ความรู้โฆษณาออนไลน์

6 ข้อดีการขายของในแอพ Tiktok Shop

หลายคนที่ใช้งาน TikTok คงเห็นปุ่มตะกร้าหน้าโปรไฟล์ ไม่ก็ลิงก์สินค้าในคลิปไม่มากก็น้อยแน่ ๆ เพราะมันคืออีกหนึ่งฟีเจอร์ที่มาแรงบน TikTok อย่าง “TikTok Shop” ช่องทางแห่งการสร้างรายได้ทั้งสำหรับผู้ขายออนไลน์ และครีเอเตอร์ที่ต้องการสร้างรายได้ง่าย ๆ โดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพียงแค่ทำคลิป แปะลิงก์สินค้า เพียงก็นี้ก็สามารถสร้างรายได้แล้ว

สำหรับใครที่ไม่รู้ หรือไม่เคยใช้งานอาจสงสัยว่าการขายของบนแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง TikTok จะสู้การขายของบนแพลตฟอร์ม E-commerce ได้จริงไหม?

วันนี้เรามาดูกันว่าข้อดีของการขายของในแอพ tiktok shop มีอะไรบ้าง

รวม 6 ข้อดีในการขายของใน tiktok shop

มาดูไปพร้อมๆกันเลย ว่ามีอะไรบ้าง

1.TikTok เปิดการมองเห็น TikTok Shop มากขึ้น

อย่างแรกเลย ขณะนี้ TikTok กำลังปั้นให้แพลตฟอร์มของตัวเองเข้าสู่ตลาด E-commerce มากขึ้น โดยการเพิ่มฟีเจอร์ TikTok Shop ออกมาตอบโจทย์ธุรกิจ เพื่อให้ค้าขายได้บนแพลตฟอร์มสะดวกขึ้น ทั้งสามารถทำคอนเทนต์วิดีโอสั้นในการโปรโมตสินค้า แปะลิงก์สินค้าในตะกร้าให้ลูกค้าเลือก พร้อมกดซื้อ จ่ายเงิน ครบจบภายในแอปง่าย ๆ

และเมื่อฟีเจอร์ใหม่นี้กำลังมาแรง TikTok ก็จะยิ่งดัน TikTok Shop ให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น ซึ่งอัลกอริทึมของ TikTok ในปี 2023 ก็จะยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกด้วย เพราะฉะนั้นนี่แหละคือโอกาสของร้านค้าที่จะเฉิดฉายบนแพลตฟอร์ม!

2.ลดต้นทุน เพราะ TikTok ออกค่าส่งให้

การเปิดธุรกิจขายของผ่าน TikTok Shop ในช่วงนี้แม้แพลตฟอร์มจะเริ่มหักค่าธรรมเนียม 3% แต่แอปก็ยังออกค่าส่งให้ยังคงออกค่าส่งให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ลดต้นทุนในส่วนค่าส่งมากขึ้น แต่ในกรณีนี้หากใครคำนวณกำไรหลังหักค่าธรรมเนียม 3% แล้วไม่คุ้มค่า ก็ต้องลองคำนวณและตั้งราคาสินค้ากันดูดี ๆ อีกที

3. Live ได้แม้ผู้ติดตามไม่ถึงพัน

จากปกติที่ต้องมีผู้ติดตาม 1,000 คน และอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงจะสามารถไลฟ์ได้ แต่หากเปิดบัญชี TikTok Shop ก็สามารถไลฟ์ขายสินค้าได้เลยง่าย ๆ โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องจำนวนผู้ติดตาม

ซึ่งการไลฟ์จะยิ่งช่วยดันยอดขายให้พุ่งมากขึ้นอีกด้วย สังเกตได้ที่หลายร้านค้าก็เลือกไลฟ์บน TikTok เนื่องจากลูกค้าได้เห็นสินค้าจริงแบบ 360 องศา ได้มีส่วนร่วมถามตอบกับผู้ขาย แถมยังสามารถปิดการขายได้ภายในไลฟ์ได้อีกด้วย

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tiktok ได้ที่:

4.ใช้วิดีโอสั้นช่วยดันยอดขายง่าย

ด้วยความที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น แถมยังมีเครื่องมือมากมายในการสร้างสรรค์วิดีโอทั้งแผ่นเสียง ฟิลเตอร์ และ Challenge ต่าง ๆ ให้เล่น เลยทำให้สามารถสร้างสรรค์สินค้าผ่านคอนเทนต์วิดีโอออกมามากมาย แถมยังได้เห็นสินค้าจริงแบบ 360 องศา ลูกค้าดูจบก็สามารถซื้อได้เลยบนแอป และหากคอนเทนต์ดียังนำไปสู่การดันยอดขาย และการดูไลฟ์มากขึ้นอีกด้วย

5.เจอกลุ่มลูกค้าใหม่ที่หลากหลาย

การเปิดหน้าร้านบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอย่าง TikTok ยังทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจากแพลตฟอร์ม E-commerce เนื่องจากได้กลุ่มคนที่อาจจะไม่ได้ตั้งใจซื้อของแต่ดูคลิปแล้วถูกใจ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ มากขึ้นนั่นเอง ยิ่งถ้าคอนเทนต์ไหนที่ทำออกไปแล้วปัง ก็มีโอกาสที่ยอดขายจะทะลุเป้าไปไกลอีกด้วย

6.ยอดพุ่งเร็วเพียงจับมือกับครีเอเตอร์ทำ Affiliate Link

นอกจากฝั่งผู้ขายเองแล้ว ครีเอเตอร์ก็มีโอกาสสร้างรายได้ผ่าน TikTok Shop Creator แบบที่ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องแพ็กของ ส่งของ เพียงแค่เป็นครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2,000 คน และอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่ขยันสร้างสรรค์สร้างสรรค์คอนเทนต์วิดีโอสั้นพร้อมแปะลิงก์สินค้าแบบ Affiliate Link ก็สามารถสร้างรายได้ได้มหาศาล

ในฝั่งผู้ขายเองก็ได้ประโยชน์จากการจับมือกับครีเอเตอร์ที่เข้ามาช่วยส่งเสริมการขายสินค้า หากยอดขายดี ก็เรียกว่าวินวินทั้งผู้ขายและครีเอเตอร์เลยก็ว่าได้

สนใจคู่มือ ” การขายของบน Tiktik Shop ” สั่งซื้อ E-book ได้ที่> คู่มือขายของบน tiktok shop

สรุป

และนี่ก็เป็น 6 เหตุผลว่าทำไม ควรจะไปขายสินค้าบนช่องทาง tiktok shop เพื่อเปิดโลก และหาโอกาสใหม่ ๆ ในการค้าขายให้กับธุรกิจตัวเอง สำหรับใครที่ยังไม่เริ่ม สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครได้ที่นี่เลย > สมัครขายของ tiktok shop

FAST TACKS บริการรับทำการตลาดออนไลน์

6 ข้อดีการขายของในแอพ Tiktok Shop Read More »

การขายของในแอพ Tiktok Shop

ขั้นตอนในการทำคลิปวิดีโอ tiktok ให้ได้ผลมากที่สุด

การทำคลิปวิดีโอใน tiktok นั้นต้องบอกก่อนเลยครับว่า การจัดการการเตรียมการต่างๆ นั้นถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของการสร้าง content ใน tiktok ให้ได้ผลลัพธ์มากที่สุด เพราะเราต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการต่างๆ ก่อนที่เราจะนำคลิป ที่เราสร้างขึ้นมานั้นไปโพสต์ลงในช่อง tiktok และทำอย่างไร คลิปของเรานั้นจะได้ผลลัพธ์มากที่สุด มาดูพร้อมๆกันได้เลย

4 ขั้นตอนการทำคลิปวิดีโอ Tiktok

มาดูไปพร้อมๆกันได้เลย

​1.การวางแผน

1.1การวางแผน ระบุกลุ่มเป้าหมาย ลูกค้า และสินค้าของเรา

  • ​คิดว่าผู้ซื้อของเราเป็นใคร และวิดีโอประเภทไหนที่พวกเขานั้นชอบดูและให้ความสนใจ
  • ​ชี้ให้เห็นจุดขายที่เป็นจุดเด่นในสินค้าของเรา และคิดเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการขาย
  • ​แสดงสิทธิประโยชน์ของลูกค้า และสาธิตการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าในวิดีโอ

1.2 ช่วงเวลาของวิดีโอ

กุญแจสำคัญ คือ การดึงดูดผู้ชมใน 3-5 วินาทีแรก

  • 5 วินาทีแรก : ฮุก สร้าง “ความตั้งใจของผู้ชม” เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิดีโอของเรา
  • 6 – 25 วินาที : จุดขายที่ไม่เหมือนใคร และทำไมผลิตภัณฑ์นี้จะทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้น
  • 26 – 30 วินาที : สร้างคำกระตุ้นการตัดสินใจ ปิดกาารขาย เช่น เชิญชวนให้ตัดสินใจผ่านโปรโมชั่นพิเศษของสินค้านั้นๆ

1.3 ติดตามเทรนด์ ก่อนที่เราจะเริ่ม

  • ​ค้นหาวิดีโอที่นิยมผ่าน การค้นหา / แฮชแท็ก / สำหรับคุณ / การติดตาม และเรียนรู้วิธีการทำคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแส เพื่อเป็นแนวทาง
  • พยายามสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ / SKU ของเราเอง สร้าง “ความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร” เพื่อการรับรู้ของแบรนด์ที่ดีขึ้น

2.ร่างสคริปต์ของคุณ

กุญแจสำคัญ คือ “มีแผนการสื่อสารที่ชัดเจนและธีมของเนื้อหา”

ระบุธีมเพื่อสร้างเนื้อหา

  • แกะกล่อง
  • ​การแชร์ประสบการณ์
  • ก่อน VS หลัง
  • เคล็ดลับ
  • แนะนำคุณสมบัติเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่
  • และอื่นๆ

อย่าลืมป้อน “จุดขาย” ลงในเนื้อหา

  • ไม่เกิน 3 จุดขายใน 1 วิดิโอ
  • ทำ USP ซ้ำในหลายๆ วิธี เพื่อเตือนและสร้างความทรงจำให้สินค้า

​3.ถ่ายวิดีโอ

  • ถ่ายวิดีโอตามสคริปต์ของเรา และพยายามทำตามสคริปต์ของเรา การเพิ่มข้อมูลที่เป็นประโยชน์และความน่าสนใจลงไป
  • เลือก ช็อต ที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น “ค่อยๆ ซูม”, “พาโนราม่า” และ “ถ่ายระยะใกล้” เพื่อให้เข้ากับสคริปต์ และธีมของเรา

4.​ตัดต่อวิดีโอ

บางครั้งคุณต้องตัดต่อวิดีโอก่อนโพสต์ เครื่องมือที่เราแนะนำ คือ “CapCut” ซึ่งใช้งานง่าย มีเอฟเฟกต์ และสติกเกอร์มากมายให้ใช้งาน และยังสามารถใช้ในการแชร์วิดีโอที่เกี่ยวข้องกับ TikTok ได้อย่างสะดวกสบาย อีกข้อหนึ่ง คือ ไม่เสียค่าใช้จ่าย

ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แอพได้ต่อวิดีโอบน tiktok ได้ที่นี่> แอพตัดต่อวิดิโอ Tiktok

สนใจ E-book คู่มือการขายสินค้าบน tiktok shop สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่> คู่มือ tiktok shop

ตัวอย่าง content ยอดฮิตใน tiktok

content ที่น่าสนใจ และจะช่วยให้เรานั้นมีโอกาสได้รับผู้ติดตามมากขึ้น และยอดวิวที่สูง นี่เป็นไอเดียที่จะช่วยให้เราสามารถเริ่มต้นในการทำ Content ได้ง่ายขึ้น:

1.​ธุรกิจของเรา

เราสามารถสร้างความสนุกสนาน ในขณะที่อธิบายธุรกิจของเราได้ โดยเราสามารถเริ่มต้นด้วย:

  • แนะนำตัวเอง หรือสมาชิกในทีม
  • ​สถานที่ทำงาน / คลังสินค้า
  • ชื่อธุรกิจ
  • กิจกรรมประจำวัน

2.​ข้อมูลสินค้าหรือบริการ

เนื้อหาของเรายังสามารถอธิบายข้อมูลทางธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อโปรโมทธุรกิจของเราให้กับผู้ชมได้อีกด้วย

  • บรรจุภัณฑ์
  • ​รูปแบบของผลิตภัณฑ์
  • ​รายละเอียดสินค้า
  • ​การผลิตผลิตภัณฑ์

3.​คำแนะนำ เคล็ดลับ และลูกเล่น

เนื้อหาเพิ่มเติมสามารถอยู่ในรูปแบบของคำแนะนำทางธุรกิจ เพื่อโต้ตอบกับผู้ชมที่สนใจในธุรกิจของเราได้

  • เราจะเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร
  • สื่อออนไลน์ที่ชื่นชอบ
  • ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ
  • กระบวนการทางธุรกิจที่สมบูรณ์
  • ​เรื่องราวความสำเร็จของผู้ขาย

4.​ความบันเทิง

เพื่อดึงดูดและให้ผู้ชมของเรามีส่วนร่วม เราสามารถสร้างเนื้อหาที่สนุกสนานในรูปแบบของความบันเทิงได้ และนี่คือเนื้อหาความบันเทิงที่เราสามารถสร้างได้:

  • ​แชร์ข้อมูลที่น่าสนใจ
  • แชร์โค้ดส่วนลด
  • ​ประกาศแจกของรางวัล
  • ​แชร์ความคิดเห็นของลูกค้า
  • ร่วมมือกับผู้ขาย / ผู้สร้างรายอื่น

อ่านเพิ่มเติมเนื้อหาอื่นๆได้ที่:

สรุป

การทำวิดีโอสั้นบน tiktok นั้นถือเป็น สิ่งที่เราต้องสร้างความน่าสนใจให้แก่ผู้ชมภายใน 5 วินาทีแรก ดังนั้นครับ เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวและวางแผนการทำ คลิปวิดีโอของเรามาอย่างดี เพื่อให้ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายของเราและนำไปสู่ยอดขาย ในอนาคต ทั้งนั้น เพื่อนๆลองนำเทคนิคดีๆจากเราไปปรับใช้ได้เลยนะครับ และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าได้ผลแน่นอนครับ

สำหรับท่านใดสนใจบริการทำโฆษณา บน tiktok shop สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

FAST TACKS บริการรับทำโฆษณา Tiktok shop

ขั้นตอนในการทำคลิปวิดีโอ tiktok ให้ได้ผลมากที่สุด Read More »

ทำคลิปวิดีโอ tiktok

5 วิธีการทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จปี 2023 ห้ามพลาด

นักการตลาดในแบรนด์ต่างๆ นั้นต้องเริ่มให้ความสำคัญกับเนื้อหาในการทำ Seoมากกว่าที่เคยในปี 2023 เพราะการทำSEO นั้นถือเป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อหา และเป็นวิธีที่นักการตลาดในแบรนด์ต่างๆเลือกใช้ในการทำกลยุทธ์การสื่อสาร Content ไปสู่กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีทำการตลาดด้วย seo นั้นมีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากแบรนด์ต่าง ๆ นั้นนิยมสร้างกลยุทธ์เนื้อหาที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ซึ่งกระตุ้นการเข้าชมในเว็บไซต์ โอกาสในการขาย และขณะเดียวกันก็ยังเป็นส่วนช่วยในการขยายแบรนด์ของพวกเราไปในประเทศต่าง ๆ ผ่านช่องทางต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน

สิ่งที่สำคัญในการทำSEO ปี 2023 คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหาบน Google และ การทำ seo นั้นมีความสำคัญต่อกลยุทธ์การตลาดเนื้อหามาก เนื่องจากช่วยให้ผู้คนค้นพบเนื้อหาของเราในเครื่องมือค้นหา และเพิ่มการมองเห็นได้อย่างเป็นจำนวนมากหากเนื้อหาของคุณนั้นติดอยู่บนอันดับต้นๆของ Google

เราจะมาดูกันว่าเหตุใด SEO จึงมีความสำคัญ และวิธีการทำ SEO นั้นจะนำไปใช้กับกลยุทธ์เนื้อหาของเราได้อย่างไร และเทคนิค 5อันดับแรกของเราในการสร้างกลยุทธ์ SEO ในปี 2023 มีอะไรที่สำคัญมาก

SEO คืออะไร และทำไมต้องทำ SEO

SEO คือ กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์เพื่อปรับปรุงอันดับใน Google และเพิ่มปริมาคุณภาพของการเข้าชมจากเครื่องมือค้นหา โดยเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น การตรวจสอบ ทางเทคนิค การสร้างลิงก์การทำ keyword การปรับแต่งเนื้อหาและอื่นๆ

จุดมุ่งหมายของการทำ SEO คือ การปรับปรุงการมองเห็นไซต์ของเรา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์หรือผู้ที่ต้องการวางตำแหน่งตัวเองเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้และสร้างความน่าเชื่อถือในธุรกิจของคุณ อย่างเชี่ยวชาญ

ทำไมควรทำเนื้อหาแล้วให้ความสำคัญ กับ SEO

แม้ว่าการทำ SEO เองนั้น จะเป็นเพียงแค่ช่องทางของการเผยแพร่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นหลัก แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงการมองเห็นเนื้อหาในช่องทางอื่นๆได้ ด้วยองค์ประกอบหลักบางประการของ SEO สามารถนำมาปรับใช้กับเนื้อหาหรือบทความของเราได้ด้วย เพื่อให้ เนื้อหาของเรานั้นมีความสมบูรณ์ทางเทคนิคมากยิ่งขึ้นและเอื้ออำนวยต่อการค้นหาของผู้ใช้งาน

การเลือกใช้ Keyword

ก่อนสร้างเนื้อหาหรือบทความนั้น เราต้องรู้ว่า ผู้ใช้งานจะค้นหาเนื้อหาของเราได้อย่างไร ดังนั้นการเลือกใช้ Keyword จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำความเข้าใจว่าผู้ชม ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรากำลังค้นหาคำใด และพวกเขาพิมพ์คำค้นหาเหล่านั้นบ่อยเพียงใด

การเลือกใช้กลยุทธ์การทำ SEO และหารใส่ Keywordในเนื้อหาเข้าด้วยกันสามารถทำให้เราเลือกใช้ Keyword ที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของเราใช้เพื่อค้นหาเนื้อหาที่คล้ายกัน จากนั้น เราก็นำkeyword หรือแฮชแท็กบนโซเชียลมีเดีย เหล่านั่นมาใช้ในคำอธิบายเนื้อหา หรือ วิดีโอของเรา ในบล๊อคโพสต์ หรือ บทความ

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่:

จุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้ Search Intent

นอกเหนือจากการทำความเข้าใจว่า keyword ใดที่ผู้ใช้เลือกในการค้นหา เราจึงต้องโพกัสเรื่องของจุดประสงค์ของการค้นหาของผู้ใช้ด้วยในส่วนนี้ เพราะจะช่วยให้เราสามารถระบุเจตนาที่อยู่หลัง Keywordได้อีกด้วย เมื่อเข้าใจจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้ เราจะสามารถวางตำแหน่งเนื้อหาของเราให้มีความเกี่ยวข้องกันได้มากที่สุด

ตัวอย่างเช่น:

สำหรับเนื้อหาที่ให้ข้อมูล เช่น บล็อกโพสต์ การค้นหา keyword ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดด้วยจุดประสงค์ในการค้นหาที่ถูกต้องสามารถช่วยให้เราได้เปรียบเหนือเนื้อหาที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพน้อยกว่า เนื่องจากเป้าหมายของ Google คือการนำเสนอผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับข้อความค้นหาแก่ผู้ใช้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : search intent คืออะไร

รูปแบบและโครงสร้างเนื้อหา

การสร้างเนื้อหาในรูปแบบและโครงสร้างที่ปรับให้เหมาะสมเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เราควรรวบรวมไว้สำหรับการทำ SEO เข้ากับการสร้างเนื้อหา การทำ SEO ไม่ใช่แค่เพียงแต่ให้แนวคิดว่ารูปแบบเนื้อหาใดมีแนวโน้มที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

เช่น คู่มือ รีวิว วิดีโอ ฯลฯ แต่ยังต้องใช้แนวทางเชิงโครงสร้างเพื่อช่วยให้เรามอบประสบการณ์เนื้อหาที่ดีที่สุดและความเป็นไปได้ที่ดีที่สุดของในเนื้อหาของเรา

5 เคล็ดลับสําคัญในการทำ SEO ปี 2023 ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีสุด

มาดูไปพร้อมๆกันได้เลย

ด้วย90% ของนักการตลาดที่ใช้ประโยชน์จากแผนการตลาดที่เน้นทำ SEO และในปี 2023 คาดว่าการแข่งขันที่มากขึ้นในแบรนด์ต่างๆเองนั้นก็จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาของตน เพื่อให้เว็บไซต์หรือเนื้อหาของเรานั้นมองเห็นได้มากที่สุด นั่นเป็นเหตุผลที่การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO เป็นสิ่งสําคัญ

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับ 5 ข้อควรให้ความสำคํบในการทำ SEO ปี 2023

1.สร้างเนื้อหาวิดีโอ

มีสาเหตุหลายประการที่ทําให้วิดีโอควบคุมการตลาดเนื้อหาและวิธีที่วิดีโอกลายเป็นหนึ่งในรูปแบบเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการดึงดูดผู้ชมของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยรูปแบบวิดีโอสั้นนั้นมีประสิทธิภาพอย่างมากบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

และเป็นหนึ่งในวิธีสําคัญที่ผู้คนบริโภคเนื้อหา และนี่คือเหตุผลที่ทำไม วิดีโอแบบสั้นมีROI ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรูปแบบสื่ออื่น ๆ ทั้งหมด เพราะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียส่วนมากในปัจจุบันนั้นมุ่งเน้นและสนับสนุนอย่างมาก

ผู้บริโภคนิยมใช้แพลตฟอร์มวิดีโอเป็นทั้งแหล่งการศึกษาและความบันเทิงและเป็นเครื่องมือค้นหา ดังนั้นแบรนด์ไม่เพียง แต่ต้องสร้างเนื้อหาวิดีโอที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายเมื่อรับชม แต่พวกเรานั้นยังต้องจัดลําดับความสําคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพ SEO เพื่อให้เนื้อหาของเรานั้นสามารถค้นพบได้ง่ายท่ามกลางวิดีโออื่น ๆ

สร้างวิดีโอเนื้อหา

2.เพิ่มประสิทธิภาพสําหรับการค้นหาด้วยเสียง

การเปิดตัว Siri และผู้ช่วยเสียงอื่นๆ ทําให้แบรนด์ต่างๆ ต้องนํากลยุทธ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่มาใช้เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ด้วย27% ของประชากรออนไลน์ทั่วโลกที่ใช้การค้นหาด้วยเสียงบนมือถือและผู้ช่วยเสียงกว่า4 พันล้านคนถูกใช้บนอุปกรณ์ทั่วโลก แบรนด์ที่ปฏิเสธที่จะเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสําหรับการค้นหาด้วยเสียงกําลังทิ้งโอกาสสําคัญไว้บนโต๊ะ

ดังนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาด้วยเสียงมีประเด็นสําคัญหลายประการ แต่องค์ประกอบของการทำ SEO ที่สําคัญที่สุดอย่างหนึ่งเมื่อเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับการค้นหาด้วยเสียง คือ ตัวอย่างข้อมูลที่โดดเด่น ผลการค้นหาที่แสดงที่ด้านบนของหน้าผลการค้นหา ซึ่ง Google เลือกมาเป็นคําตอบที่ดีที่สุดสําหรับข้อความค้นหาของผู้ใช้โดยเฉพาะ

การเพิ่มประสิทธิภาพสําหรับตัวอย่างข้อมูลแนะนํานั้นเป็นวิธีการทำ SEO ที่ดีแต่โดยทั่วไปความสําคัญที่เพิ่มขึ้นของตัวอย่างข้อมูลแนะนํา สําหรับการค้นหาด้วยเสียงนั้นหมายความว่าแบรนด์ที่ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาด้วยวิธีนี้จะพลาดโอกาสที่เนื้อหาของพวกเขาจะปรากฏให้เห็นมากขึ้นในบ้านของผู้คนและขณะเดินทาง

การค้นหาด้วยเสียง

3.นําเนื้อหากลับมาใช้ใหม่สําหรับช่องต่างๆ

การนําเนื้อหากลับมาใช้ใหม่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลเนื้อหาและเปลี่ยนเนื้อหาเพื่อใช้งานในช่องทางต่างๆ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนวิดีโอแบบยาวให้เป็นวิดีโอสั้นหรือตัวอย่างข้อมูลสําหรับช่องทางโซเชียลมีเดีย นี่เป็นวิธีที่สร้างสรรค์สําหรับแบรนด์ในการสร้างเนื้อหาใหม่และช่วยเข้าถึงผู้ชมที่แตกต่างกันซึ่งชอบรูปแบบที่แตกต่างกันในการบริโภคสื่อ

แนวคิดอื่น ๆ สําหรับการนําเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ ได้แก่ การเปลี่ยนโพสต์บล็อกหรือบทความเป็นวิดีโอหรือเทนรด์ในโซเชียลมีเดีย การถอดบทความให้กลายเป็นพอดคาสต์ เป็นโพสต์บล็อกเปลี่ยนงานนําเสนอเป็นอินโฟกราฟิก เป็นต้น และเนื่องจากมีตัวเลือกมากมายสำหรับแบรนด์ต่างๆจึงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า

เราได้มีการปรับรูปแบบเนื้อหาให้เข้ากับช่องที่ต้องการใช้ สิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับการนำเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ ได้แก่

จัดลําดับความสําคัญของเนื้อหาที่ได้รับความนิยมและเนื้อหาที่มีการค้นหาตลอดปี การกําหนดเวลา การเปิดตัวเนื้อหาที่นํากลับมาใช้ใหม่ด้วยแนวโน้ม ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ การใช้ภาพเพื่อให้เนื้อหาของเรามีโอกาสถูกแชร์ได้ดีที่สุด

4.เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)

การสร้างเนื้อหาด้วยการทำ SEO ที่ประสบความสําเร็จ นั้นสร้างขึ้นจากการทำโครงสร้างที่ถูกต้องของการทำ SEO และนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมการเพิ่มประสิทธิภาพในเว็บไซต์ของเราจึงเป็นสิ่งสําคัญ

การเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ที่สําคัญที่สุดที่แบรนด์ควรพิจารณา ได้แก่ :

  • การเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลใน meta description
  • การอัพเดต Canonicals เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่ซ้ํากัน
  • การเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของหน้าและเวลาในการโหลด
  • การสร้างเค้าโครงหน้าที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่
  • การนําข้อมูลที่มีโครงสร้างไปใช้

การเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้เป็นหลักการสําคัญ2ประการของการทำ SEO ในการสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีบนเว็บไซต์ของเราและทําให้เนื้อหาสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นและดีที่สุดบนอุปกรณ์มือถือ

เพราะบนอุปกรณ์มือถือคิดเป็นเกือบ60% ของการเข้าชมทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 และคาดว่าจะได้รับความนิยมมากกว่าเดสก์ท็อปในอนาคตอันใกล้ ด้วยโซเชียลมีเดียและความบันเทิงที่เน้นมือถือมากตอนนี้ผู้คนจึงบริโภคสื่อบนอุปกรณ์มือถือมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเนื่องจากการใช้อุปกรณ์มือถือยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องการมอบประสบการณ์มือถือที่ราบรื่นจึงเป็นสิ่งสําคัญในปี 2023 อย่างมาก

5.ติดตามการอัพเดตอัลกอริทึมของ Google

Google กําลังอัพเดตอัลกอริทึมอย่างต่อเนื่องเพื่อมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสําหรับคําค้นหา การอัพเดตส่วนใหญ่เป็นการอัพเดตเพียงเล็กๆน้อยๆ แต่การอัพเดตที่สําคัญอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำ SEO และส่งผลต่ออันดับการค้นหา

“การอัปเดตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์” ของ Google ซึ่งเผยแพร่ในเดือนกันยายน 2022 เป็นตัวอย่างที่สําคัญของเรื่องนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื้อหาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเนื่องจากอนุญาตให้แบรนด์และนักเขียนปรับปรุงกระบวนการพัฒนาเนื้อหา คําตอบของ Google ในเรื่องนี้คือ ‘การอัปเดตเนื้อหาที่เป็นประโยชน์’ ที่ออกแบบมาเพื่อลดคุณค่าของเนื้อหาอัตโนมัติและจัดลําดับความสําคัญของเนื้อหาที่ให้ความสําคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก

เราไม่ทราบว่าอัลกอริทึมใดที่ Google ได้วางแผนไว้ในอนาคต แต่อย่าลืมติดตามข่าวสารล่าสุดเนื่องจากจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเหตุใดเนื้อหาของคุณจึงไม่ทํางานตามที่คุณคาดไว้

สรุป ประเด็นสําคัญของการทำ seo 2023

  • SEO เป็นองค์ประกอบสําคัญของกลยุทธ์ในการสร้่างเนื้อหาที่ประสบความสําเร็จโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบหลัก เช่นการใช้ keyword ความเร็วของหน้าและการเพิ่มประสิทธิภาพบนมือถือ ทั้ง SEO และเนื้อหาควรทํางานร่วมกันเพื่อเพิ่มการมองเห็นแบรนด์และเนื้อหาของคุณผ่านช่องทางและแพลตฟอร์มต่างๆ

  • เนื้อหาวิดีโอเป็นที่นิยมอย่างมากและเป็นหนึ่งในรูปแบบเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดึงดูดผู้ชมของคุณ

  • การค้นหาด้วยเสียงมีความสําคัญมากกว่าที่เคยด้วยการบริโภคสื่อบนอุปกรณ์มือถือที่เพิ่มขึ้น มันเป็นวิธีที่ดีในการทําให้แบรนด์ของเราได้รับการมองเห็นขณะเดินทาง

  • การนําเนื้อหากลับมาใช้ใหม่ช่วยให้เข้าถึงผู้ชมที่แตกต่างกันซึ่งอาจใช้สื่อในรูปแบบที่แตกต่างกันแม้ว่าเนื้อหาจะต้องได้รับการปรับให้เหมาะสมขึ้นอยู่กับช่องและแพลตฟอร์ม การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นสิ่งสําคัญสําหรับ Google ในการให้ความสําคัญและจัดลําดับความสําคัญของเนื้อหาของคุณ มันมีความสําคัญเท่าเทียมกันในการปฏิบัติตามหลักการสําคัญของ Google ในการสร้างความมั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีบนเว็บไซต์ของเราและทําให้เนื้อหาสามารถเข้าถึงได้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่

  • การติดตามการอัพเดตอัลกอริทึมของ Google จะช่วยให้เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในวิธีการประเมินและจัดอันดับเนื้อหาของคุณโดย Google และวิธีที่เราสามารถหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ที่อาจเกิดขึ้นกับประสิทธิภาพของเนื้อหา

สนใจบริการทำ seo wordpress สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยที่:

FAST TACKS บริการรับทำ SEO WordPress

5 วิธีการทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จปี 2023 ห้ามพลาด Read More »

วิธีทำ seo 2023

ทำคลิปใน tiktok  shop ยังไงให้มีคนดูเยอะๆ

คลิปวิดีโอสั้นบน tiktok shop นั้นถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการโปรโมต และช่วยให้การขายสินค้าหรือบริการของเราบน TikTok Shop นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายดาย แต่ไม่ต้องกังวลเลยครับ สำหรับใครที่กำลังมีความสนใจเรื่องการ การทำ tiktok shop แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร วันนี้ทางเราจะมาแนะนำทริคดีๆ

และที่สำคัญคุณไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพในการสร้างเนื้อหาเลย เพราะเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็น 7 ข้อ สำหรับการทำวิดีโอสั้นใน tiktok shop ให้น่าสนใจ และขั้นตอนสำคัญเพื่อที่จะยกระดับเนื้อหาของเพื่อนๆได้แน่นอนครับ

7 สิ่งสำคัญที่ควรมีในการทำคลิป tiktok shop

มาดูไปพร้อมๆกันได้เลย

1.เพลงที่กำลังมาแรงใน tiktok

รูปที่มา: Tiktok

รูปที่มา: Tiktok

การเลือกใช้เพลงที่ใช้กันมากที่สุด เพราะ จะทำให้วิดีโอของเราน่าสนใจ และเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น อันนี้บอกเลยว่า ดีจริงๆ

การใช้เสียงเพลง ยอดนิยมในคลิป video tiktok

  • เปิดแอพ TikTok > กดเพิ่มวิดีโอ หรือรูปภาพที่คุณต้องการอัปโหลด
  • แตะ “เพิ่มเสียง” ที่ด้านบน เพื่อเพิ่มเสียงที่กำลังมาแรง
  • ค้นหาเพลงที่คุณต้องการเพิ่มในวิดีโอ
  • แตะ เพลงที่คุณต้องการเพิ่ม
  • จากนั้น เพลงจะถูกเพิ่มเข้าไปในวิดีโอเองเลยโดยอัตโนมัติ

2.การใส่ข้อความในคลิป tiktok

รูปที่มา: Tiktok

การใช้คำบรรยายหรือข้อความในวิดีโอ TikTok ของเรานั้น จะเป็นวิธีที่ดีในการส่งข้อความสำคัญไปยังผู้ซื้อที่มีศักยภาพได้ เพราะการใช้ข้อความจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในโลกดิจิตอล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาและการได้ยิน การเพิ่มข้อความและกำหนดการตั้งค่าระยะเวลาเอง จะสามารถช่วยให้ในการบอกเล่าเรื่องราวได้

และผู้ชมส่วนมากนั้นดูวิดีโอโดยไม่มีเสียง ดังนั้นการใช้คำบรรยายหรือข้อความบน TikTok ของเรา นั้นจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้

การใช้ข้อความในคลิปวิดีโอ tiktok

  • หลังจากการอัดวีดีโอเรียบร้อยแล้ว
  • เพิ่ม “ข้อความ” ที่ด้านบนขวาของหน้าจอ
  • เพิ่มข้อมูลที่คุณต้องการเพิ่ม
  • แตะ ถัดไป > โพสต์ เพื่อจบเซสชัน

3.การเอฟเฟควิดีโอ / สติกเกอร์ ในคลิป tiktok

รูปที่มา: Tiktok

แนะนำว่าเพื่อนๆลองใช้เอฟเฟคที่กำลังเป็นที่นิยม / สติกเกอร์บน TikTok เพื่อทำให้วิดีโอของเราน่าสนใจยิ่งขึ้น!

การใส่สติกเกอร์ในคลิป tiktok

  • แตะ “สติกเกอร์” ที่ด้านบนขวาของหน้าจอ
  • ค้นหาสติกเกอร์ที่น่าสนใจที่จะเพิ่ม
  • แตะ ถัดไป > โพสต์ เพื่อจบเซสชัน

4.สติกเกอร์นับถอยหลังแบบไลฟ์สด

รูปที่มา: Tiktok

รูปที่มา: tiktok

สติกเกอร์นับถอยหลังแบบไลฟ์สด นั้นจะช่วยให้เรานั้นสามารถสร้างกิจกรรมออนไลน์ได้ เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าตื่นเต้นในการเปิดตัว หรือกิจกรรมที่กำลังจะมาถึงของเราได้ครับ

  • แตะ “สติกเกอร์” ที่ด้านบนของหน้าจอ
  • ค้นหา “สติกเกอร์นับถอยหลังแบบไลฟ์”
  • แก้ไขเวลา และชื่อเรื่องของการนับถอยหลัง ตามที่คุณต้องการเลย
  • แตะ ถัดไป > โพสต์ เพื่อจบเซสชัน

5.ใส่แฮชแท็ก

รูปที่มา: Tiktok

รูปที่มา : tiktok

การใส่แฮชแท็กจะช่วยเพิ่มยอดการมองเห็นในเนื้อหาของเราให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่ผู้ใช้กำลังมองหาได้อีกด้วย ใครก็ตามที่กำลังมองหาหัวข้อไหนโดยเฉพาะหรือความสนใจไหนโดยเฉพาะ นั้นสามารถใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาเนื้อหานั้นได้อย่างง่ายดาย หรือวิธีนี้ก็จะช่วยในการทำ tiktok seo ได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น

  • แตะ “ถัดไป” เมื่อคุณแก้ไขวิดีโอเสร็จแล้ว
  • จากนั้น คุณจะถูกนำไปยังหน้าโพสต์
  • เขียนแฮชแท็กตามที่คุณต้องการ
  • หรือ แตะแฮชแท็ก เพื่อค้นหาแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องและอยู่ในเทรนด์มากที่สุด

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ tiktok ได้ที่:

6.การใส่ลิงก์สินค้าในคลิป tiktok shop

รูปที่มา: tiktok

การใส่ลิงก์สินค้า เป็นฟีเจอร์ในการแปะผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของเรา ( SKU ) เข้ากับคลิปวิดีโอที่เราสร้าง และเมื่อผู้ชมถูกกระตุ้นโดยเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจของเราแล้ว ผู้ชมนั้นสามารถคลิก “ไอคอนตะกร้า” จากนั้นจะนำผู้ชมไปที่ ” หน้าแสดงผลิตภัณฑ์(PDP)” สำหรับการช็อปปิ้ง

การใส่ลิงก์ตระกร้าใน tiktok shop

  • ในหน้าโพสต์คุณจะเห็น “เพิ่มลิงก์”
  • คลิกผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการใส่กับวิดีโอสั้นนี้ > เพิ่ม

7.การใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ

รูปที่มา: Tiktok

รูปที่มา: Tiktok

การใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจนั้น จะกระตุ้นให้ผู้ชมของเรานั้นมีส่วนร่วมสินค้าของเรา โดยเราต้องบอกผู้ชมในวิดีโอสั้นนี้ทุกครั้ง เพื่อเชิญชวนให้ผู้ชมตัดสินใจด “คำกระตุ้นการตัดสินใจ” เช่น เวลาโปรโมชั่นพิเศษ มีเวลาจำกัด โดยคำกระตุ้นการตัดสินใจต้องให้รายละเอียดที่ถูกต้อง และไม่ทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดเกี่ยวกับเงื่อนไขการซื้อสินค้า

(อันนี้ย้ำเลยนะครับ ไม่งั้นโดนแบน แน่นอน ถ้าละเมิดเงื่อนไขของทาง tiktok )

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับวิธีทำคลิปใน tiktok shop ยังไงให้มีคนดูเยอะๆ ทางเราแนะนำว่าเพื่อนๆนั้นสามารถทำเทคนิคดีๆที่ทางเรานำมาเสนอลองนำไปปรับใช้กับการทำคลิปวิดีโอของเพื่อนๆดูนะครับ

แล้วแนะนำว่า หากเป็นมือใหม่ ควรหมั่นลงคลิปวิดีโอ อย่างสม่ำเสมอและ เน้นย้ำว่าเนื้อหา ควรมีความสดใหม่และมีความน่าสนใจครับ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คลิปของเพื่อนๆนั้นมียอดการเข้าชมที่สูงขึ้น จากแต่ก่อนแน่นอนครับ

สนใจบริการรับทำโฆษณา tiktok shop กับทาง fast tacks สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ

Fast tacks รับทำโฆษณา tiktok shop

ทำคลิปใน tiktok  shop ยังไงให้มีคนดูเยอะๆ Read More »

ทำคลิปใน tiktok shop ยังไงให้มีคนดู

line oa คือ อะไร?

line oa คืออะไร?-ตัวช่วยในการเพิ่มยอดขายของคุณ

line oa คือ อะไร?

Line oa คือ บัญชีไลน์อย่างเป็นทางการสำหรับ ธุรกิจเพื่อใช้งานเชิงพาณิชย์ หรือ มีชื่อเรียกเต็มๆว่าLINEOfficialAccount สร้างขึ้นเพื่อใช้สื่อสารระหว่างลูกค้าของคุณกับธุรกิจ เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด ส่งเสริมการขาย อีกทั้งมีระบบสถิติเชิงลึก ธุรกิจในประเทศไทยส่วนใหญ่ จะนิยมใช้งาน lineเพื่อ มาใช้ในการสร้างระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ให้ยกระดับธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น เข้าถึงลูกค้าได้อย่าง ง่ายดาย

และวันนี้ทาง Fast tacks จะมาอธิบายประโยชน์รวมถึงฟังก์ชั่น ในการใช้งาน ไลน์ โอเอ ให้ทราบกันนะครับ

ประเภทบัญชีของ line oa มีอะไรบ้าง

บัญชีของทาง LINE OA (LINE Official Account) สำหรับธุรกิจนั้นจะแบ่งประเภทของบัญชีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน โดยเราสามารถ สังเกต สีของโล่ที่อยู่ด้านหน้าของชื่อบัญชี LINE Official Account นั้นๆ ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะมีรูปแบบดังนี้

ประเภทของบัญชี line oa

1.สีเทา – Unverified Account

บัญชีทั่วไป หรือบัญชีเริ่มต้น บัญชีจะมีโล่สีเทา ที่สามารถใช้งานฟีเจอร์แบบพื้นฐานได้ปกติ บัญชีรูปแบบนี้จะมีไม่มีค่าใช้จ่าย แต่เราสามารถซื้อ Premium ID เพิ่มเติมได้ และสามารถอัพเกรดเป็นบัญชีระดับที่สูงขึ้นได้ในอนาคต แนะนำว่า หากคุณเป็นมือใหม่ ขายสินค้า ใช้งานบัญชีทั่วไปก็ คือว่าโอเคแล้วครับ หากคุณพึ่งจะเริ่มขายของออนไลน์ สามารถอ่านวิธีเริ่มต้น เพิ่มเติมได้ที่ >ขายของออนไลน์ เริ่มต้นอย่างไร มือใหม่ต้องรู้?

2.สีน้ำเงิน – Verified Account

บัญชีรับรอง จะต้องได้รับการตรวจสอบจากทาง line ประเทศไทยก่อน ถึงจะสามารถใช้งานได้ เมื่อได้ผ่านการตรวจสอบจาก LINE ประเทศไทย ก็จะได้รับโล่สีน้ำเงิน ซึ่งบัญชีรับรองจะทำให้ลูกค้าหรือบุคคลต่างๆ ค้นหาเราได้อย่างง่ายขึ้น และ สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆได้ดีมากขึ้น

3.สีเขียว – Premium Account

บัญชีพรีเมียม จะเป็นบัญชีโล่สีเขียวเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หน่วยงานต่างๆ เมื่อผ่านการตรวจสอบจาก LINE จะได้รับโล่สีเขียว สามารถค้นหาได้บนแอปพลิเคชัน LINE ในช่อง “ค้นหาเพื่อน” ได้ แต่บัญชีพรีเมียมนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ข้อดีก็คือ เราสามารถเข้าถึง พูดคุยกับไลน์ประเทศไทยได้โดยตรง (Line Thailand) และ ความพิเศษของรูปแบบนี้คือจะสามารถใช้งานสติ๊กเกอร์ที่ให้ผู้ใช้งานโหลดไปใช้ได้แบบฟรีๆ

(Sponsor Sticker) แต่การสมัครจะแตกต่างจากสองแบบด้านบนซึ่งจะต้องทำเรื่องเพื่อขอ Account อันนี้ คือ พรีเมียมสมชื่อ นะครับ

ฟีเจอร์หลักของ line oa มีอะไรบ้าง

1.(Broadcast)


การส่งข้อความให้ลูกค้าหลายคน ฟีเจอร์ยอดฮิตสำหรับ ผู้ใช้ line oa เป็นการส่งข้อความแบบกว้างๆให้กับผู้คนที่ติดตาม LINE OA ของเรา โดย 1000 ข้อความแรกจะเป็นข้อความฟรี และหลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 1,200 บาท

การ Broadcast สามารถเลือกแบ่งตามกลุ่มลูกค้าเบื้องต้นได้ เช่นเพศและช่วงอายุ ถือว่า อันนี้เป็น ฟีเจอร์หลักๆและมีประโยชน์ๆมากๆ กับการใช้ทำ โปรโมชั่นในการขาย และการที่เราต้องการทำ CRM กับ ลูกค้าเก่าของเรา

2.การใช้ข้อความอัตโนมัติ

ข้อความอัตโนมัติของทาง line oa จะมีระบบที่ช่วยในการตอบข้อความให้กับเรา ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเวลาในการตอบคำถามเบื้องต้น ได้อย่างมาก รวมไปถึงข้อความต้อนรับอัตโนมัติ (Greeting Message) และข้อความตอบกลับอัตโนมัติ (Auto Response)

ที่สามารถตั้งค่าตามคำสำคัญ (Keyword) ต่างๆได้ ช่วยทำให้เราสามารถตอบลูกค้าได้เร็วมากขึ้น ประเภทของข้อความอัตโนมัติ

ประเภทของข้อความอัตโนมัติ มี ด้วยกัน 2 แบบ คือ

  • Greeting Message เป็นระบบการต้อนรับลูกค้าอัตโนมัติ หากมีคนที่ทำการติดตามบน line oa ของเรา ระบบจะทำการส่งข้อความไปให้กับคนที่ติดตามเราในครั้งแรกของการติดตาม

  • Auto Response เป็นระบบในการตอบกลับข้อความอัตโนมัติ โดยจะอาศัยการคาดเดาจาก Keyword ที่กำหนดไว้ โดยเป็นการตอบข้อความเบื้องต้น เช่น เราตั้งให้ตอบราคาของสินค้าทั้งหมดในกรณีที่ลูกค้าถามเกี่ยวกับราคาของสินค้า

การแบ่งผู้ติดตามด้วยchat tagบน line oa คือ

เป็นระบบที่จะช่วยทำให้เราเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตามของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งสะดวกมากต่อธุรกิจต่างๆ ทั้งในการจัดการระบบผู้ติดตาม กลุ่มลูกค้า

ซึ่งเราสามารถแบ่งผู้ติดตามออกเป็นกลุ่มๆ ได้ด้วยการติด Tag ไว้ด้านล่างชื่อลูกค้า ซึ่งข้อดีของการติด Chat Tag นั้นจะช่วยให้เราสามารถจดจำได้ว่าลูกค้าที่เราเคยคุยหรือเพิ่งคุยคนนั้นเขาเป็นใคร ซึ่งประโยชน์ของการการติด Tag นั้นสามารถทำได้อย่างอิสระตามที่คุณต้องการ อาจจะแบ่งเป็นประเภทของยอดใช้จ่าย เช่น ลูกค้าทั่วไป ลูกค้า Premium ลูกค้า VIP ฯลฯ

หรือจะแบ่งตามลักษณะนิสัยและสถานะต่างๆ อย่าง ลูกค้าใหม่ คอนเฟิร์มแล้ว โอนแล้ว ดูแลเป็นพิเศษ หรืออะไรก็แล้วแต่เท่าที่คุณจะคิดออก ซึ่งตรงนี้จะมีประโยชน์กับการ ส่งโปรโมชั่น พิเศษ ไปหาลูกค้า ที่เป็นกลุ่ม vip ของคุณได้ในอนาคต และยังช่วยกับการจัดการข้อมูลของลูกค้าได้ง่ายด้วยครับ

Chat tag นั้น สามารถ แบ่งออกได้เป็น 3 ส่วนครับ คือ

  • Chat Tag เป็นการใส่แท็กเพื่อใช้ในการบอกสถานะของลูกค้า ผู้ติดตาม ทำให้เราสามารถค้นหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เช่น ลูกค้าสนใจอะไรอยู่ เป็นกลุ่มลูกค้าเก่าหรือใหม่ เป็นต้น

  • Target Reach เป็นระบบที่ทำให้คนสามารถเข้าถึง Account ของเราได้แบบไม่จำกัด ไลน์ปกติจะทำการจำกัดผู้ติดตามซึ่งหากเกินจำเป็นจะต้องสมัครหลายๆบัญชี ทำให้ยุ่งยากในการจัดการมากยิ่งขึ้น

  • One Chat / Group Chat Mode เป็นระบบที่ใช้ในการพูดคุยส่วนตัว หรือ คุยเป็นกลุ่มใหญ่ๆกับลูกค้า ทำให้ไม่จำเป็นต้องแอดไลน์ส่วนตัวไปคุยแชทแยก ซึ่งถือว่าสะดวกมาก

Rich Menu

เราสามารถทำการออกแบบเมนูลัดบนหน้าจอแชท ซึ่งจะสามารถลิงค์ไปยังหน้าอื่นได้ เช่นเว็บไซต์ หน้าสินค้า วิธีติดต่อต่างๆ เหมาะสำหรับการใช้ตอบคำถามที่ลูกค้าถามบ่อยๆ หรือใช้ในการขายหรือสื่อสารโปรโมชั่นต่างๆ ตรงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของline oa อีกตัวเลยก็ว่าได้ครับ เพราะตัว Rich Menu นั้น สามารถเพิ่มลูกเล่น ได้มากมาย

แต่ทาง fast tacks จะแนะนำให้ 3 การออกแบบ Rich Menu ให้สะดุด ตาลูกค้า มีอะไรบ้าง

  • Message รูปแบบที่ทำให้เราสามารถส่งรูปขนาดใหญ่แบบเต็มหน้าจอได้ อีกทั้งยังสามารถใส่ลิ้งค์เพื่อนำคนเข้าไปสู่ช่องทางอื่นๆ หรือ เว็บไซต์ของเราได้

  • Video เป็นรูปแบบวิดีโอแบบเต็มหน้าจอ อีกทั้งเรายังสามารถเลือกได้ว่าจะให้ปุ่ม Action เล่นรูปแบบไหน

  • Menu รูปแบบของเมนูลัดที่ทำให้เข้าถึงข้อมูลต่างๆของเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถลิ้งค์ไปหน้าต่างๆได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเมนูอะไรบ้าง

ยิ่งรูป หรือ วิดีโอยิ่งใหญ่ยิ่งสามารถดึงดูดความสนใจได้มากยิ่งขึ้น ส่วนเมนูลัดจะช่วยในการกระตุ้นการขาย ยิ่งเมนูลัดน่าสนใจยิ่งดึงดูดได้มากขึ้น

เพิ่มยอดขายด้วยคูปองส่วนลด

การสร้างคูปองบน line oa นั้นถือว่าเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่ ผู้ใช้หลายคนนั้นเลือกใช้กันมากครับ เพราะเราสามารถ ออกแบบคูปองให้ลูกค้า ใช้ในการทำบัตรสะสมแต้ม หรือ แคมเปญต่างๆ ในการ ลดราคาด้วยการกดรับคูปองที่ line oa ของเรา ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีก จุด ที่ เราสามารถใช้งานและออกแบบ คูปองของเรานั้นได้อย่างอิสระครับ

• Coupon & Reward Card ใช้ในการสะสมแต้ม เพื่อแลกรางวัล ส่วนลดต่างๆ ซึ่งเราสามารถกำหนดได้ว่าต้องแต้มเท่าไหร่ถึงจะได้แต้ม เป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นการขายที่ดี

line oa คือ เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?

ไลน์ OA ถือว่าเครื่องมือในการทำการตลาดที่เหมาะกับธุรกิจหลายรูปแบบ หลายประเภท แต่จะมีประเภทไหนบ้าง มาดูกันดีกว่าว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับช่องทางนี้หรือไม่

• ธุรกิจค้าขายทุกรูปแบบ ทั้งในรูปแบบขายส่ง ขายปลีก ออนไลน์ ออฟไลน์

• ธุรกิจที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงร้านอาหาร การให้บริการที่พัก การจองสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ หรือจองร้านอาหาร อันนี้เราก็สามารถเลือกใช้งานครับ

• ธุรกิจให้บริการ การให้คำปรึกษาต่างๆ เช่น ธุรกิจการตลาดออนไลน์ โรงเรียนออนไลน์ หรือ การขายต่างๆ ที่เน้นไปเชิงบริการเป็นหลัก

• ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ใช้ในการเข้าถึงกลุ่มคนเยอะๆ ดูแลคนจำนวนมาก อย่างพวกนิติบุคคลคอนโด สถานที่เช่า


• ธุรกิจการการแพทย์ ที่ใช้ในการกระจายข้อมูลให้เข้าถึงคนจำนวนมาก


• ธุรกิจหลายสาขา ตัวแทนต่างๆ มีแค่บัญชีเดียวแต่สามารถเข้าถึงบัญชีแยก แชทแยกได้ เช่น B2s ,Home Pro ในปัจจุบันก็เลือกใช้ line oa นะครับ ในการควบคุมหลายๆสาขา

ประโยชน์ของ line oa ในเชิงธุรกิจ

เราก็รู้จักฟังก์ชั่น การทำงานต่างๆของ line Oa กันแล้ว ต่อไปเรามาดูประโยชน์ ที่จะช่วยเราในการทำธุรกิจต่างๆ

  • หมดกังวลเรื่องการเข้าถึงกลุ่มผู้ติดตาม
  • ประหยัดเวลา
  • ช่วยตอบกลับข้อความอัตโนมัติ
  • เพิ่มความโดดเด่นให้แก่ธุรกิจ
  • เพิ่มยอดขายด้วยเทคนิคการตลาดง่ายๆ

ค่าใช้จ่าย ในการใช้บริการ line oa

เราสามารถใช้งานได้ 3 แบบครับ คือถ้าเราไม่ต้องการใช้ฟีเจอร์มากมาย ตัวฟรี ก็สามารถใช้งานได้แล้วครับ แต่สำหรับธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ ที่อยากเข้าถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ก็สามารถ ใช้งานเป็นตัวเสียเงินได้ครับ ราคาก็จะแบ่งออกเป็นดังนี้ครับ

  • Free ส่งข้อความฟรีได้ 1000 ข้อความ เมื่อครบแล้วจะไม่สามารถส่งได้อะไรได้อีก
  • Basic ราคา 1,200 บาท ส่งข้อความฟรีได้ 15,000 ข้อความ หลังจากนั้นคิด 0.08 บาทต่อข้อความ
  • Pro ราคา 1,500 บาท ส่งข้อความฟรีได้ 35,000 ข้อความ หลังจากนั้นคิด 0.04 บาทต่อข้อความ


ส่วน ราคา Premium ราคา 450 บาทต่อปี อันนี้หากเราต้องการชื่อ id ที่เราสามารถออกแบบได้เอง และทำให้ลูกค้าติดต่อหรือค้นหาเราได้ง่ายขึ้นใน line ก็ถือว่า ราคาคุ้มมากๆครับ

สรุป

สำหรับ line oa นั้น เป็น 1 ในทางเลือกของหลากหลายธุรกิจมากครับ ในปัจจุบันเพราะด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถเลือกใช้งานได้แบบเรียกว่า เยอะมากๆ และจุดเด่นนั้นก็คือ เราสามารถใช้ line oa ในการ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าของเรา ส่วนเรื่องราคานั้น ก็สามารถจับต้องได้ เพราะ เทียบกับฟังก์ชั่นที่ทาง line ให้มาแล้ว คือว่า เกินคุ้มครับ เพราะเราจะสามารถการส่งข่าวสารหรือโปรโมชั่นต่างๆ ให้รับรู้ได้ทุกเวลา

เรียกได้ว่า อัพเดท ทุกสถานการณ์ก็ว่าได้ครับ แต่อย่าลืมเลือกแพ๊คเกจ ที่เหมาะกับการใช้งานของเราด้วยนะครับ และที่สำคัญในปัจจุบันประเทศไทยนั้น ผู้บริโภคก็นิยมใช้ line เป็นจำนวนมาก ด้วยครับ และเหตุผลนี้ครับ ที่ทาง fast tacks จึงอยากจะแนะนำให้ลองมาใช้ line oa ในการประยุกต์ธุรกิจของเรา ให้เติบโต กันนะครับ

คำถามที่พบบ่อย

Line oa ใช้งานในมือถือได้ไหม?

ตอบ: ปัจจุบันทาง line นั้นสามารถใช้งานได้ทั้ง คอมพิวเตอร์ pc และ มือถือครับ หากเราต้องการใช้งานผ่านมือถือ ก็ง่ายมากๆเลยครับ เราก็แค่โหลด แอพพลิเคชั่น ของทาง line ได้เลยครับ เพียงพิมพ์ เข้าไป ว่า LINE Official Account ก็พบแล้วครับ

Line oa คืออะไร?

ตอบ:คือ บัญชี LINE เพื่อธุรกิจ ใช้เพื่อติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจกับลูกค้า ซึ่งมีวิธีการใช้งานเหมือนกับบัญชี LINE ส่วนตัว สามารถใช้ฟีเจอร์พื้นฐานได้ทั้งหมด

Line oa เสียเงินไหม?

ตอบ: หากเราต้องการส่งข้อความจำนวนเยอะๆก็จะมีค่าใช้จ่ายตามแพ๊คเกจของทางline ครับ ราคามีดังนี้ครับ
Free ส่งข้อความฟรีได้ 1000 ข้อความ เมื่อครบแล้วจะไม่สามารถส่งได้อะไรได้อีก
Basic ราคา 1,200 บาท ส่งข้อความฟรีได้ 15,000 ข้อความ
Pro ราคา 1,500 บาท ส่งข้อความฟรีได้ 35,000 ข้อความ

จ่ายเงิน line oa อย่างไร?

ตอบ:เราสามารถเชือกชำระเงิน ได้2แบบครับ
1 Rabbit LINE Pay (Credit Card)
2 Credit Card

ทำธุรกิจออนไลน์ให้ ปัง ไปพร้อมกับเรา


Fast Tacks บริการรับทำการตลาดออนไลน์ เรามาพร้อมเพื่อช่วยเหลือธุรกิจของคุณทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ การวางแผนการตลาด ตลอดจนออกแบบรูปแบบการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO การยิงAds รวมถึงการตลาดรูปแบบอื่นๆ ด้วยทีมงานคุณภาพที่พร้อมจะ Support ดูแลคุณ เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

line oa คือ อะไร? Read More »

line oa คือ

แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok  ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

7 แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok

มาดูกันเลยครับ ว่า มีแอพตัดต่อวิดีโอ ตัวไหนกันบ้าง

แอพตัดต่อวีดีโอลง tiktok
รูปที่มา: Capcut

1. Capcut วิดีโอ

CapCut แอพตัดต่อวิดีโอยอดนิยม ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่ต้องการทำ video ง่ายๆลงใน tiktok สามารถปรับขนาดของวิดีโอ ได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้งก็สามารถทำได้ง่ายๆ หรือเราอยากเพิ่ม effect ให้กับวีดีโอ หวือหวา ซูมเข้า ซูมออกแบบมืออาชีพ Capcut นั้นถือว่า มีให้เลือกมากมาย ใครอยากตัดต่อวีดีโอแบสนุกๆ ง่ายๆ ก็มีการทำบลูสกรีนได้ด้วย อีกทั้งยัง สามารถใส่เสียง Effect ฮาๆ ฟรุ้งฟริ้ง ก็แค่จับวาง จับใส่ เพิ่มลดความดังของเสียงได้ และยังมีเทมเพลตเก๋ๆ สวยๆ ให้เลือกมากมาย

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ราคา: ฟรี

แอพตัดต่อวีดีโอลง tiktok
รูปที่มา: Capcut

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: VLLO

2. VLLO วิดีโอ

VLLO แอพตัดต่อวิดีโอยอดนิยมอีก1 ตัวเลยก็ว่าได้ครับ เพราะหากเราต้องการสร้าง Vlog หรือวิดีโอ YouTube แอปนี้จะเหมาะที่สุดเพราะ ง่าย เร็ว ไม่ติดลายน้ำและไม่มีค่าใช้จ่าย VLLO ถือว่าเป็นแอปตัดต่อวิดีโอที่เหมาะสำหรับ มือใหม่ การเปลี่ยนฉากได้ง่ายและรวดเร็ว

แต่หากเราต้องการฟังก์ชั่นอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถ เลือกชำระเงินเพื่อสมัครสมาชิกแบบ Premium รับคุณลักษณะอีกมากมาย เช่น โครมาคีย์, PIP, โมเสก และภาพเคลื่อนไหวคีย์เฟรมได้อีกด้วย

รูปที่มา: VLLO

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่นใน VLLO

  • สติกเกอร์ ป้ายกำกับ และข้อความเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับวิดีโอ
  • มีเพลงประกอบปลอดค่าลิขสิทธิ์มากกว่า 200 เพลง พร้อมโทนที่แตกต่างกันให้เลือกใช้งาน
  • ไม่ติดลายน้ำแม้ว่าคุณจะไม่ชำระเงินก็ตาม

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: Inshot

3. Inshot วิดีโอ

InShot โปรแกรมตัดต่อวิดีโอและโปรแกรมแก้ไขรูปภาพ ระดับมืออาชีพ inshot นั้นสามารถเพิ่มลูกเล่นให้กับการตัดต่อวีดีโอของเรา ได้อยากมากมาย เช่น เพิ่มเพลง, effect, ข้อความ, อีโมจิและฟิลเตอร์, พื้นหลังเบลอและอื่น ๆ แถมยัง ไม่มีลายน้ำ อีกด้วย inshot นั้นคือว่า มีลูกเล่นเยอะมากๆ ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่ที่ต้องการตัดต่อวีดีโอ ง่ายๆ และรวดเร็ว

รูปที่มา: Inshot

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น Inshot

  • เพิ่มเพลงของคุณเองเพื่อวิดีโอเช่นไฟล์ MP3 และรูปแบบอื่น
  • เพิ่มเสียงพากย์
  • การควบคุมระดับเสียงทั้งเสียงและวิดีโอต้นฉบับเพลง mp3
  • เพิ่มข้อความในวิดีโอและภาพ
  • เพิ่มอีโมจิที่ภาพ

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: Dizzi Video

4. Dizzi วิดีโอ


Dizzi แอพตัดวิดีโอ ยอดนิยมอีก1แอพเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ลูกเล่น effect เก๋ๆ สุดล้ำ ที่อัพเดทใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ฟิลเตอร์ล้ำ ๆ ที่มีให้เลือกมากมาย เช่น VHS, VCR, Film, Vintage สามารถตัดวีดีโอ สวยๆพร้อมสร้างลูกเล่น ภายในวีดีโอพร้อมลงใน tiktok ได้อย่างง่ายๆ เลยก็ว่าได้ครับ

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น Dizzi

  • สลับสี หรือเปลี่ยนให้ทุกอย่างเป็นขาวดำด้วยการปรับสีเพียงครั้งเดียว
  • เพิ่ม effect ภาพสั่น และแสงสีแเดง สีน้ำเงิน หรือสีม่วง เพื่อสร้างบรรยากาศแบบล้ำยุคเหนือจริง
  • ตกแต่งรูปภาพให้เป็นภาพปกงานอาร์ตสุดเท่ในสไตล์ของคุณ

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: Foco Video

5. FocoVideo วิดีโอ

FocoVideo เป็นหนึ่งในแอพสร้างและตัดต่อวิดีโอลง TikTok HD/FHD ฟรีที่ดีที่สุด มาพร้อมเทมเพลต มากมาย เช่น การเปลี่ยนภาพ เพลงป๊อป และเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งอีกมากมาย ให้คุณเปลี่ยนภาพถ่ายเป็นวิดีโอได้ในไม่กี่วินาที

รูปที่มา: Foco Video

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น Foco video

  • การถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอ
  • วีดีโอมีความคมชัด
  • ส่งออกวิดีโอเป็นแบบ GIF หรือแบบ 4K ที่ 60fps ได้

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: Viva Video

6. viva video วิดีโอ

VivaVideo เป็นแอพตัดต่อวิดีโอที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้เราสามารถบันทึกและตัดต่อวีดีโอแบบรวดเร็ว และสะดวก เหมาะสำหรับมือใหม่ ใช้งานง่าย ที่สำคัญคือ แค่ตัวฟรี ก็ถือว่า ฟังก์ชั่นครบเครื่องแล้ว สำหรับแอพตัดต่อวีดีโอ ตัวนี้

รูปที่มา: Viva Video

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น viva video

  • มีเพลงและสติกเกอร์ให้เลือกมากมาย
  • นำเข้าเพลงผ่าน iTunes บันทึก & วิดีโอ
  • เพิ่มรูปภาพได้อย่างง่ายดายเพื่อสร้างมิวสิควิดีโอสั้น ๆ ใน 10 วินาที

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

รูปที่มา: Kine Master

7. kine Master

KineMaster สุดยอดแอพตัดต่อวิดีโอ บนมือถือ เรียกได้ว่า หากคุณกำลังมองหาแอพตัดต่อวีดีโอบนมือถือที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว kine Master นั้นถือว่า ตอบโจทย์ที่สุด ด้วยลูกเล่นที่มากมายและการใช้งานที่รองรับบนมือถือเหมาะกับการออกแบบวีดีโอได้ทุกที่ ทุกเวลา ตัวนี้ถือว่า เหมาะกับหรับผู้ที่ต้องการ ตัดต่อบนมือถือเท่านั้น นะครับ จะเหมาะมากๆ

รูปที่มา: Kine Master

การใช้งาน


ใช้งานบนโทรศัพท์ ระบบ Android และ ios
สามารถใช้งานได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ได้

ฟังก์ชั่นที่โดดเด่น Kine Master

  • รวมและตัดต่อวิดีโอ รูปภาพ สติกเกอร์ effect พิเศษ ข้อความและอีกมากมาย
  • เพิ่มดนตรี เสียงพากย์ เสียง effect และเครื่องเปลี่ยนเสียง
  • พร้อมด้วยแอสเซตสำหรับดาวน์โหลดกว่า 2,500 รายการ เช่น การเปลี่ยนฉาก effect วิดีโอและรูปภาพ สติกเกอร์ ฟอนต์

ราคา: ฟรี และมีค่าใช้จ่าย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่> ดาวน์โหลด

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok ที่ทาง Fast tacks ได้นำมาแนะนำให้เพื่อนๆทราบ หวังว่า เพื่อนๆคงมีแอพตัดต่อวีดีโอ ในใจกันแล้วใช่ไหมครับ แต่ถ้าสำหรับใครยังไม่มีรู้ว่าแอพตัดต่อตัวไหนเหมาะกับเพื่อนๆ ก็สามารถลองไปดาวน์โหลด ใช้งานดูก่อนครับ เพราะ แต่ละแอพนั้นมีลูกเล่นและวิธีการทำงานไม่เหมือนกัน ระดับความยากง่าย ในการตัดต่อก็ขึ้นอยู่ที่ประสบการณ์ของเพื่อนๆด้วยครับ ดังนั้น หากเพื่อนๆต้องการทำให้วิดีโอของเรานั้นดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น ก็อย่าลืมไปฝึกฝนกันนะครับ

แอพตัดต่อวิดีโอลง tiktok  ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ Read More »

แอพตัดต่อวีดีโอลง tiktok

โปรโมท tiktok shop อย่างไร? ให้มียอดขาย (อัพเดทล่าสุด)

โปรโมท Tiktok shop คือ อะไร ?

โปรโมท tiktok shop คือ การโฆษณาในแอพ TikTok ของเรา เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและยอดผู้เข้าชม จำนวนมากไปยังสินค้าหรือบริการของเรา และทำให้มีโอกาสมากขึ้นในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม วิดีโอของเราจะแสดงเป็นโฆษณาในการแสดงผล ที่แสดงอยู่ในหน้า feed ของ tiktok นั้นเอง

ข้อดี โปรโมทใน tiktok shop มีอะไรบ้าง?

  • เพิ่มจำนวนยอดเข้าชมวิดีโอ
  • เพิ่มจำนวนการถูกใจ การแสดงความคิดเห็น และการแชร์วิดีโอ
  • เพิ่มจำนวนคนที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

วิธีโปรโมท tiktok shop

หยิบมือถือของคุณ แล้วทำไปพร้อมๆกันได้เลยครับ

1.เข้าไปที่ในแอพ TikTok shop

ให้แตะ โปรไฟล์ ที่มุมขวาล่างเพื่อไปที่โปรไฟล์ของคุณ (ตามภาพตัวอย่าง)

โปรโมท tiktok shop
รูปที่มา: Tiktok

2.การตั้งค่า เข้าสู่เมนู โปรโมท tiktok shop

คลิก ที่ ไอคอน ด้านบนมุมขวา 3 เส้น ที่มุมขวาบนเพื่อไปที่การตั้งค่า

โปรโมท tiktok shop
รูปที่มา: Tiktok

3.เลือกที่เมนู เครื่องมือผู้สร้าง แล้วเลือกที่ โปรโมท

โปรโมท tiktok shop
รูปที่มา: Tiktok

โปรโมท tiktok shop
รูปที่มา: Tiktok

4.เลือก video ที่เราต้องการ โปรโมท tiktok shop

โปรโมท tiktok shop
รูปที่มา: Tiktok

5.กำหนดเป้าหมายที่เราต้องการโปรโมท tiktok shop

ในหน้านี้ การกำหนดเป้าหมาย ก็เหมือนกับการเลือกวัตถุประสงค์ของการยิงแอดของมีเดียอื่นๆ ในการกำหนดเป้าหมายของ tiktok shop นั้นจะมีให้เลือก 3วัตถุประสงค์ ดังนี้

  • ยอดเข้าชมวีดีโอเพิ่มเติม (อันนี้เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการเพิ่มจำนวนคนดูวีดีโอของเรา ให้มากยิ่งขึ้นครับ)
  • การคลิกลิงก์สินค้ามากขึ้น( ต้องการเพิ่มผู้ชมไปยังร้านค้าใน tiktok shop )
  • เพิ่มผู้ติดตาม ( เหมาะสำหรับ การเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม )

ทริคแนะนำ:
สำหรับการโปรโมท tiktok shop ให้มีประสิทธิภาพ แนะนำให้เลือกเป็น การคลิกลิงก์สินค้ามากขึ้นครับ
เพราะจะมีโอกาสที่ผู้ชมของเรา นั้นจะมีโอกาสซื้อสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น

รูปที่มา: Tiktok

6.กำหนดกลุ่มเป้าหมายในการโปรโมท tiktok shop

ในหน้านี้ทาง tiktok จะมีให้เราตั้งค่าและสามารถเลือกได้อยู่ 2 ตัวเลือก คือ

ผู้ชมเริ่มต้น (tiktok เลือกให้คุณ) หากคุณเลือกตัวเลือกนี้ ทาง tiktok จะกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เราโดยอัตโนมัติ เลยครับ

กำหนดเอง หมายถึง การที่เราสามารถเลือกกลุ่มเป้ายหมาย และสามารถกำหนดให้โฆษณาของเรานั้นไปแสดงที่ เรากลุ่มเป้าหมายที่เรานั้นกำหนดไว้ได้ครับ เช่น

  • เพศ
  • อายุ
  • ความสนใจ

รูปที่มา: Tiktok

รูปที่มา: Tiktok

7.กำหนดงบประมาณ

ให้เรากำหนดงดประมาณที่เราต้องการจะโปรโมทลงไปครับ งบประมาณขั้นต่ำในการโปรโมท tiktok shop คือ 30 บาท ต่อวัน ให้เราเลือกใส่จำนวน วันที่ต้องการโปรโมทและงบประมาณ จากนั้นกด ถัดไป

รูปที่มา: Tiktok

8.เพิ่มข้อมูลการชำระเงิน

ขั้นตอนนี้นะครับ การเพิ่มข้อมูลสำหรับการชำระเงินของเรานั้นจะแบ่งเป็น2 อย่างคือ


หากเราใช้งานโทรศัพท์ระบบ แอนดรอยด์ (Android) ผมแนะนำให้เรา ผูกบัตรกับบัตรบัญชีธนาคารและตัดเงินผ่านบัตรของเราได้เลยครับ จะสะดวกมากกว่า

แต่หากเราใช้ ระบบ ios (iPhone) อันนี้จะวุ่นๆหน่อยครับ เพราะจะไม่สามารถผูกบัตรธนาคารได้แบบ แอนดรอยด์ครับ แต่ทาง tiktok จะให้เราใช้ระบบ เติมเหรียญ คือเราต้องไป เติมเหรียญมาก่อนนะครับ ถึงจะสามารถโปรโมทได้ ราคาของเหรียญ ก็จะมีตามภาพตัวอย่างนี้เลยครับ

คำแนะนำ:
หากคุณต้องการที่จะโปรโมท tiktok shop แบบสะดวกสบาย แนะนำให้ทำผ่านระบบ แอนดรอยด์ (Android) มากกว่าครับ เพราะสามารถผูกกับบัตรชีธนาคารของเราได้โดยตรง และ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าระบบเติมเหรียญ ครับ

รูปที่มา: Tiktok

9.ตรวจสอบ เริ่มการโปรโมท

รูปที่มา: Tiktok

หลังจากนั้น เราก็ กดเริ่มการโปรโมท ได้เลยครับ เพียงแค่นี้การโปรโมทใน tiktok shop ของเราก็เสร็จสิ้นเรียบร้อยครับ เพียงเท่านี้ครับ เราก็จะมีโอกาสเพิ่มจำนวนยอดขายในร้าน tiktok shop ของเราแล้วครับ

หากคุณต้องการศึกษาเกี่ยวกับ Tiktok มากยิ่งขึ้น

ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความเหล่านี้ก่อนครับ คุณจะเข้าใจการทำการตลาดบน tiktok ได้อย่างง่ายขึ้น

สรุป

การโปรโมทใน tiktok shop นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ สำหรับใครที่ต้องการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชม ผู้ติดตาม และรวมไปถึง โอกาสการเพิ่มยอดขายในร้านค้าของเรา ดังนั้นหากเราต้องการประสบความสำเร็จกับการโปรโมทใน tiktok shop แนะนำให้ ตั้งใจทำเนื้อหาของเราให้น่าสนใจและมีคุณภาพ และกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราให้ตรงกับเนื้อหาที่เรานำเสนอสินค้าหรือบริการของเราให้ตรงกลุ่มมากที่สุด

เพียงเท่านี้ เราก็มีโอกาสที่จะทำยอดขายจาก tiktok shop ได้อย่างมหาศาลแล้วครับ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ขายสินค้าใน tiktok shop หลายๆ คนนะครับ ขอให้สนุกกับการขายสินค้าบน tiktok ครับ

หากคุณต้องการตัวช่วยด้านการตลาดออนไลน์ สามารถติดต่อสอบถามพวกเราได้เลยครับ

FAST TACKS บริการรับทำการตลาดออนไลน์

โปรโมท tiktok shop อย่างไร? ให้มียอดขาย (อัพเดทล่าสุด) Read More »

โปรโมท tiktok shop

วิธีสร้างริชเมนูใน LINE Official Account (จับมือทำ)

ริชเมนู (Rich Menu) คือ ภาพขนาดใหญ่ด้านล่างหน้าจอแชทที่แสดงขึ้นมาเวลาที่คนคลิกเข้ามาที่บัญชีของผู้ใช้ วิธีสร้างริชเมนูใน LINE Official Account ซึ่งเมื่อลูกค้าคลิกที่ภาพแล้วสามารถเชื่อมไปยังลิงก์ที่กำหนด หรือแอ็กชั่นอื่นๆ สามารถกำหนดได้สูงสุด 6 แอ็กชัน(1แอ็กชัน/1ช่อง)

คำแนะนำ: การออกแบบริชเมนู ให้สวยงามโดนใจลูกค้าและให้ข้อมูลที่ลูกค้ามักถามบ่อย จะช่วยลดระยะเวลาและทุ่นแรงในการตอบคำถามของเราลงได้

ตัวอย่าง: ริชเมนูบน line official

รูปที่มา: LINE Official Account

วิธีสร้างริชเมนูใน LINE Official Account

เราสามารถออกแบบริชเมนู ได้ง่ายๆด้วยตัวเอง ภายในเวลาไม่กี่นาที มาดูวิธีการกันได้เลย

1.เข้าไปที่เว็บไซต์ manager.line.biz “คลิกที่ ริชเมนู”

รูปที่มา: LINE Official Account

2.กด “สร้างใหม่”

รูปที่มา: LINE Official Account

3.ตั้งชื่อริชเมนู ( ชื่อที่ตั้งนี้ จะไม่แสดงให้ผู้ติดตามเห็นนะครับ)

รูปที่มา: LINE Official Account

4.ตั้งค่า เปิด-ปิด การใช้งานริชเมนู ในกรณีที่เปิดใช้งาน สามารถตั้งค่า วัน-เวลา ที่ริชเมนูสามารถทำงานได้อีกด้วย

รูปที่มา: LINE Official Account

5.กำหนดข้อความในเมนูบาร์ ซึ่งจะแสดงในริชเมนู ตามตัวอย่างภาพประกอบ

รูปที่มา: LINE Official Account

กดที่คำว่า “เมนู” หรือ “ข้อความอื่นๆ” แล้วใส่ข้อความที่เราต้องการแสดงลงไปในเมนูบาร์

คำแนะนำ: เราสามารถเปลี่ยนข้อความบนเมนูบาร์ให้เป็นข้อความเฉพาะของแบรนด์เราได้เช่น ชื่อแบรนด์ ชื่อสินค้า หรือสโลแกน เป็นต้น

6.เลือก “แสดง” ตรงเมนู “การแสดงเมนูแบบเริ่มต้น” เมื่อลูกค้าเปิดเข้ามา หน้าจอริชเมนูของเราก็จะแสดงโดยอัตโนมัติ

รูปที่มา: LINE Official Account

7.การตั้งค่าคอนเทนต์ คลิก “เลือกเทมเพลต” เพื่อกำหนดรูปแบบในการแบ่งพื้นที่ใส่แอ็กชัน(ใส่ได้1 ช่อง=1แอ็กชัน)

รูปที่มา: LINE Official Account

เลือกรูปแบบของเทมเพลตที่เราต้องการ หรือที่เหมาะสมกับบริการของเรา จากนั้นกด “เลือก”

คำแนะนำ: Line official Account นั้นสามารถมีเทเพลตให้เลือกทั้งแบบใหญ่และแบบเล็ก เราสามารถเลือกได้ตามความต้องการของเราได้เลย

รูปที่มา: LINE Official Account

สามารถคลิกที่ “ ดีไซน์ไกด์” เพื่อดูขนาดของแต่ละเทมเพลตได้อย่างละเอียด

8.อัพโหลดรูป ตามขนาดที่กำหนดไว้

ขนาดรูปที่ทาง Line Oa แนะนำ

  • 2500×1686 Px
  • 2500×843 px
  • 1200×810 px
  • 1200×405 px
  • 800×540 px
  • 800×270 px

รูปที่มา: LINE Official Account

ขนาดไฟล์: ต้องมีขนาดไม่เกิน 1MB
รูปแบบไฟล์: JPE,JPEG,PNG

9.กำหนดแอ็กชันโดยเลือกว่าต้องการให้ผู้ติดตามคลิกแล้วเกิดแอ็กชันแบบใด เราสามารถเลือกได้ 5แบบ

  • ลิงก์
  • ข้อความ
  • บัตรสะสมแต้ม
  • คูปอง
  • ไม่กำหนด

หมายเหตุ หากเราเลือก ไม่กำหนด เมื่อมีผู้ใช้งานคลิกจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

รูปที่มา: LINE Official Account

ผมแนะนำให้คุณอ่าน วิธีใช้งาน Line oa เพิ่มเติมได้ที่นี้:

โบนัสจากเรา

เนื่องจากริชเมนูสามารถใส่บัตรสะสมแต้ม (Reward cards) ได้ ดังนั้น ร้านค้าที่มีบัตรสะสมแต้ม สามารถนำบัตรมาใส่ไว้ส่วนนี้ ให้ผู้ติดตามของเราสามารถทราบได้

สรุป

สำหรับเพื่อนๆที่ใข้ Line oa ก็สามารถศึกษา วิธีการออกแบบริชเมนู เพื่อนำไปใช้ตกแต่งline เพือให้เกิดประโยชน์กับลูกค้าที่ติดตามเข้ามาและ ที่สำคัญยังสามารถช่วยเราประหยัดเวลาในการตอบคำถามเบื้องต้นสำหรับคำถามที่เรามักพบบ่อยอีกด้วย ริชเมนูนั้นยังถือเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ ยังสามารถช่วยกระตุ้นด้านการทำการตลาด ที่นำไปสู่ยอดขายของเราได้อีกด้วย

วิธีสร้างริชเมนูใน LINE Official Account (จับมือทำ) Read More »

วิธีสร้างริชเมนูใน LINE

วิธีทำโฆษณา Facebook 2022(ยิงแอดยังไงให้ปัง)

 วิธีทำโฆษณา Facebook 2022 ทำอย่างไร?

 

ทำโฆษณา Facebook 2022 สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น
บริการรับทำFacebook Ads ที่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้อย่างละเอียดในปี 2022 เพื่อกลุ่มลูกค้าของคุณเข้าถึงสินค้าได้อย่างง่ายดาย ทำให้โฆษณาที่ปรากฏขึ้นในฟีดข่าวของลูกค้าของคุณ เมื่อพวกเขามีความสนใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสินค้าของคุณ หรือผู้ใช้ที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับเพจของคุณแต่ไม่ได้กดติดตาม กำหนดเพศรวมทั้งวัยได้แม่นยำขึ้น จากรายงานของเฟซบุ๊ค เลือกพื้นที่สำหรับการโฆษณาแฟนเพจได้มากกว่าเดิมด้วยขั้นตอนพวกนี้

 
 

Fast tacks การตลาดออนไลน์ ขอแนะนำว่า 5 วิธีนี้จะช่วยให้เพื่อนๆหลายท่านจะนำเทคนิคเหล่านี้ไปลองปรับใช้กันดูนะครับ

 
 

1.กำหนดโฆษณาของเราให้เข้าถึงทั้งผู้ใช้ใน Facebook และ Messenger

เราสามารถกำหนดและเลือกได้ว่าอยากให้โฆษณาของเรานั้นไปปรากฏแสดงอยู่ในที่ใดในตำแหน่งไหนของ Facebook หรือจะปรากฏบนฟีดข่าวเฟซบุ๊คของกลุ่มเป้าหมาย หรือ ลงโฆษณา facebook แมสเซนเจอร์ (Messenger) การโฆษณาในช่องแชท ก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งการโปรโมททั้ง 2 ช่องทางนี้เหมาะกับขายสินค้าแล้วก็บริการในทันที
 
แต่ถ้าเกิดอยากได้เพิ่มผู้ติดตามเพจ การโฆษณาบนฟีดข่าวสารจะเป็นช่องทางที่ดียิ่งกว่า
 

Note:หากเราต้องการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามแฟนเพจ แนะนำว่า ควรลงโฆษณาแค่บนหน้า ฟีดของFacebook อย่างเดียวก็เพียงพอแล้วครับ

 

2.ใช้สถิติเชิงลึกของแฟนเพจในการเลือกเพศและช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมาย

 
แต่ละสินค้าและก็บริการ นั้น เพศ และอายุของกลุ่มเป้าหมายของเราก็จะมีความแตกต่างกันด้วยสาเหตุหลายอย่าง เช่น ความอยากได้ ,ความพึงพอใจ ,อำนาจในการซื้อ เราจึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งพวกนี้เพื่อเป็นอันดับแรก เข้าถึงเพศ และวัย ของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดที่สุด ด้วยแนวทางวิเคราะห์จากเครื่องมือที่แม่นยำในการค้นหาความสนใจของผู้ใช้ 
ตรงนี้เราสามารถดูข้อมูลได้จากแฟนเพจของเราด้เลยว่า แฟนเพจของเรานั้น มี กลุ่มผู้ใช้ งานเป็นเพศ ไหนและ ช่วงอายุเท่าไหร่ ที่เข้ามาชมหรือติดตามแฟนเพจของเรา
ข้อมูลจากรายงานของ:
เฟซบุ๊ค
 
 
 
 

3.การกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่ หรือผู้ที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจก็ได้

 
การมองหากลุ่มเป้าหมายจากเพศ หรือวัยบางทีอาจไม่เพียงพออีกต่อไปในการทำโฆษณาของ Facebook ในปี2022 ไม่ว่าคุณจะทำโฆษณาเฟสบุ๊ค เพื่อมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆหรือโฆษณาไปยังผู้ติดตามเพจ หรือเพื่อนของผู้ติดตามเพจที่มีความสนใจเช่นเดียวกัน หรือผู้ที่เคยมองเห็นเพจของคุณผ่านๆแต่มิได้กดติดตาม ก็สามารถทำได้ เพื่อทำให้บุคคลกลุ่มนี้มองเห็นโฆษณาซ้ำ แล้วก็กลายมาเป็นลูกค้าของคุณ
 

4.การทำโฆษณาแบบเจาะจงภูมิประเทศ หรือบริเวณใกล้ๆเคียง

 
การโฆษณาสามารถเลือกพื้นที่ได้ไม่จำกัด สินค้าแล้วก็บริการที่ต่างกันทำให้กลุ่มเป้าหมายอยู่ในเขตพื้นที่ที่ต่างกัน พวกเราขอยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเช่น สินค้าจำพวกเทคโนโลยีสารสนเทศ จะสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายเพราะ ผู้ที่อาศัยในเมือง หรือเมืองใหญ่จะมีความต้องการมากมายเป็นพิเศษ หรือสินค้าทางการเกษตร กลุ่มเป้าหมายจะอยู่ภายในเขตพื้นที่ตามต่างจังหวัด พวกเรามีเครื่องมือที่จะสามารถช่วยให้คุณรู้ดีว่า กลุ่มเป้ามายของคุณอยู่ภายในเขตพื้นที่ใดของประเทศบ้าง
 
 

5.แนะนำให้เลือกกลุ่มเป้าหมายจากพฤติกรรม มากกว่าการเลือกความสนใจ

 
เข้าใกล้ลูกค้าใหม่ๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีก เมื่อคุณสามารถเลือกบริการรับลงโฆษณาออนไลน์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ให้ความสนใจในเรื่องต่างๆเวลานี้ ดังเช่น คุณอยากขายอุปกรณ์สำหรับการทำของหวาน ถ้าผู้ใช้ให้ความสนใจในบริการสอนทำขนมเค้กฟรี พวกเขากำลังมองหาวีดีโอสอนทำขนมเค้ก เมื่อสิ่งที่มีความต้องการกลุ่มนี้มีความสอดคล้องกับบริการของคุณ โฆษณาจะปรากฏบนฟีดข่าวของพวกเขา
 


Note:แนะนำว่าในปี2022นี้การทำโฆษณาบน Facebook ด้วย videoจะได้ผลตอบรับได้ดีกว่าปีต่างๆที่ผ่านมาแน่นอนครับ

 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับแนวทางที่ทาง Fast tacks ได้นำมาฝากเพื่อนๆกันวันนี้
หวังว่าบทความจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆหลายๆคน และลองนำไปปรับใช้กันดูนะครับ

 

 

 

Fast tacks บริการรับทำการตลาดออนไลน์

เลือกบริการรับทำ Facebook Ads กับ Fast tacks เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ใกล้ขึ้นกว่าเดิม เพราะเรามีเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์เชิงลึก ที่สามารถค้นหาผู้ใช้ที่ให้ความสนใจใกล้เคียงกับสินค้าของคุณ บีบให้แคบลงด้วยการแยกเพศ และช่วงอายุ มองหาว่าพวกเขาค้นหาสินค้าจากพื้นที่ใดเยอะที่สุด

วิธีทำโฆษณา Facebook 2022(ยิงแอดยังไงให้ปัง) Read More »

Facebook 2022

Google Trends คือ อะไร? เทรนด์ฮิตเครื่องมือการตลาดออนไลน์

Google Trends คือ เครื่องมือค้นหาที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทราบได้ว่ามีการค้นหาหรือสอบถาม โดยคำที่เฉพาะเจาะจงบ่อยเพียงใดในช่วงเวลาหนึ่งๆ โดยการวิเคราะห์การค้นหา เพื่อคำนวณจำนวนการค้นหาสำหรับคำที่ต้องการทราบ ข้อมูลแนวโน้มการค้นหา เพื่อปรับแต่งกลยุทธ์การค้นหา และรูปแบบสำหรับคำหลักที่เฉพาะเจาะจงของคำหลักในกระแสตามสถานที่และช่วงเวลา

Google Trends เครื่องมือทรงพลังที่นักการตลาดหลายคนต้องรู้จัก

สำหรับที่มาที่ไปของ Google Trends นั้นมาจากบริษัทแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง Google เว็บไซต์ยอดฮิตที่ทั่วโลกต่างรู้จัก ได้คลอดเป็นGoogle Trends ออกมา โดย Google Trends จะจับทุกความเคลื่อนไหว พฤติกรรมการบริโภคสินค้าของผู้คน รวมไปถึงทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสในแต่ละปีตั้งแต่ปี ค .ศ .2001จวบจนถึงปัจจุบัน ผ่านคำค้นหาที่เรามักเรียกกันว่า Keywords

ซึ่งนักการตลาดออนไลน์นับว่า คือ หนึ่งในเครื่องมืออันทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการค้นหาเรื่องราวที่เป็นกระแสและใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในยุคนี้

Google Trends เครื่องมืออันทรงพลังที่มีประสิทธิภาพและประโยชน์มหาศาล

พฤติกรรมการบริโภคของมนุษย์ที่เปลี่ยนไปทำให้ความต้องการของตลาดเปลี่ยนแปลงและนั่นไม่อาจทำให้นักการตลาดออนไลน์หยุดนิ่งได้ ซึ่งนักการตลาดออนไลน์หลายคนใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการหาไอเดียใหม่ๆมานำเสนอContent ให้เป็นกระแสมากที่สุด

และสามารถหยุดนิ้วคนดูได้นานมากที่สุดจากการโปรโมทผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งเป็นตัวช่วยในการวางแผนการทำธุรกิจที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นทิศทางแนวโน้มของการตลาดที่จะเติบโตในปีนั้นๆได้อีกด้วย โดยดูจากแนวโน้มของกราฟ รวมไปถึงยังช่วยในเรื่องของการเลือก Keywords มาทำ SEO หรือ Search engine optimization และยังสามารถทำ SEM ได้ระดับหนึ่ง

หากคุณอยากรู้ว่า Google Trends มีประโยชน์ในการทำ Seo อย่างไร

ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ก่อนครับ> วิธีทำ Seo ให้ติดอันดับปี2022

วิธีการใช้ Google Trends สำหรับนักการตลาดออนไลน์มือใหม่

มาดูเครื่องมือของ Google Trends กันบ้างค่ะ เริ่มต้นเลยไปที่เว็บไซต์ https://trends.google.com/trends/ จากนั้นจะปรากฏหน้าจอแบบนี้ขึ้นมาค่ะ โดยในหน้าแรกของเจ้าเครื่องมือทรงพลังนี้จะมีช่องการค้นหา Keywords ค่ะ

Google Trends คือ
ที่มารูป: Google Trends

ภายในหน้าแรกของเครื่องมือนี้ จะมีทั้งเทรนด์การค้นหาที่คนส่วนมากค้นหาบ่อยๆ หรือคำที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในช่วงเวลานี้ ยกตัวอย่างเช่น Rihana นักร้องชื่อดังระดับโลก และยังมีปุ่ม More trending searches สำหรับให้เราค้นหาได้เพิ่มเติมอีกด้วย และยังมีการจัดเก็บคำค้นหาประจำปีตั้งแต่ 2001-2022 ให้อีกด้วยค่ะ

Google Trends คืออะไร
ที่มารูป: Google Trends

นอกจากนี้นักการตลาดออนไลน์ยังสามารถรู้สถิติผ่านกราฟได้ว่า คำนี้มีคนสนใจมากสุดเท่าไหร่ในแต่ละวัน ผ่านการดูกราฟแบบ Real time ซึ่งในวันนี้ดิฉันจะสาธิตคำว่า ‘กาแฟ’ ซึ่ง Keywords นี้ได้รับความสนใจและนิยมมากสุด ถ้าคำค้นหามีค่า Values ถึง 100 นั่นหมายความว่า นิยมมาก แต่ถ้าคำค้นหามีค่า Values 0 นั่นหมายความว่า ไม่เป็นที่นิยมเป็นต้น

Google Trends คือ
ที่มารูป: Google Trends

ถัดจากนั้น Google Trends ยังสามารถแสดงผลได้ว่า จังหวัดไหนมีคำค้นหามากที่สุดโดยเรียงจากจังหวัดที่มากที่สุดไปถึงน้อยที่สุด และยังจัดอันดับ 1 ถึง 5 ให้อีกด้วยค่ะ ซึ่งคำค้นหาเหล่านี้จะช่วยอำนวยความสดวกให้กับนักการตลาดออนไลน์ได้มากถึงที่สุด หากต้องการใช้ในทำ google ads เป็นต้น

Google Trends คืออะไร
ที่มารูป: Google Trends

รวมไปถึงเครื่องมือนี้ยังช่วยนักการตลาดออนไลน์ในการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อได้อีกด้วย โดยเจ้า Google Trends จะแสดงหัวข้อคำค้นหาที่ Keywords ของเราเกี่ยวข้อง และประโยคของคำค้นหาที่มีคนถามมากที่สุด

หากคุณอยากเข้าใจความรู้ด้าน การตลาดออนไลน์ มากขึ้น ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความเหล่านี้ก่อนครับ

นอกจากนี้ Google Trends ยังมีฟีเจอร์ในการเลือกช่วงเวลาในการค้นหาคำค้าหาแต่ละคำได้ ทั้งการเลือกช่วงเวลานี้นักการตลาดจะสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกดูเป็นชั่วโมง หรือ เลือกดูเป็นวัน ปี หรือย้อนหลัง 5 ปีก็ย่อมได้แล้วแต่ตัวของผู้ใช้งานเองเลยค่ะ

ทั้งยังสามารถเลือกแพลตฟอร์มที่ใช้ในการค้นหาได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาคำนี้ บนเว็บไซต์ การค้นหาเป็นรูปภาพ หรือการหาคำค้นหาบน Youtube ก็สามารถทำได้เช่นกัน เยี่ยมสุดๆไปเลยใช่ไหมคะ

รวมไปถึงนักการตลาดยังสามารถเลือกดูความนิยมของคำค้นหาในแต่ละหัว หรือ สิ่งที่คนอื่นกำลังสนใจมากที่สุดและเป็นกระเสในขณะนี้ได้ด้วยเช่นกันค่ะ

สำหรับสายทำ content พลาดไม่ได้เลยค่ะ เพราะGoogle Trends เขายังมีอีกหนึ่งตัวช่วยหลักที่ช่วยซัพพอร์ตสายContent อย่างเราๆ

นั่นคือ การเลือกคำค้นหามา compare กันค่ะ หรือการเปรียบเทียบ keywords แต่ละคำนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าดิฉันเลือกคำว่า กาแฟ กับคำว่า แก้วกาแฟ แล้วลองนำมาค้นหาใน Google Trends ค่ะ

Google Trends

ดังภาพจะเห็นได้ชัดเลยว่า คำไหนคนนิยมใช้มากกว่ากันซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับเหล่านักผลิตcontent ดังนั้นคนผลิตนะ ก็จะเลือกได้ว่าควรใช้คำไหนและไม่ควรใช้คำไหนนั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถหาแหล่งอ้างอิง หรือเว็บไซต์อ้างอิง ได้จาก Google Trends อีกด้วยนะคะ

โดยสามารถเข้าไปยังเครื่องมือที่เรียกว่า Daily Search Trends ได้เลยค่ะ ไม่ได้เพียงแต่ค้นหาได้ในประเทศไทยเท่านั้นยังสามารถค้นหาได้ทั่วโลก โดยนักการตลาดยังสามารถค้นหาผ่านเมนูที่ drop down ลงมาในหน้าแรกได้อีกด้วย และ ในแถบเมนูนั้นสามารถเลือกประเทศที่เราจะค้นหาเทรนด์ของแต่ละประเทศ ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีกระแสแตกต่างกันไปค่ะ

สรุป

นับได้ว่า Google Trends เป็นเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพทั้งในด้านการหาคำค้นหาที่เป็นเทรนด์หรือกำลังเป็นกระแส และเป็นที่นิยมถูกพูดถึงกันมากที่สุดในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งบนโลกใบนี้ รวมถึงการหา Insightของผู้บริโภค ความสนใจของผู้บริโภค พฤติกรรมการใช้คำค้นหาของแต่ละแพลตฟอร์ม ก็สามารถหาได้เช่นกัน ทั้งยังสามารถเป็นเครื่องมือของนักการตลาดออนไลน์ทั้งสายคอนเท็นต์และนักการตลาดสายยิง Google Ads สามารถใช้ได้อีกด้วยเช่นกัน

ติดปีกธุรกิจของคุณไปพร้อมกับพวกเรา Fast tacks บริการรับทำการตลาดออนไลน์

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย

Google Trends คือ อะไร? เทรนด์ฮิตเครื่องมือการตลาดออนไลน์ Read More »

Google Trends คืออะไร
Scroll to Top

Fasttacks ให้ความสำคัญต่อความเป็นส่วนตัว เราจะทำงานอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความลับ และควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกความยินยอมแบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ โดยคลิกที่ปุ่ม เลือกตั้งค่าประเภทคุ้กกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณเพื่อใช้เป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึก