
-ซื้อดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์
-จองตั๋วเครื่องบินเชียงใหม่

การค้นหาแบบนี้ คือเหมือนกับการมองหาร้านราเมง รู้แล้วว่าจะกินแต่ไม่รู้จะกินร้านไหนดีใกล้ๆบ้าน ก็จะเป็นช่วงวัดใจแล้วว่า จะเลือกไปกินร้านไหนนั่นเอง

 
 
 

Search Intent ทำไมคนทำ seo ต้องรู้?

 

โดยส่วนใหญ่แล้วการทำ Search Intentนั้น มีความสำคัญมากๆในปัจจุบัน เพราะเป็นปัจจับหลักในการทำให้เราสามารถเลือกหัวข้อได้ตรงตามความสนใจ หรือสามารถตอบคำถามของกลุ่มเป้าหมาย


ซึ่งหากถ้าเราทำความเข้าใจกับข้อมูลตรงนี้แล้วเราจะ สร้างคอนเทนต์ของเราออกมาได้อย่างมีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังค้นหา เพื่อมาออกแบบคอนเทนต์ของเราและปรับปรุงเนื้อหาในส่วนต่างๆให้ตอบโจทย์ผู้ค้นหามากยิ่งขึ้น

 

 

Note:ส่วนใหญ่การเขียนบทความส่วนมากก็เลือกเขียนในสิ่งที่เราสนใจ หรือเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสินค้า / บริการ ของตนเอง แต่เราสงสัยไหมว่าบทความที่เขียนนั้น มีคนสนใจที่จะอ่านหรือไม่

 

และนี้และครับ คือสิ่งที่ ว่าทำไมคนทำ seo ต้องเข้าใจการทำ Search Intent และ แน่นอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงกับความตั้งใจของการเขียน บางทีเราอาจต้องมีการทำวิจัยเล็กๆ เพื่อหาข้อมูลก่อน ทุกครั้ง ก่อนที่เราจะออกแบบคอนเทนต์หรือสร้างคอนเทนต์ หรือ เราสามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่รอบๆตัวเราแทนได้ แนะนำเครื่องมือในการหาไอเดียทำ Content

 
 

แนะนำวิธีการหา Search Intentสำหรับมือใหม่

 

1. เปิด Google
2. พิมพ์คำที่เราคิดว่าต้องการจะเขียนบทความ เช่น หาคำว่า “วิธีทำข้าวมันไก่”
3. ลองไล่ดูว่าผลการค้นหาที่แสดงขึ้นมาหน้าแรก มี keywords อะไรบ้าง
4. เพียงเท่านี้เราจะพบกับไอเดีย คำค้นหาขึ้นมาที่มีความเกี่ยวข้องกับ วิธีทำข้าวมันไก่ หลังจากนั้นเราก็ นำไอเดียคำค้นหาเหล่านี้มา สร้างเป็นคอนเทนต์ ต่อไปได้ในอนาคต ครับ

 

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับการทำ Search Intent ที่ทาง Fast tacks ได้นำมาเสนอ สำหรับใครกำลังมองหาเทคนิคการทำ seo ทำอย่างไรให้ติดอันดับ ผมแนะนำให้ลองอ่านบทความก่อนหน้านี้ได้เลยครับ ทำ SEO ปี 2022 ที่จะช่วยให้เว็บคุณติดอันดับ

 
ท่านใดที่กำลังสนใจการทำ SEO เพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจของคุณอยู่ล่ะก็ ทาง Fast tacks ยินดีให้คำปรึกษา และแนะนำให้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

สามารถติดต่อได้ทุกช่องทางครับผม

Fast Tacks บริการรับทำการตลาดออนไลน์

Search Intent คืออะไร? อัพเดทเนื้อหา2022 Read More »

search intent

การทำ seo รูปภาพ 8ความลับที่คุณไม่รู้

seoรูปภาพ

การทำ seoรูปภาพ 8 ความลับที่คุณไม่รู้

 
 

วิธีการทำSeoรูปภาพ สำหรับการปรับแก้ภาพ หรือใส่แคปชั่นในรูปภาพอย่างไรให้เหมาะสมกับการทำSeo 

 

1.ขนาดของรูปภาพต้องชัดเจนและคุณภาพดี

 

บางคนอาจมีความคิดว่าแค่ถ่ายภาพจากโทรศัพท์มือถือมาก็เอามาใช้ในเว็บได้แล้ว แต่ว่าจริงๆแล้ว resolution ที่ต้องมีในขนาดรูปภาพบนเว็บ ควรจะอยู่ระหว่าง 1280 x 800 พิกเซล หากเป็นขนาดของแบนเนอร์ ควรจะอยู่ที่ 1920 x … หรือ 1600 x …. พิกเซล

 ภาพโลโก้ ภาพไอคอน แต่ว่านี่ก็เป็นตัวเลขคาดการณ์นะครับ จะต้องมองว่ารูปภาพที่ใช้จะอยู่ส่วนไหนของเว็บ จะเป็นแบนเนอร์ บทความ ลิสท์ผลิตภัณฑ์ หรือภาพโปรไฟล์ 

จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับงานที่จะใช้นะครับ ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดไฟล์ใหญ่ไปเว็บของคุณจะโหลดหนักรวมทั้งภาพมาช้ากว่าก็นำมาซึ่งการทำให้ลูกค้ารู้สึกหงุดหงิดแล้วก็ปิดไปได้

 

2.ขนาดภาพที่ SEO ชอบ

 

การโหลดได้เร็วเป็นจุดที่ google ให้ความเอาใจใส่ครับ เป็นเว็บมารูปภาพก็จำเป็นต้องมา ยิ่ง UX แล้วก็SEOเร็วเท่าไร ก็ยิ่งเป็นช่องทางที่ลูกค้าหรือผู้เข้าชมจะพึงพอใจแล้วก็ใช้บริการคุณมากขึ้นเรื่อยๆเพียงแค่นั้น

 ดังเช่นว่า ใช้รูปภาพขนาดใหญ่ (2500 x 1500) ในกรอบแสดงผลลัพธ์ขนาดเล็ก (250 x 150) เพียงนี้ก็เข้าใจแล้วว่า การแสดงผลจะคืออะไร โดยเหตุนั้น 

ควรจะปรับส่วนนี้ให้สมควรรวมทั้งภาพจำต้องชัดเจนด้วยนะครับ

 

3.ตั้งชื่อรูปภาพให้สอดคล้องกับเนื้อหา

 

บางเวลาพวกเราชอบคิดว่า ก็แค่รูปภาพจะเขียนเป็นคำว่าอะไรก็ได้ จะเป็นรหัสตัวเลขก็ได้ หรือจะเป็นชื่อผู้ถ่ายภาพก็ได้ ตามใจฉัน แต่ว่ารู้ไหมครับว่าคุณกำลังพลาดโอกาสที่คุณจะค้นหาเว็บหรือบริการของคุณพบ

 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ควรจะตั้งชื่อภาพให้สอดคล้องกับแคปชั่นที่ต้องการสื่อด้วยครับ

 

4.เตรียมภาพประกอบในใจระหว่างเขียนเนื้อหา

 

สุดแต่วิธีของแต่ละคนเลยครับ บางคนเขียนไปหารูปภาพไป บางคนเขียนเสร็จค่อยหารูป บางคนหารูปก่อนค่อยเขียน ก็อยู่ที่ขั้นตอนการเขียนงานในใจของผู้เขียนว่าจะใช้แบบไหน บางทีวาดภาพในหัวว่าจะเขียนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

 ก็คิดในหัวว่าจะอยากได้ภาพแบบไหน หรือบางคนก็ติดสปีดเขียนให้หลังจากที่เสร็จแล้วก็จึงค่อยมาจับใจความระหว่างเรื่องที่เขียนว่าจะใช้ภาพ ราวๆไหนดี

 

5.หารูปภาพจากแหล่งฟรีก็ได้

 

ากเราไม่สะดวกจะถ่ายภาพ หรือกังวลว่าความสามารถในการถ่ายภาพให้สวยและคุณภาพดีอาจจะไม่ใช่ทางของคุณ ไม่เป็นไรครับ ลองเลือกใช้ภาพจากเว็บไซต์ที่เปิดให้ใช้งานได้ จะมาจากเว็บไซต์แจกภาพฟรี หรือเสียเงิน

และมีทางเลือกหลากหลายกว่าก็ได้นะครับ
เว็บไซต์ที่มีทั้งให้ใช้งานฟรีและเสียเงิน จะมีเงื่อนไขคือใช้สำหรับประกอบเนื้อหาได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ในเชิงพานิชย์ หรือภาพที่เอ็กซ์คลูซีฟมากๆ ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ส่วนเว็บไซต์แจกภาพฟรี


ก็เช่น unsplash, pixabay, pinterest, pexels, grappik เป็นต้น


ส่วนเว็บไซต์ภาพสวยแต่ต้องจ่ายเงินก็เช่น shutterstock, eyeem, shopify เป็นต้น


สามารถเข้าไปดูรูปภาพสวยๆได้เลยนะครับ

 

6.รูปภาพต้องเหมาะสมกับเรื่องราว

 

หากในเนื้อหาของเราเขียนว่า “ยินดีต้อนรับสู่บริษัทของเรา” แต่กลับเป็นภาพที่ไม่สื่อหรือใช้ภาพ stock ก็อาจจะดูไม่โปร ดังนั้น ลองใช้ภาพที่เราถ่ายเองมาประกอบจะช่วยให้ภาพที่ปรากฏในเว็บไซต์ของคุณมีความน่าเชื่อถือ

และSEO ก็จะตรวจจับเจอแบรนด์ของคุณเร็วขึ้นและจะจัดอันดับเว็บของคุณให้ดีขึ้นครับ

 

7.ควรจะต้องมีภาพประกอบเสมอในเนื้อหา

 

แน่นอนครับว่ายุคนี้ รูปภาพสวยๆจะช่วยกระตุ้นให้คนอยากเข้ามาดูแบรนด์หรือเว็บไซต์ของเรามากขึ้น ซึ่งภาพใน google มีจำนวนมากกว่าล้านภาพแล้วจะทำอย่างไร?

ให้ผู้คนที่ค้นหา จะสามารถมองเห็นภาพประกอบหรือภาพจากเนื้อหาของเรากันบ้าง หรือดึงดูดให้คนอยากคลิกติดตามเพจของเราต่อไป


คำแนะนำที่ง่ายที่สุดคือ ต้องมีภาพประกอบที่สอดคล้องกับเรื่องราวที่คุณเขียนทุกครั้ง เพราะการค้นหาของผู้คนนั้น นอกจากอ่านข้อความ ภาพประกอบก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้พวกเขาอยากคลิกเข้าไปดู 

แม้คุณจะมีภาพที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวเลยแต่ใส่SEOเพื่ออธิบายให้ระบบ AI รับรู้ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของผู้ที่ค้นหาเช่นกัน

 

8.คำอธิบายช่วยในการทำ seo ได้

 

คำอธิบายภาพเปรียบเสมือนอีกหนึ่งประตูที่ช่วยให้ระบบของ google เข้าใจความหมายของภาพได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับเวลาที่คุณทำคำคมใส่แคปชั่นเท่ๆ นั่นละครับ หากใต้ภาพมีการบรรยายเป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็แล้วแต่ จะช่วยให้ระบบSEOสแกนภาพออกมาได้ดีขึ้น

 เพราะองค์ประกอบของภาพที่ช่วยเรื่องการสแกน จะประกอบด้วย หัวเรื่อง, ตัวพิมพ์ใหญ่, ข้อความตัวหนา, ข้อความที่เน้น, รายการหัวข้อย่อย, กราฟิก, คำบรรยายใต้ภาพ, ประโยคหัวข้อ และสารบัญ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ขาดไม่ได้เลยนะครับ 


ในส่วนนี้หรือสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทคนิคการทำSEOยังไงให้ติดอันดับ ที่นี้ 

อีกหนึ่งข้อสงสัยที่น่าสนใจคือ จำเป็นหรือไม่ที่ต้องมีคำอธิบายในทุกภาพ (ในบทความเดียวกัน) คำตอบคือ ไม่จำเป็นครับ เรามีคำอธิบายภาพเพียงจุดสำคัญที่คาดว่าจะดึงดูดใจผู้อ่านก็พอ (ประมาณว่าจุดไฮไลต์ของบทความนี้เท่านั้นครับ)เช่นเดียวกัน การทำภาพปกวีดีโอ หรือภาพประกอบในคลิป 

นอกจากรายละเอียดที่ใส่ในคลิปจะดึงดูดใจให้คนอยากคลิกดูแล้วการใส่ description ก็ช่วยให้คลิปหรือภาพประกอบนั้น แสดงผลบนSEOได้ดีเช่นเดียวกัน


ฉะนั้น อย่าลืมนำรายละเอียดเหล่านี้ไปปรับใช้ในการทำSEOของภาพกันนะครับ

 

การทำ seo รูปภาพ 8ความลับที่คุณไม่รู้ Read More »

SEO
Scroll to Top

Fasttacks ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่าประเภทคุ้กกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก